‘แม้ว’โผล่‘จตุพร’มา ผวาส่งสัญญาณป่วน


เพิ่มเพื่อน    

  "ทักษิณ" โผล่อีก ปลุกสมุนความหวังคือสิ่งสำคัญในชีวิต ตราบใดที่มีลมหายใจอย่ายอมแพ้ "เป๊ปซี่" แฉ คนแดนไกลส่งสัญญาณป่วน ตีปี๊บปลุกระดมของเครือข่ายล้มเจ้า ขณะที่ "จตุพร" ยุติบทบาทผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย กลับมาทำงานเป็นประธาน นปช.เต็มตัว "สมศักดิ์" ชี้เพื่อไทยพล่าน เป็นการดิ้นเฮือกสุดท้าย อาจชวนประชาชนออกมาสร้างความขัดแย้ง 

    เมื่อวันที่ 29 มีนาคม นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีคอร์รัปชันหลายคดี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ Thaksin Shinawatra ระบุว่า "ความหวังคือสิ่งสำคัญในชีวิต เราทุกคนต้องอย่ายอมแพ้ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่นั้น เราจะยอมแพ้ไม่ได้ เราจึงต้องมีความหวังเพื่อเอาชนะทุกอุปสรรคด้วยสติปัญญาและด้วยกติกา"
     ด้านนายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ กลุ่มต่อต้าน คสช. แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กว่า "ทักษิณ" มาอีกแล้ว! มาทำไม ยิ่งมา ยิ่งทำให้สับสน ทำไมไม่มาเสียตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน
    ขณะที่นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ หรือเป๊ปซี่ นักข่าวอาวุโส โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sermsuk Kasitipradit โดยมีเนื้อหาว่า ส่งสัญญาณเตรียมป่วน หลังเคาะกะลาจากแดนไกล เครือข่ายนักโทษหนีคดีใน กทม.เตรียมเคลื่อนไหวป่วนสุดสัปดาห์นี้ ชูประเด็นโกงเลือกตั้ง ที่แม้วนักโทษหนีคดีได้ออกมาเคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. หนึ่งวันหลังเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศที่อยู่ในเครือ อย่างนิวยอร์กไทม์ กล่าวหา กกต.วางแผนโกง เตรียมบัตรเลือกตั้งมากกว่าผู้มีสิทธิ์จำนวนมาก 
    อ้างบางหน่วยเลือกตั้งผู้มาใช้สิทธิ์มีถึงสองร้อยเปอร์เซ็นต์ ผู้มาใช้สิทธิ์มากกว่าผู้มีสิทธิ์ในหน่วยเลือกตั้งนั้นสองเท่า และผลคะแนนที่ กกต.ประกาศในส่วนกลาง ไม่ตรงกับผลคะแนนที่นับที่หน่วยเลือกตั้ง สุดแต่แม้วจะมโน โดยที่ไม่มีหลักฐานหรือรายละเอียดสนับสนุนข้อกล่าวหาทุจริตในการเลือกตั้ง กล่าวหาลอยๆ เอามัน ไม่มีที่มาที่ไป ขณะที่แกนนำพรรคเพื่อไทยตั้งข้อกล่าวหาในลักษณะเดียวกัน หวังปลุกกระแสให้เกิดการชุมนุมใหญ่ต่อต้านรัฐบาล
    ด้าน pavin ผู้ต้องหาคดี 112 ประสานตีปี๊บให้คนเตรียมป่วน ในช่วงก่อนงานมงคลสำคัญของประชาชนทั่วประเทศ ช่วงต้นเดือน พ.ค. บอกถึงเวลาต้องต่อสู้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจากการโกงเลือกตั้ง เห็นถึงเจตนาจาบจ้วงสร้างความปั่นป่วนให้เกิดความวุ่นวายก่อนงานสำคัญ เรียกร้องให้โค่นล้มเอาคืนอำมาตย์ ใช้วิธีการต่อสู้แบบบาสติล เลียนแบบการต่อสู้ที่ฝรั่งเศส
    การตีปี๊บปลุกระดมของเครือข่ายล้มเจ้า ในช่วงก่อนงานมงคลประเทศถูกฝ่ายความมั่นคงคาดการณ์สถานการณ์ไว้ก่อนแล้ว ต้องเกาะติดสถานการณ์จากนี้ถึงช่วงงานมงคลประเทศ หากมีเหตุการณ์ป่วนอย่างที่ฝ่ายความมั่นคงประมาณการไว้ รับประกันเต็มเหนี่ยวมีจัดเต็มแจ่มจันทร์ชุดใหญ่
กลับมาปลุก นปช.ต่อ
    นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงว่า ขอประกาศยุติบทบาทการเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อชาติ ได้แจ้งต่อหัวหน้าพรรคให้ทราบแล้วตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ภารกิจของตนที่ประกาศไว้คือการรวบรวมเสียงฝั่งประชาธิปไตยให้ไปเทรวมในวันเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว เมื่อพรรคเพื่อชาติแถลงจุดยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย จึงถือว่าภารกิจเสร็จสิ้น ดังนั้นต่อไปนี้จึงเหลือสถานะเดียวคือ ประธาน นปช.
