ถอดรหัสนัยล้ำลึกวาทะส.ศิวรักษ์'พวกที่อ้างจงรักภักดี​คือ​พวกล้มเจ้าแท้จริง'กับ'ดร.วาทิน ชาติกุล'


เพิ่มเพื่อน    


5เม.ย.62-ดร.เวทิน​ ชาติกุล อาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญาและศาสนา มศว.ประสานมิตร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Wathin Chatkoon เรื่อง ถอดรหัส นัยล้ำลึก...วาทะ ส.ศิวรักษ์ "พวกที่อ้างจงรักภักดี​ คือ​ พวกล้มเจ้าแท้จริง" มีเนื้อหาดังนี้
เห็นความเห็นของ​ ปัญญาชนสยาม​ อย่างอาจารย์​ ส.ศิวรักษ์ ถ้าตัดประเด็นว่าเป็นการพูดด้วยความ "เอามัน" ออกไป​​ สิ่งที่​ "ส.ศิวรักษ์" พูดนั้นก็น่ามาขบคิดพิจารณา​ (เพราะพูดเอามันให้กองเชียร์เฮไม่ค่อยดูสมสถานะปัญญาชนสยามนัก)

เพราะมีการซ่อนนัยไว้อย่างลึกซึ๊ง​ สมเป็นปัญญาชนสยาม​

ส.ศิวรักษ์ พูดไว้ว่าอย่างไร?

"...การล้มเจ้านั้น คนหัวก้าวหน้าที่ฉลาด ไม่ต้องการล้มเจ้า ไอ้พวกล้มเจ้าคือพวกที่อ้างว่าจงรักภักดี ไอ้พวกนี้อันตรายมาก เพราะพวกนี้ไม่ใช้สัจจะเป็นพื้นฐาน ไม่ใช้ความถูกต้องเป็นพื้นฐาน ไอ้พวกนี้แหละ คือพวกล้มเจ้าที่แท้ เราไม่ต้องไปทำอะไรเขาหรอกครับ สงสารเขา สมเพชเวทนาเขา ขอย้ำว่าสิ่งที่เราเขียนออกไป พูดออกไป เป็นสัจจะ เอาข้อควมต่างๆเหล่านั้นมา ให้ปรากฎแก่พหูชน แล้วคนก็จะหันมาอยู่ข้างฝ่ายสัจจะ อยู่ฝ่ายธรรมะ ตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญ..." (1)

พอแล้วพอสรุปประเด็นได้ว่า

1.​ คนหัวก้าวหน้าที่ฉลาด​ ไม่ต้องการล้มเจ้า

2.​ คนที่อ้างว่าจงรักภักดี​ คือ​ พวกล้มเจ้าที่แท้จริง

ประเด็นที่​ 1
ก่อนจะไปลงรายละเอียด​ ต้องทำความเข้าใจให้ชัดก่อนว่า​"ล้มเจ้า" หมายถึงอะไร? ก็น่าจะหมายถึง​ "การล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์​" ก็ขอยกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ

"ล้มล้าง หมายถึง การกระทำที่มีเจตนาเพื่อทำลาย หรือล้างผลาญให้สูญสิ้นสลายหมดไป ไม่ให้ธำรงอยู่หรือมีอยู่ต่อไป"(2)

ก็คงจะชัดเจน​ ซึ่งในกรณีของ​ "คนล้มเจ้า" หรือ​ "คนที่มีเจตนาเพื่อทำลายหรือล้างผลาญสถาบันกษัตริย์ให้สูญสิ้นสลายหมดไป" ซึ่งถ้าพูดแบบเดียวกับคำชี้แจงของคุณปิยะบุตร​ ก็คือ​"ไม่ได้เจาะจงพูดถึงคนล้มเจ้าในไทย" แต่หมายถึงหลักการสากล​แล้ว​

"คนล้มเจ้า" ก็น่าจะหมายถึง​ "แกนนำปฏิวัติฝรั่งเศส" หรือ​"พรรคบอลเชวิก" ที่ทั้งเจตนาและการกระทำชัดเจนว่าเป็นแบบ​" ล้มเจ้า"

