ครม.ให้'ขรก.'ลาอุปสมบท งานพระราชพิธีฯ2-16พค.


เพิ่มเพื่อน    


    ซ้อมริ้วขบวนแห่พระสุพรรณบัฏ-ริ้วราบใหญ่ จำลองพื้นที่ภายในพระบรมมหาราชวังทำการฝึกสมจริง 28 มี.ค. ผบ.เหล่าทัพตรวจเยี่ยมซ้อมริ้วขบวนสถลมารค ขณะที่ ครม.เห็นชอบ ขรก.ลาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2-16 พ.ค.
    เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 26 มี.ค.2562 ที่ลานอเนกประสงค์กองทัพภาคที่ 1 ภายในกรมทหารราบที่ 11 กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราสถลมารค ภายใต้คณะกรรมการฝ่ายพิธีการงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีการฝึกริ้วขบวนแห่พระสุพรรณบัฏ ดวงพระราชสมภพ และพระราชลัญจกร ซึ่งเป็นริ้วขบวนที่ 1 และฝึกซ้อมริ้วขบวนราบใหญ่ ไปทรงประกาศเป็นพุทธศาสนูปถัมภก ซึ่งเป็นริ้วขบวนที่ 2 ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยเป็นการฝึกตรวจภูมิประเทศ ดูจุดเริ่มต้น จุดเทียบเกย ริ้วขบวนที่ 1 และริ้วขบวนที่ 2 และมีการจำลองเส้นทางพื้นที่ฝึกซ้อมเสมือนสถานที่จริง โดยมีกำลังพลที่ร่วมฝึกซ้อมจากหน่วยราชการในพระองค์, หน่วยเฉพาะกิจกองพลที่ 1 รักษาพระองค์, หน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 ตลอดจนหน่วยงานในกองทัพบกและเหล่าทัพ นอกจากนี้ ยังมีกองทหารเกียรติยศจากหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 ร่วมฝึกซ้อมด้วย
    สำหรับริ้วขบวนที่ 1 ริ้วขบวนแห่พระสุพรรณบัฏ ดวงพระราชสมภพ และพระราชลัญจกร โดยพระราชยานกง ในวันที่ 3 พ.ค.2562 เริ่มต้นจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ถึงที่พระแท่นมณฑลพระที่นั่งไพศาลทักษิณ รวมระยะทางเดิน 220 เมตรโดยใช้กำลังพลกว่าร้อยนาย 
    ส่วนริ้วขบวนที่ 2 ริ้วขบวนราบใหญ่ วันที่ 4 พ.ค.62 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จขึ้นประทับบนพระราชยานพุดตานทองในริ้วขบวนที่ 2 ขบวนเริ่มต้นจากเกยหน้าพระทวารเทเวศรรักษา พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยไปยังเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และจากเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดารามไปยังเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท รวมระยะทางไปกลับประมาณ 500 เมตร กำลังพลกว่า 100 นาย 
    คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราสถลมารค ให้ข้อมูลว่า การซ้อมริ้วขบวนในครั้งนี้เป็นการจำลองพื้นที่จริง โดยจำลองประตูพิมานไชยศรี จากเกยหน้าพระทวารเทเวศรรักษา พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ไปยังเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และจากเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดารามไปยังเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ทิศทางเหมือนจริง แต่เป็นการย่อส่วนระยะทาง ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่จริงพบว่าประตูพิมานไชยศรีมีขนาดกว้างพอ จึงไม่ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดิน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองริ้วขบวนเป็นการเดินในพื้นที่พระบรมมหาราชวัง จะไม่มีการใช้วงดุริยางค์ รวมถึงงดกลองมโหระทึก จะใช้เพียงกลองใหญ่ให้จังหวะในการเดินเท่านั้น ทั้งนี้ สำหรับรูปแบบริ้วขบวนที่ 1 และริ้วขบวนที่ 2 มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ประกอบด้วยส่วนนำริ้ว ส่วนพระราชยาน เครื่องสูงหักทองขวางหน้าและเครื่องสูงหักทองขวางหลัง
    คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราสถลมารค ให้ข้อมูลต่อว่า สำหรับการซ้อมริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารค ริ้วขบวนที่ 3 ที่กองทัพภาคที่ 1 ภายในกรมทหารราบที่ 11 จะมีขึ้นอีกครั้งในวันที่ 28 มี.ค. เวลา 08.30 น. โดยจะมีชุดจิตอาสาเฝ้าฯ รับเสด็จ จำนวน 2,000 นาย ร่วมฝึกซ้อมด้วย จากนั้นเวลา 13.30 น. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด อีกทั้งปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ จะเดินทางมาร่วมชมการฝึกซ้อมและตรวจเยี่ยมกำลังพล โดยใช้เวลาตรวจเยี่ยมประมาณ 40 นาที 
    อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17, 21 และ 28 เม.ย. ช่วงเช้าจะมีการซ้อมริ้วขบวนที่ 1 และ 2 ในพระบรมมหาราชวัง ส่วนช่วงบ่ายจะซ้อมริ้วขบวนที่ 3 เส้นทางเสด็จเลียบพระนคร ไป 3 วัด ได้แก่ วัดบวรนิเวศวิหาร, วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร รวมระยะทาง 7 กิโลเมตร การซ้อมในพื้นที่จริงตลอดทั้ง 3 วัน จะมีการนำยุทธภัณฑ์ซึ่งสำนักพระราชวังได้ทำการซ่อมบูรณะสำหรับใช้ในพระราชพิธี อาทิ พระแสงกระบี่หัวคชสีห์, กระบี่และหอกประกอบเครื่องแบบกรมพระตำรวจหลวง, ทวนสำนักพระราชวัง เป็นต้น มาร่วมซ้อมในริ้วขบวนด้วย 
    วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบให้ข้าราชการลาบรรพชาอุปสมบทโครงการ "บรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก" โดยไม่ถือเป็นวันลา ซึ่งมีวัตถุประสงค์คือ 1.เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2.เพื่อส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดีถวายเป็นพระราชสักการะแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการศึกษาและปฏิบัติธรรมตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา ตามแนวทางที่ถูกต้องอย่างแพร่หลาย 
    สำหรับเป้าหมาย จะเป็นกลุ่มข้าราชการ และประชาชนทุกหมู่เหล่า โดยกำหนดจำนวนผู้ที่จะบรรพชาอุปสมบทไว้ไม่น้อยกว่า 6,810 รูป ซึ่งจะดำเนินการทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยสถานที่ดำเนินการคือวัดทั่วประเทศไทยทั้ง 77 จังหวัด ระยะดำเนินการระหว่างวันที่ 2-16 พฤษภาคม 2562 รวมเวลาทั้งสิ้น 15 วัน ทั้งนี้ บุคลากรที่เคยลาอุปสมบทระหว่างรับราชการมาแล้ว สามารถลาบรรพชาอุปสมบทเพื่อเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ได้อีก. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"