กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐประกาศตัดความช่วยเหลือเอลซัลวาดอร์, กัวเตมาลา และฮอนดูรัส ตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ตำหนิประเทศอเมริกากลางเหล่านี้ว่าไม่ดำเนินการสกัดกั้นคาราวานผู้อพยพลี้ภัย และยังขู่จะปิดพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโกด้วย

จุดผ่านแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ที่เมืองเอลปาโซ รัฐเทกซัส เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2562 / AFP

    รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันที่ 31 มีนาคม กล่าวว่า ช่วงหลายวันมานี้มีผู้อพยพลี้ภัยจาก 3 ประเทศในภูมิภาคอเมริกากลางพยายามเดินทางเข้าสหรัฐผ่านชายแดนเม็กซิโกจำนวนเพิ่มมากขึ้น และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวโทษรัฐบาลเอลซัลวาดอร์, กัวเตมาลา และฮอนดูรัส ว่า "จัดตั้ง" คาราวานผู้อพยพขึ้นแล้วส่งขึ้นเหนือมายังสหรัฐ

    ทรัมป์ยังกล่าวหาเม็กซิโกด้วยว่า ล้มเหลวในการควบคุมการหลั่งไหลของผู้อพยพที่เข้าสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย และขู่จะปิดชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก "สัปดาห์หน้า" ถ้าเม็กซิโกยังยังดำเนินการใดๆ ทั้งนี้ หากสหรัฐปิดชายแดนจริง จะกระทบต่อผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางข้ามชายแดนเป็นกิจวัตร โดยเฉพาะแรงงานและนักศึกษา

    โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแถลงเมื่อวันเสาร์ว่า กระทรวงได้ปฏิบัติตามคำสั่งของประธานาธิบดีด้วยการยุติโครงการให้ความช่วยเหลือแก่ 3 ประเทศอเมริกากลาง ที่เรียกว่ากลุ่มสามเหลี่ยมตอนเหนือ และกระทรวงจะทำงานร่วมกับสภาคองเกรสเพื่อเดินหน้ากระบวนการดังกล่าว ซึ่งบอกเป็นนัยว่า รัฐบาลยังต้องขอการอนุมัติจากคองเกรส หากต้องการยุติความช่วยเหลือ ที่ประเมินว่ามีมูลค่าราว 700 ล้านดอลลาร์

    ด้านรัฐบาลเอลซัลวาดอร์กล่าวว่า เอลซัลวาดอร์พยายามยับยั้งขบวนของผู้อพยพแล้ว ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของฮอนดูรัสกล่าวตอบโต้เมื่อวันเสาร์ว่า นโยบายของสหรัฐนั้นขัดแย้งกันเอง แต่ยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างฮอนดูรัสกับสหรัฐนั้นแข็งแกร่ง, ใกล้ชิด และเป็นในเชิงบวก

    ระหว่างการปราศรัยหาเสียงที่เมืองเอลปาโซ รัฐเทกซัสเมื่อวันเสาร์ เบโต โอรอร์ค ผู้เสนอตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในนามตัวแทนพรรคเดโมแครต วิจารณ์นโยบายคนเข้าเมืองของทรัมป์ว่า เป็นการเมืองของการสร้างความหวาดกลัวและความแตกแยก

    ขณะที่ ส.ว.บ็อบ เมเนนเดซ กรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์จากเดโมแครต กล่าวว่า คำสั่งของทรัมป์เป็นคำประกาศที่มุทะลุ และเรียกร้องให้สมาชิกคองเกรสทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันคัดค้าน.