ถ้าเป็นอย่างที่อาจารย์​ ส.ศิวรักษ์ บอกว่า​ ว่า​ "คนหัวก้าวหน้าที่ฉลาด" ไม่ต้องการล้มเจ้า​ ก็แสดงว่า​ "รอแบ็สปีแยร์" "กลุ่มฌากอแบ็ง" ที่จับพระเจ้าหลุยส์ไปบั่นคอด้วยกิโยติน​ "เลนิน" "ทรอตสกี้" ที่สั่งฆ่าหมู่พระเจ้าชาร์และครอบครัว​ พวกนี้คือ​ คนหัวก้าวหน้า​ "ที่ไม่ฉลาด" หรือเปล่า?

อาจารย์​ ส.บอกว่า​ เลนิน​ ทรอตสกี้​ พวกนี้​" โง่" ใช่หรือเปล่า?

หรือ​ "พคท" "นายสุรชัย​ แซ่ด่าน" "นายใจ​ อี๊งภากรณ์" "ลุงสนามหลวง" "วงไฟเย็น" "กลุ่มสหพันธรัฐไท" พวกนี้คือ​ "คนหัวก้าวหน้าที่ไม่ฉลาด" ใช่หรือไม่? หรือ​ดีไม่ดีอาจจะเป็นทั้ง​ "คนหัวไม่ก้าวหน้าและไม่ฉลาด" ด้วย​

ซึ่งกลับกันแปลว่า​ มี​ คนหัวก้าวหน้า​ "ที่ฉลาด"

และตรงนี้น่าสนใจว่า​" ฉลาด" ในที่นี้หมายถึงอะไร?

ซึ่งข้างในใจเจตนาอะไรอยู่ไม่มีใครรู้​ แต่การแสดงออก​ การกระทำที่เห็นปรากฏต่อสาธารณะนั้น​ "ฉลาด"

คือไม่ได้แสดงให้ชัดเจนว่า​ "มีเจตนาเพื่อทำลายหรือล้างผลาญสถาบันกษัตริย์ให้สูญสิ้นสลายหมดไป"

หรือ​ อาจแสดงในลักษณะ​ "ปฏิปักษ์" ซึ่ง​ "ไม่จำเป็นต้องรุนแรงถึงขนาดมีเจตนาจะล้มล้างทำลายให้สิ้นไป ทั้งยังไม่จำเป็นต้องถึงขนาดตั้งตนเป็นศัตรูหรือเป็นฝ่ายตรงข้าม เพียงแค่เป็นการกระทำที่มีลักษณะเป็นการขัดขวางหรือสกัดกั้นมิให้เจริญก้าวหน้า หรือเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลเป็นการเซาะกร่อน บ่อนทำลายจนเกิดความชํารุดทรุดโทรมเสื่อมทรามหรืออ่อนแอลง" (3)

เช่นกรณีพรรคไทยรักษาชาติซึ่งชัดเจนว่าไม่ได้ตั้งตนเป็นศัตรู​ หรือ​ ไม่มีความคิด​ "ล้มเจ้า" อย่างแน่นอน​ แต่การกระทำเรื่องเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯของพรรคเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดการเซาะกร่อน​ บ่อนทำลาย​ ระบอบประชาธิปไตยของไทย

ก็เข้าข่ายเป็น​" ปฏิปักษ์"

ซึ่งก็น่าสนใจอีกว่า​ "คณะราษฏร์" "นายธงชัย​ วินิจกุล" "นายปิยะบุตร​ แสงกนกกุล" "นายธนาธร​ จึงรุ่งเรืองกิจ" "นายสมศักดิ์​ เจียมธีระสกุล" ฯลฯ​ เหล่านี้​เป็นคนหัวก้าวหน้าที่​ "ฉลาด" ใช่หรือไม่? (ยกเว้นคนสุดท้ายคือ​นายสมศักดิ์​ที่เป็นคนขี้ขลาด​ อีกด้วย)​

คือ​ "ไม่ได้ล้มเจ้า" ตามนิยาม​ "ล้มล้าง"