    ประธาน นปช.กล่าวถึงการไปยื่นยุบพรรคเพื่อชาติของ ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม แนวร่วม กปปส. ในประเด็นครอบงำพรรคเพื่อชาติ ว่าถือเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติและฝ่ายกฎหมายที่ต้องไปชี้แจงต่อ กกต. อย่างไรก็ตาม ผู้กองปูเค็มตนก็ไม่ทราบสถานะที่ชัดเจนว่าพ้นตำแหน่งราชการแล้วหรือยัง ขณะที่เจ้าตัวประกาศว่าพ้นแล้ว แต่ทางการข่าวยังมีข้อสงสัยกันอยู่ ผู้กองปูเค็มคงไม่ทราบว่าตำแหน่งผู้ช่วยหาเสียงของตนนั้นได้รับรองจาก กกต. ดังนั้นการขึ้นเวทีปราศรัยจึงกระทำได้ ในลักษณะที่ต้องได้รับค่าจ้าง ซึ่งถ้าตนได้รับค่าจ้างดังกล่าว ก็จะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิคนปัญญาอ่อน ซึ่งถือเป็นความตั้งใจของตน ดังนั้นประเด็นดังกล่าวจึงไม่ได้น่าวิตกแต่อย่างใด
    นายธีระพงษ์ เผ่ากา รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า นายจตุพรทำหน้าที่รับจ้างหาเสียงให้พรรคเพื่อชาติ ไม่ได้มากำกับหรือครอบงำพรรค ไม่เคยเข้าประชุมกรรมการบริหารพรรคแม้แต่ครั้งเดียว ตนเป็นกรรมการบริหารพรรคยืนยันได้ ส่วนเรื่องการสรรหาผู้สมัครตามข่าว ทางหัวหน้าพรรคได้ชี้แจงไปแล้วว่าทางพรรคมีคณะกรรมการสรรหา ซึ่งเป็นผู้ดูแลจัดผู้ลงสมัคร ตนขอยืนยันว่านายจตุพรเป็นเพียงผู้ช่วยหาเสียง ไม่เคยครอบงำหรือกำกับพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยังแสดงตัวเป็นเจ้าของพรรครวมพลังประชาชาติไทยมากกว่านายจตุพรเสียอีก เห็นได้จากเมื่อ 2 วันนี้ยังมาระดมให้ประชาชนช่วยบริจาคให้พรรคเพื่อให้พรรคอยู่ได้
    วันเดียวกันนี้ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “พวกเราตั้งใจพัฒนาพรรคพลังประชารัฐให้เป็นพรรคการเมืองถาวร เพื่อปฏิบัติตามเจตนารมณ์ที่พี่น้องประชาชนเลือกพวกเราเข้ามาทำหน้าที่ การรวมเสียงของพรรคพลังประชารัฐ 
    "ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อดำเนินการไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล พรรคมีจุดยืนชัดเจนที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่แบ่งสี ไม่แบ่งฝ่าย นำประเทศสู่ความสงบสุข ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐต้องดำเนินการหารือกับพรรคอื่นที่มีอุดมการณ์เดียวกัน โดยพรรคเราเชื่อว่ายังมีเวลาที่จะเดินสายหารือ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐระบุ
เพื่อไทยดิ้นเฮือกสุดท้าย
    ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่ากรณีของพรรคเพื่อไทย ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและมองดูตัวเองแล้วว่าไม่มีโอกาสเข้าสภา หากไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้วจะยิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ แน่นอน ถือเป็นเฮือกสุดท้ายที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจะต้องสู้อย่างเต็มที่ เพราะมองดูแล้วเสียงยังปริ่ม 
    "หากไม่ได้แสดงออกอะไรเต็มที่ อาจจะไม่มีโอกาสได้แสดงอีก ถือเป็นการสู้เป็นเฮือกสุดท้ายแล้วหรือไม่ และการแสดงออกมานั้น หากไม่สมหวัง อาจชวนพี่น้องประชาชนออกมาโดยสร้างความขัดแย้งอีกหรือไม่ เพราะแต่ละคนที่ออกมาพูดในลักษณะเหมือนเรียกร้องในมุมของตัวเองเป็นหลัก และทำให้ประชาชนเป็นเดือดเป็นแค้น เป็นการจุดชนวนความขัดแย้ง และที่พวกเขาพยายามเรียกตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ตรงนี้เหมือนพยายามแบ่งฝักแบ่งฝ่าย บีบคนที่ไม่สนับสนุนตนเองเป็นเผด็จการ ไม่ทราบว่าจะฟ้องร้องได้หรือไม่ นักกฎหมายของพรรคพลังประชารัฐกำลังสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่"
    เมื่อถามถึงการบริหารงานของรัฐบาลในช่วงรับรองผลการเลือกตั้ง จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า การบริหารงานของรัฐบาลในช่วงนี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีอำนาจเต็มไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ เป็นจุดแข็งหนึ่งที่ทำให้ช่วยเหลือประชาชนได้เต็มที่ อย่างเช่น ฝนทิ้งช่วง ความแห้งแล้ง ปัญหาหมอกควัน รัฐบาลสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ทันที ส่วนรัฐบาลใหม่ไม่ทราบว่าจะใช้เวลานานเท่าใด 
