นายกพอใจดับไฟป่ากำชับจนท.ลุยต่อ


เพิ่มเพื่อน    


    "บิ๊กตู่" พอใจแก้ปัญหาไฟป่าหลังจุดฮอตสปอต 9 จังหวัดภาคเหนือลดจาก 1,969 จุด เหลือ 275 จุด กำชับ จนท.เดินหน้าต่อ พร้อมส่งบัวแก้วประสานประเทศเพื่อนบ้านสร้างต้นแบบแก้ปัญหายั่งยืน ส่วน "คพ." ระบุค่าฝุ่นละอองยังน่าห่วง 7 พื้นที่อยู่ระดับสีแดง คุณภาพอากาศมีผลต่อสุขภาพ "เจ๊หน่อย" ควงว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ขึ้นเชียงดาว จี้รัฐบาลกำหนดเป็นวาระเร่งด่วนฉุกเฉิน "เด็กอนาคตใหม่" โวถ้าได้นั่งหัวโต๊ะแก้หมอกควันได้แน่
    เมื่อวันที่ 4 เม.ย. พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและไฟป่าว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับรายงานจากกระทรวงมหาดไทย จังหวัดภาคเหนือที่ประสบปัญหาหมอกควันไฟป่า ได้ปรับแผนแก้ไขปัญหาตามที่นายกฯ ได้สั่งการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยพบว่าการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถลดปริมาณจุดความร้อน หรือฮอตสปอต ในพื้นที่ 9 จังหวัดลงอย่างเห็นได้ชัด จาก 1,969 จุด เมื่อวันที่ 2 เม.ย. เหลือ 275 จุด ในวันที่ 4 เม.ย. 
    พล.ท.วีรชนกล่าวว่า นายกฯ เน้นย้ำแม้จุดความร้อนจะลดลงบ้างแล้ว แต่ยังคงต้องพยายามกันต่อไป และขอบคุณกองทัพ ผู้ว่าราชการจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น อาสาสมัครจิตอาสาทุกคน ที่ช่วยระดมกำลังกันทำงาน เพื่อลดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน 
    "ในส่วนของประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงมหาดไทยกำลังเร่งประสานงานกันอย่างใกล้ชิด หากทำสำเร็จก็จะเป็นต้นแบบการแก้ไขปัญหาของอาเซียนอย่างยั่งยืนต่อไป” พล.ท.วีรชนกล่าว
    รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ภาพรวมของการดำเนินงานกองทัพภาคที่ 3 ได้ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ ติดตามข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อให้เห็นจุดความร้อนและกำหนดเขตพื้นที่เสี่ยง 3 ลักษณะ คือ พื้นที่เมือง, พื้นที่การเกษตร และพื้นที่ป่า แบ่งเป็น 185 ตำบล 9 จังหวัด โดยให้แต่ละอำเภอสนธิกำลังทุกฝ่ายทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ออกปฏิบัติการดับไฟป่า 
    "ทุกจังหวัดได้ประกาศห้ามเข้าพื้นที่ป่าเพื่อหาของป่าและล่าสัตว์ ทั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตป่าไม้ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด" รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
    ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือประจำวันที่ 4 เม.ย. พบค่าฝุ่นละอองส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 3 เม.ย. เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง-มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสีแดง 7 พื้นที่ (คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ), พื้นที่สีส้ม 6 พื้นที่ (คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) และพื้นที่สีเหลือง 4 พื้นที่ (คุณภาพอากาศปานกลาง) โดยค่า PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 38-151 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) ค่า PM 10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 55-193 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม.)
