อนาถา!พรรคจตุพรแตก ผู้สมัครส.ส.โวยสู้แล้วจน


เพิ่มเพื่อน    


    เลือกตั้งจบแต่พรรคเพื่อชาติไม่จบ!  อดีตผู้สมัคร ส.ส.ด่ากราดแกนนำบางคน ไร้สัจจะ หลอกลวง รับไม่ได้ ตอนจีบลง ส.ส.บอกพร้อมหนุนเงินเต็มที่ สุดท้ายทวงถามไปกลับบอกให้รอไปก่อน    เปิดคลิปถล่มซ้ำ รับไม่ได้ พรรคทำสูญเงินหาเสียงนับล้าน ไม่เคยเหลียวแล ตัดพ้อสู้แล้วเขารวย แต่พวกเราสู้แล้วจนลงๆ นัดรวมตัวบุกที่ทำการพรรคพุธนี้
    รายงานข่าวจากพรรคเพื่อชาติแจ้งว่า เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตพรรคเพื่อชาติหลายสิบคน เดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้องขอความชัดเจนเกี่ยวกับงบสนับสนุนในการดูแลช่วงหาเสียงเลือกตั้ง และมีการบันทึกคลิปเอาไว้ด้วย โดยผู้สมัครรายหนึ่งบอกกับตัวแทนกรรมการบริหารพรรคที่มารอรับหนังสือช่วงหนึ่งว่า มาจนบัดนี้เลือกตั้งแล้ว ไม่มีใครประสานงานกับพวกเรา ก่อนหน้านั้นเรื่องเอกสารบ้าง อะไรบ้าง ประสานงานกันจัง มาถ่ายรูปกัน แต่พวกเราเดือดร้อนกันจริงๆ พรรคเราได้ที่นั่งน้อยนิดนึง นั่นคือเป็นปัญหา เพราะไม่เคยได้เยียวยา เอาทุนให้เขาไปหาเสียงตรงนี้มากกว่า ตรงนี้เราโดนตำหนิติเตียน เงินไม่จ่ายค่าคนเดินบ้าง เขาก็ไปพูดกันอะไรกัน จนกระทั่งบัดนี้ยังไม่ได้รับการดูแล
    "….ตอนผมโดนแจ้งความ พอตำรวจโทร.มา ก็ปรึกษา.. ในฐานะผู้ประสานงาน บอกว่าผมโดนข้อหา โดนคดีแล้วนะ ข้อหาเกี่ยวกับไม่จ่ายตังค์ ผมเรียนให้ท่าน…ทราบ โทร.หาท่าน….โดยตรง โทร.หาใครไม่ติดสักคน คุยไม่ได้"
    ผู้สมัคร ส.ส.อีกคนพูดเสริมขึ้นมาว่า "….เป็นนายกฯ บริหารส่วนตำบล… เป็นมา 3 สมัย พรรคมาขอร้องให้ผมลาออก เดี๋ยวจะดูแลเต็มที่ จะให้พิเศษอย่างโน้นอย่างนี้ ไอ้ผมก็เออ มันก็ใกล้เลือกตั้ง พรรคมาคะยั้นคะยอ บอกเอาเลยพี่ เดี๋ยวผมให้พิเศษ ในที่สุด หมดค่าใช้จ่ายไปประมาณล้านต้นๆ เป็นหนี้ป้าย ค่าอะไรต่ออะไร ยังไม่ได้ให้เขา ถามว่าเรามีกะตังค์ไหม เรามีอยู่ 3-4 แสน เราก็หมดที 4-5 แสน ก็หมดไปด้วยกัน ก็ขอชี้แจงให้ทางผู้บริหารได้ทราบ"
    จากนั้น ผู้สมัคร ส.ส.ผู้หญิงกล่าวขึ้นมาว่า ในฐานะตัวแทนว่าที่ผู้สมัครทุกเขตทั่วประเทศไทย ทั้งที่มาได้และมาไม่ได้ เรามาขอยื่นหนังสือผ่านกรรมการบริหารพรรคว่า พรรคจะมีนโยบายเยียวยาผู้สมัครอย่างไร และขอความอนุเคราะห์จากประธาน กรรมการ หัวหน้าพรรค ออกมาสอดส่องดูแลเรา มาถามสารทุกข์สุกดิบเราบ้าง ให้เหมือนวันเริ่มต้น เป็นเหมือนญาติพี่น้องกัน แต่ในวันนี้ เหมือนเราไม่ใช่ญาติพี่น้อง เหมือนกับเป็นคนอื่น เลยขอส่งหนังสือผ่านไปถึงหัวหน้าพรรค           