    เขาเสนอให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ดำเนินการนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐนำไปหาเสียง ควบคู่ไปกับช่วงเวลาที่รอคอย เช่น ปัญหาที่ดิน ส.ป.ก.ที่เป็นเรื่องการแก้ไขกฎหมาย หรือเรื่องราคาสินค้าเกษตร หรือการช่วยชาวนาในเรื่องราคาข้าว ที่พรรคมีนโยบายช่วยเหลือทั้งค่าปลูก ค่าเก็บเกี่ยว สามารถเตรียมการไว้ล่วงหน้าได้เลย เพราะเป็นเรื่องดีๆ ที่ควรทำอยู่แล้ว หรือเห็นว่านโยบายของพรรคไหนดีทำได้เลยก็ควรนำมาพิจารณา ใครเข้ามาเป็นรัฐบาลสามารถทำต่อไปได้เลยไม่ต้องรอ ไม่ต้องกลายเป็นช่วงหลุมอากาศ
    เมื่อถามถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ตัดสินใจว่าจะอยู่ฝ่ายไหน และมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา แต่อาจไม่ทันใจประชาชน เรื่องตรงนี้เป็นเรื่องภายในของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สามารถไปเร่งรีบอะไรได้ ส่วนการรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลนั้น คิดว่าพรรคที่ไม่ได้ไปลงสัตยาบันกับพรรคเพื่อไทย เขาคงเอนเอียงมาทาง พล.อ.ประยุทธ์อยู่แล้ว ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรคงต้องไปพูดคุยกันอีกที
ทวงคำพูด"ธนาธร"
    นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า มั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่รอประกาศผลจาก กกต.อย่างเป็นทางการเท่านั้น ทั้งนี้ อยากฝากถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่เคยพูดว่าจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มาจาก ส.ส.เท่านั้นด้วยว่า วันนี้กลืนน้ำลายตัวเองแล้วหรือ ถึงกลับคำพูดไปสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ให้เป็นนายกรัฐมนตรี อยากฝากให้พี่น้องประชาชนจับตาดูให้ดีสำหรับจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่ ที่เคยให้คำมั่นกับพี่น้องประชาชนไว้ว่ายังน่าเชื่อถืออยู่หรือไม่
    นายธนกรกล่าวอีกว่า พรรคอนาคตใหม่ชูนโยบายจะแก้รัฐธรรมนูญ โจมตีคนร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่พรรคอนาคตใหม่ได้อานิสงส์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้จนได้ ส.ส.จำนวนมาก โดยเฉพาะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แล้วยังคิดจะล้มล้างรัฐธรรมนูญอีก นายธนาธรน่าจะขอบคุณคนร่างรัฐธรรมนูญด้วยซ้ำ นอกจากนี้ อยากจะให้หยุดพฤติกรรมใช้วาทกรรมแบ่งฝ่ายประชาธิปไตย แบ่งแยกประชาชนได้แล้ว เพราะการเลือกตั้งเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ทุกพรรคลงเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ตามกติกา การเลือกตั้งจบแล้ว อย่าสร้างความขัดแย้งในหมู่คนไทยอีกเลย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ในการจับขั้วเพื่อสนับสนุนหัวหน้าพรรคเบื้องต้นนั้น ปรากฏว่า จากเดิมมีแคนดิเดตหัวหน้าพรรค 4 คน ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค, นายกรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้า, นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ล่าสุด เหลือแคนดิเดตเพียง 2 คนเท่านั้น คือนายจุรินทร์และนายกรณ์ โดยนายอภิรักษ์ได้ขอถอนตัว
    รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ภายหลังจากที่นายถาวร เสนเนียม ว่าที่ ส.ส.จังหวัดสงขลา ได้ให้สัมภาษณ์ดักคอไม่ให้ กก.บห.รักษาการเป็นผู้ตัดสินใจทางการเมืองของพรรค นายกรณ์ได้ติดต่อไปยังนายถาวรเพื่อขอให้สนับสนุนตน กระทั่งเรื่องเข้าหูกลุ่ม กก.บห.ชุดรักษาการ จึงได้เสนอชื่อนายอภิรักษ์แทน ทว่านายกรณ์ทราบเรื่องจึงได้ขอเคลียร์ใจจนทำให้ กก.บห.ชุดดังกล่าวกลับมาสนับสนุนนายกรณ์เหมือนเดิม 