    คพ.ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ งดการเผาในที่โล่งเพื่อป้องกันการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ประชาชนอยู่ในพื้นที่ที่ปริมาณฝุ่นละอองมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขอให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยงควรเฝ้าระวังสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก ใจมีเสียงวี้ด ใจสั่น คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก ให้รีบพบแพทย์ ผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างน้อย 5 วัน    
    ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้รับมอบหมายจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รับมอบอุปกรณ์ดับไฟป่าจำนวน 30 เครื่อง จากบริษัท ทีทีซี เพาเวอร์ทูลส์ จำกัด เพื่อนำไปแก้ปัญหาหมอกควันในพื้นที่
    นายจตุพรกล่าวว่า ปัญหาหมอกควันและไฟไหม้ป่าในพื้นที่ภาคเหนือเป็นวาระแห่งชาติที่ทางรัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาอยู่ในขณะนี้ โดยรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์ในการทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ได้โดยเร็วภายใน 7 วัน และเร่งหามาตรการในการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ อีกทั้งจำเป็นต้องเข้มงวดในการใช้กฎหมายดำเนินการกับผู้กระทำความผิดเพื่อแก้ไขปัญหาในการลักลอบเผาป่า รวมถึงขอให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและร่วมมือร่วมใจช่วยกันแก้ไขปัญหา ตลอดจนติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด ปรับรูปแบบการทำงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ และให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นหลัก
    "พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน โดยบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้ดำเนินการอย่างเข้มงวด ทั้งลาดตระเวนป้องปราม การตรวจหาไฟป่า การเผา การระดมสรรพกำลัง และอุปกรณ์เครื่องมืออย่างเต็มที่" อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระบุ
    วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ และทีมลูกแม่หน่อย เดินทางไปยังดอยเชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อให้กำลังใจกลุ่มม่วนใจ๋ กลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีธรรมชาติเชียงดาว และอาสาสมัครหมู่บ้านบริเวณเชิงดอยเชียงดาว หลังช่วยกันทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟป่าไม่ให้ลามเข้าไปยังหมู่บ้านที่ประชาชนอาศัย โดยทีมลูกแม่หน่อยได้ร่วมมอบหน้ากากป้องกันฝุ่น จำนวน 10,000 ชิ้น พร้อมมอบเครื่องมืออุปกรณ์ป้องกันไฟป่าให้กับประชาชนในหมู่บ้านและเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานดับไฟป่าที่บริเวณวัดถ้ำเชียงดาว
    คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานใน จ.เชียงใหม่ เป็นเรื่องที่ควรแก้ปัญหาเร่งด่วน ซึ่งในประเทศที่มีการเผาป่าเกิดขึ้น จึงอยากให้ภาครัฐและเอกชนเสริมกำลังของผู้ดูแลทำแนวป้องกันและดับไฟป่า หากกำลังและอุปกรณ์ไม่เพียงพอ รวมถึงสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของอาสาสมัคร นอกจากช่วยในเรื่องในประเทศแล้ว ก็อยากให้เข้มงวดไม่ให้ลักลอบเผาป่า 
    "นี่คือวาระเร่งด่วนที่สุดขณะนี้ รัฐบาลควรเจรจาขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อควบคุมการเผาป่าและเผาเพื่อการเกษตร โดยประเทศไทยต้องเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นต้องมีการจัดประชุมร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาฝุ่นพิษเป็นวาระฉุกเฉินเร่งด่วน และไม่ควรปล่อยให้ถึงฤดูฝน เพื่อหาทางเตรียมการให้มีแผนงานและไม่ให้เกิดเหตุการณ์ฝุ่นพิษเกิดขึ้นอีก" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
    ส่วน นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ว่าที่ ส.ส.เขต 1 จ.เชียงราย พรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟชบุ๊กส่วนตัวกรณีร่วมเวทีเสวนาเกี่ยวกับปัญหาหมอกควันในภาคเหนือตอนหนึ่งระบุว่า ได้ข้อสรุปปัญหาที่แก้ไม่ได้เกิดจากหน่วยงานภาครัฐที่ควรต้องเป็นกลไกในการแก้ปัญหา แต่กลับไม่ทำหน้าที่ และที่น่าเสียดายที่สุดคือ ทางมหาวิทยาลัยมีการเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดมาร่วมด้วย แต่ท่านผู้ว่าฯ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการบัญชาการกลับไม่มาร่วม และไม่มีแม้กระทั่งการส่งผู้แทนมาเลย ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เราจะไม่สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และกังวลว่าหากมีปัญหาฉุกเฉินเร่งด่วนอื่นๆ ก็คงยากที่จะรับมือได้ 
    "ในสภาพของระบบรัฐราชการรวมศูนย์ที่ใหญ่โตเทอะทะ แต่เคลื่อนตัวช้าแบบนี้ มีคนท้าว่าผมจะทำอะไรได้นอกจากพูดไปวันๆ ผมก็อยากจะท้าเหมือนกันว่า ลองให้ผมนั่งหัวโต๊ะสั่งการในการแก้ปัญหาดูสิครับ กล้ากันมั้ยล่ะ แน่นอนว่าผมจะไม่สั่งให้คนทำงานไปนอนในป่าแบบที่ลุงบางคนสั่งแบบนั้นแน่นอน" ว่าที่ ส.ส.เชียงราย พรรคอนาคตใหม่ ระบุ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"