    นอกจากนี้ ในกลุ่มไลน์ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ แต่ละกลุ่มที่มีการแยกไปตามภูมิภาค ต่างตัดพ้อการทำงานของพรรค และแกนนำพรรคบางคนอย่างดุเดือดเช่นกัน และมีการส่งข้อความปรับทุกข์ในกลุ่มผู้สมัครไปมา
     หนึ่งในผู้สมัคร ส.ส.ระบุว่า "….ความจริงผมไม่มีทุนมากพอที่จะใช้จ่ายในการสมัคร ส.ส. แต่พี่….บอกว่าทางพรรคจะช่วยค่าใช้จ่ายให้เพียงพอ ผมจึงได้ตัดสินใจลงสมัคร และเมื่อมาถึงบัดนี้ก็ไม่มีการช่วยเหลือแต่อย่างใด ผมพยายามติดต่อท่าน… ก็ได้รับคำตอบให้รอ จนผมไม่สามารถที่จะรอได้ เหตุเพราะเกิดความเสียหายจากลงสมัคร ส.ส.ของผมในครั้งนี้อย่างประมาณค่าไม่ได้ เพราะบุคคลมวลชนที่เชื่อถือศรัทธาผม กำลังเข้าใจผมผิดว่าผมเป็นรับจ้างลงสมัคร ส.ส. ผมคิดว่าจำเป็นต้องยุติหน้าที่ของผู้สมัคร ส.ส.เขต… .ในนามพรรคเพื่อชาติ"
    ขณะที่ผู้สมัครอีกคนในแถบภูมิภาคอีสาน ตัดพ้อผ่านกลุ่มไลน์ว่า สู้แล้วเขารวย แต่ผมสู้แล้วจนลงๆ สังคมไทยเรามันช่างน่าเบื่อจริงๆ นะ ทำเพื่อคนส่วนมาก แต่คนที่ไม่ทำหรือทำพอได้หน้านิดหน่อย ก็เสนอหน้าว่ากูคือนักสู้เพื่อประชาชน มีเยอะมากครับ …(เขตและจังหวัด) ไม่เอาพรรคเพื่อชาติแล้วนะครับ บัก… ไร้สัจจะ มันคือพรรคของคน.. แต่หลอกคน…
    นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัครอีกหลายรายที่ได้พิมพ์เข้ามาไลน์กลุ่มเชิงตัดพ้อต่อว่าผู้สนับสนุนพรรคบางคนอย่างรุนแรง และสุดท้ายได้ดีดตัวเองออกจากกลุ่มไลน์ไป   
    มีรายงานอีกว่า ในวันพุธที่ 3 เม.ย. เวลา 10.00 น. กลุ่มผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ ทั้งในโซนภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาค กทม. ภาคอีสาน อีกหลายสิบคน ที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องดังกล่าว นัดรวมตัวที่ทำการพรรคเพื่อชาติ เพื่อสอบถามความชัดเจนกับคณะผู้บริหารพรรคอีกครั้ง
    นายศักดา นพสิทธิ์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณีผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง พรรคเพื่อชาติ ออกมาทวงถามงบสนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้งจากผู้ใหญ่ในพรรคว่า โดยข้อเท็จจริงพรรคสนับสนุนงบประมาณช่วยผู้สมัครไปตามกรอบกฎหมายตามที่กกต.กำหนด และผู้สมัครหน้าใหม่ก็ต้องช่วยตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงกัน แต่เมื่อผู้สมัคร ส.ส.สูญเสียเงินส่วนเกินจากตรงนี้ไป จะมาขอให้พรรครับผิดชอบด้วยจะเป็นไปได้อย่างไร การมาพูดว่าพรรคทำผิดสัญญา ไม่รับผิดชอบ ถือเป็นการพูดที่ด่วนสรุปเกินไป เพราะเท่าที่ติดตามข้อเท็จจริง ผู้สมัครก็ยอมรับพรรคได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายไปให้ส่วนหนึ่ง การจะมาเรียกในส่วนที่ตนเองได้ออกไปนั้น คงไม่ใช่ 
