ตุ๋นเศรษฐินี232ล. ล่อแบ่งมรดกพันล.


เพิ่มเพื่อน    


    รวบแก๊ง 18 มงกุฎวัยดึก รวมหัวตุ๋นเศรษฐินีอสังหาริมทรัพย์ สูญ 232 ล้าน อ้างเป็นผู้รับมรดกกว่าพันล้านของแพทย์หญิงที่ถูกระเบิดเสียชีวิตที่ภาคใต้ ขอยืมเงินเป็นค่าดำเนินการเปิดพินัยกรรม สัญญานอกจากใช้หนี้คืน จะแถมอีก 300 ล้าน โดยมีตัวละครเป็นพันโททหารบก และร้อยโทหญิง หลอกล่อสารพัดจนตายใจโอนเงินให้ 597 ครั้ง ถึงตื่นจากฝัน  
    ที่กองบังคับการปราบปราม วันที่ 2 เมษายนนี้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก 5 บก.ป., พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ต.ฐิติวัสส์ แซมเขียว สว.กก.5 บก.ป. ร่วมแถลงจับกุม น.ส.สุภิช นิมิตนิวัช อายุ 61 ปี, น.ส.ผาณิตา นารถไพรินทร์ อายุ 52 ปี, นายชัยชนะ จันทรา อายุ 45 ปี และ น.ส.มาริษา โสมบ้านกรวย อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.103-106/2562 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2562 ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น" โดยร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหาย ออกอุบายให้ช่วยเหลือเงินค่าดำเนินการเรื่องมรดก จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินรวม 597 ครั้ง เป็นเงิน 232,910,617 บาท จับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาที่ จ.ราชบุรี นนทบุรี และสุพรรณบุรี ตามลำดับ
    พล.ต.ต.จิรภพกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2559 น.ส.สุภิช หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาทราบว่า น.ส.ปาณิสรา อายุ 59 ปี อาชีพทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้เสียหาย เพิ่งจะได้เงินจากการขายที่ดินย่านนนทบุรี แนวการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงมาหลายร้อยล้านบาท จึงวางแผนกับพวกร่วมกันกุเรื่องว่ากำลังดำเนินการเรื่องทรัพย์มรดกของแพทย์หญิงคนหนึ่งซึ่งอาสาไปทำงานที่ จ.ยะลา ร่วมกับกองทัพ และได้เสียชีวิตลงด้วยเหตุระเบิดของผู้ก่อความไม่สงบ และแพทย์หญิงได้ทำพินัยกรรมเกี่ยวกับมรดก ตลอดจนสิทธิในการรับเงินช่วยเหลือจากกระทรวงกลาโหมและหน่วยงานต่างๆ รวมเป็นเงินกว่า 1,000 ล้านบาท โดยได้ทำพินัยกรรมมอบให้ น.ส.ผาณิตา แต่ น.ส.ผาณิตาไม่มีเงินในการดำเนินการเรื่องพินัยกรรม และมาขอความช่วยเหลือจาก น.ส.สุภิช 
    ทั้งนี้ น.ส.สุภิชและ น.ส.ผาณิตาได้เกลี้ยกล่อมผู้เสียหายว่า ต้องการใช้เงินในการดำเนินการจำนวน 235 ล้านบาท หากตกลง เมื่อได้เงินจากพินัยกรรมแล้วจะใช้หนี้คืนพร้อมมอบเงินสมนาคุณอีก 300 ล้านบาท แล้ว น.ส.สุภิชก็อ้างว่าได้ใช้เงินส่วนตัวจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพบกไปแล้วกว่า 50 ล้านบาท แต่ตอนนี้ น.ส.สุภิชไม่สามารถหาเงินมอบให้เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพบกได้ จึงขอยืมเงินผู้เสียหายครั้งแรกจำนวน 5 แสนบาท เพื่อนำไปดำเนินการ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ไปพบกับ น.ส.สุภิชห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาราชบุรี แล้วเบิกเงินสดจากธนาคาร จำนวน 5 แสนบาท มอบให้ น.ส.สุภิช
    ต่อมาอีก 4 วัน น.ส.สุภิชได้บอกกับ น.ส.ปาณิสรา ผู้เสียหาย ว่าต้องการเงินอีก 520,000 บาท เพื่อใช้ในการดำเนินการ ผู้เสียหายจึงเบิกเงินจากธนาคารมอบให้ โดย น.ส.สุภิชได้จ่ายเช็คธนาคาร 2 ฉบับ เพื่อเป็นหลักประกัน แต่เมื่อเช็คถึงกำหนดชำระ น.ส.สุภิชได้บอกผู้เสียหายว่าอย่างเพิ่งนำเช็คไปขึ้นเงิน ทำให้ผู้เสียหายเริ่มสงสัย น.ส.สุภิชจึงให้นายชัยชนะเพื่อนร่วมแก๊ง อ้างตัวเป็นพันโทอนิรุทธิ์ดูแลพินัยกรรมของแพทย์หญิง โทรศัพท์คุยกับผู้เสียหาย อ้างถึงขั้นตอนดำเนินการเพื่อเปิดพินัยกรรมส่งมอบเงินและทรัพย์สินตามพินัยกรรม
    นอกจากนี้ แก๊งต้มตุ๋นยังได้นัดให้ผู้เสียหายไปพบที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ จ.นนทบุรี ซึ่งนอกจากนายชัยชนะจะแสดงตนเป็นพันโทอนิรุทธิ์แล้ว น.ส.มาริษา สมาชิกในแก๊งอีกคนยังแสดงตนเป็นร้อยโทหญิงรัตนา ยืนยันว่า น.ส.ผาณิตาเป็นผู้มีสิทธิได้รับทรัพย์สินตามพินัยกรรม แต่จะต้องหาเงินมาวางเป็นหลักประกัน รวมทั้งเป็นค่าดำเนินการ จากนั้นก็ขอเบิกเงินจากผู้เสียหายตลอดมา รวมแล้ว 597 ครั้ง เป็นเงิน 232,910,617 บาท จนในที่สุด น.ส.ปาณิสรา ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวงแน่นอน จึงเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ให้ดำเนินคดีบุคคลทั้ง 4 จนมีการออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 และวันที่ 1 เมษายน 2562 ตำรวจ กก.5 ป.ได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 สอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพ ส่วนเงินทั้งหมดที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายนำมาแบ่งกันแล้วซื้อทรัพย์สิน เช่น นาฬิกา รถยนต์หรู บ้าน 8 หลัง ที่ดิน รวมมูลค่า 70 ล้านบาท ขณะนี้ตำรวจกองปราบฯ กำลังสืบสวนติดตามทรัพย์สินที่หลอกลวงมาคืนให้ผู้เสียหาย ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ดำเนินคดีต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"