    ส่วนนายอภิรักษ์นั้นได้พูดคุยกับนายกรณ์และกลุ่มที่สนับสนุนนายกรณ์แล้ว และมีท่าทีจะขอสละสิทธิ์ไม่ขอเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรค เช่นเดียวกับนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ที่ได้แสดงท่าทีชัดเจนต่อสมาชิกพรรคแล้วว่าไม่ขอเป็นแคนดิเดตชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้เช่นกัน
    อย่างไรก็ตาม ยังมีการวางตัวเลขาธิการพรรคด้วย โดยทีมของนายจุรินทร์มีชื่อนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ว่าที่ ส.ส.ตาก เป็นเลขาธิการพรรค ส่วนทีมนายกรณ์ มีชื่อของนายเทพไท เสนพงศ์ รองเลขาธิการพรรค จะก้าวขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรคในทีมนี้ 
"อุทัย"ตอกย้ำช็อกกะรี 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 4 เม.ย. เวลา  07.00 น.  นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค, นายสรอรรถ  กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค, พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรค พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค และว่าที่ ส.ส.และสมาชิกพรรค เดินทางมาร่วมอวยพรในวันคล้ายวันเกิดนายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา อายุครบ 91 ปี ที่บ้านศิลาชัย  ต.อิสาณ อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ โดยมีนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุตรชาย เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย  
    ที่ จ.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ จัดสัมมนาว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ โดยตลอดทั้งวันมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ การกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” โดยนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และอดีตประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ 
    นายอุทัยกล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ที่ชัดเจนว่ามีการยึดอำนาจ แล้วผู้ที่ยึดอำนาจเขาอยากจะอยู่ครอบครองต่อ จึงมีการออกแบบกฎกติกาต่างๆ เพื่อให้ตนเองอยู่ต่อได้ด้วย เช่น การให้ ส.ว.ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นต้น และที่ตอนนี้มีการพูดถึงอย่างมากคือสิ่งที่เรียกว่างูเห่า ซึ่งอาจจะมี ส.ส.ย้ายพรรค ฝืนมติพรรค 
    "ในสมัยของผมนั้นเรียกว่าช็อกกะรี หรือขายตัว การที่มีผู้มาเสนอผลประโยชน์ให้นั้น ราวปี 2512 ผมอยู่ฝ่ายค้าน เคยมีลูกน้องของนายทหารฝ่ายสืบทอดอำนาจมาหา บอกว่าเจ้านายอยากได้ตัว คนอื่นๆ รับไป 3.5 แสน กับรถแลนด์ โรเวอร์ ช่วงสั้น ขณะที่ผมถ้าขายตัวจะได้ 10 เท่า และแลนด์ โรเวอร์ ช่วงยาว ตอนนั้นต้องต่อสู้กับตัวเองอย่างหนัก เพราะถ้าไม่ไปก็เป็นฝ่ายค้านก๊อกๆ แก๊กๆ ต่อไป แต่สุดท้ายแล้วตัดสินใจไม่ไป โดยตอบกลับคนที่มาหาว่าเงินนั้นอยากได้แน่นอน แต่ไม่ทำ" นายอุทัยกล่าว
     นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำแนวร่วมประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม กล่าวถึง
การตั้งรัฐบาลว่า ในเมื่อประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ไปแล้ว โดยตามระบบประชาธิปไตยที่ยึดมั่นในระบอบรัฐสภา เป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข จะมาอ้างเสียงป๊อปปูลาร์โหวตไม่ได้ จึงควรให้สิทธิพรรคที่ได้ส.ส.มากที่สุดในรัฐสภา นั่นคือพรรคเพื่อไทย ซึ่งวันนี้ทางพรรคเองก็ได้แสดงเจตนารมณ์แล้วที่จะตั้งรัฐบาล ควรให้สิทธิเขาไปก่อน
    เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมีโอกาสกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายสิรวิชญ์ตอบว่า "ก็เป็นได้เพราะงูเห่าแหละ".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"