    นายศักดากล่าวว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้น มีคนในพรรคโทรศัพท์มาสอบถามจำนวนมาก เรื่องนี้จะทำให้พรรคเสียหายหรือไม่ จะเป็นประเด็นร้องเรียนจนทำให้ กกต.มาสอบ จะเป็นการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ เมื่อดูตามประเด็นข้อกฎหมายคงไม่ถึงขนาดนั้น อย่างไรก็ดี ผู้สมัครก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง เคยไปพูดกับใคร และใครที่เคยไปรับปาก ต้องดูคนคนนั้นมีสถานะอะไรในพรรค มีผลผูกพันกับพรรคเพื่อชาติจริงหรือไม่ ค่าใช้จ่ายช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พรรคได้วางกฎเกณฑ์การสนับสนุนงบประมาณ 1.ค่าสมัคร ส.ส.ที่พรรคออกให้ 2.งบสนับสนุนค่าจัดทำป้ายหาเสียง ค่าแบนเนอร์ ค่ารถช่วยหาเสียง ในงบประมาณเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ตามที่ กกต.และกฎหมายกำหนดมา ค่าใช้จ่ายผู้สมัครไม่เกิน 1.5 ล้านบาทต่อคน
    รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติกล่าวอีกว่า หลังจากวันปิดประกาศรับสมัคร ส.ส.ทั้งระบบเขตเลือกตั้งและระบบบัญชีรายชื่อ พรรคได้แบ่งงานความรับผิดชอบให้แกนนำพรรครับผิดชอบดูแลผู้สมัครแต่ละโซน เช่น โซนภาคกลางและ กทม. นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เป็นผู้รับผิดชอบ, โซนภาคเหนือ นายเพชรวรรต วรรณศิริกุล รองหัวหน้าพรรคคนที่สาม เป็นผู้รับผิดชอบ,  โซนภาคอีสาน ภาคใต้ นายอารี ไกรนรา รองหัวหน้าพรรคคนที่สอง เป็นผู้รับผิดชอบ  
    เขากล่าวว่า หลังจากวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. เมื่อผลคะแนนเสียงออกมา ซึ่งมีคนแบ่งออกเป็น ฝ่ายที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจกับฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งเมื่อดูคะแนนเสียงแต่ละฝ่าย หากรวมคะแนนเสียงกันเป็นไปในลักษณะคะแนนเสียงก้ำกึ่งกัน รวมทั้งยังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานจัดการงานของ กกต. เกิดข้อครหาว่าเป็นไปอย่างโปร่งใสหรือไม่ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายตามมา ขอเรียกร้องให้ กกต.ชี้แจงทั้งในส่วนงบประมาณที่ใช้ในการจัดการเลือกตั้งกว่า 5.8 พันล้านบาท ที่ต้องไม่ทำให้สูญเปล่า รวมทั้งเร่งสรุปวิธีคำนวณจำนวน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อให้ชัดเจน เพราะมีผลต่อคะแนนเสียงของหลายพรรคการเมือง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"