แต่ปรากฏว่าใกล้เคียงกับนิยาม​ ปฏิปักษ์​ คือ​ "ได้พยายาม​ เซาะ​ แซะ​ กร่อน ให้ทรุดโทรม​ อ่อนแอ​ และเสื่อมทรามลง"

หรือพูดง่ายๆก็คืออาจมีจุดยืนแบบ​ "ไม่รักเจ้า" (แบบที่คนไทยส่วนใหญ่เป็น)​ และอุดมการณ์แบบ​" ปฏิกษัตริย์นิยม" (anti-royalism)​ ที่​

"มองการดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอย่างที่เป็นมาโดยตลอดไม่สามารถไปด้วยกันได้กับการเป็นประชาธิปไตยแบบตะวันตกอย่างแท้จริง​

กระทั่งจะต้องมีการดำเนินการทั้งทางแจ้งและทางลับเพื่อลดทอนสถานะและอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งในทางรัฐธรรมนูญ​ ทางกฏหมาย​ และทางวัฒนธรรม​เพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์​ โดยแท้จริง"

ซึ่งต่อไปน่าสนใจยิ่งว่า​จะถือว่าเป็นการกระทำเยี่ยงนี้ถือว่าเป็น​" ปฏิปักษ์" กับระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยํทรงเป็นประมุข​ได้หรือไม่?

อันจะได้กล่าวถึงต่อไป

ประเด็นที่​ 2
อาจารย์​ ส.ศิวรักษ์ บอกว่า​ ​"คนที่อ้างว่าจงรักภักดี​ คือ​ พวกล้มเจ้าอย่างแท้จริง​" อันนี้น่าสนใจ​ เพราะอาจารย์​ ส.ศิวรักษ์​ บอกว่า​ "คนพวกนี้ไม่มีสัจจะเป็นพื้นฐาน" และ​อนุมานได้ว่า​ ความไม่มีสัจจะ​ ไม่ยึดถึงความถูกต้องนี้แหละ​ที่จะนำไปสู่การล้มเจ้าอย่างแท้จริง​ เช่น "ปากบอกจงรักภักดี​ แต่ในใจไม่ได้จงรักภักดี"

อันนี้ต้องบอกว่ายิ่งลึกซึ๊งกว่าประเด็นแรก​ เพราะลองพิเคราะห์ดีๆ​ อาจารย์​ ส.ศิวรักษ์ พูดถึงคนไว้สองจำพวก คือ

1.​ คนสอพลอ​ ไม่มีความจงรักภักดีจริงๆ​ ซึ่งจริงๆแล้วขอแก้ไขให้นิดหน่อย​ ถ้าจะพูดให้ตรงนิยามที่สุดก็ต้องบอกว่า​ อาจารย์​ ส.ศิวรักษ์ พูดเกินความหมายไป​ เพราะคนสอพลอ​ ไม่อาจล้มล้างหรือทำให้เกิดการสูญสิ้นได้หรอก​(เพราะตัวเองจะสูญสิ้นไปด้วย)​ แต่คนพวกนี้จะ​ เซาะ​ กร่อนทำลาย​ สถาบันพระมหากษัตริย์​ อย่างปฏิเสธไม่ได้​

คนที่อ้างว่าจงรักภักดี​ เป็น​ ปฏิปักษ์ต่อสถาบัน​ พูดแบบนี้ถูกต้อง​ ตรงความหมายมากกว่า

2.​ คนไร้สัจจะ​ อันนี้แหลมที่สุด​ และเป็นจริงที่สุด​ คนที่ไม่มีสัจจะในตัวเอง​ ไม่จำเป็นต้องอยู่ฝ่ายอ้างว่าจงรักภักดีหรอก​ ต่อให้อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย​ ฝายต่อต้านรัฐประหาร​ ฝ่ายต่อต้านเผด็จการ​ ก็มีแต่ทำให้ฝ่ายนั้นฉิบหาย​ วายป่วง​ทั้งนั้น

อาจารย์​ ส.​ศิวรักษ์​ ครับ​ คนไร้สัจจะนี่มีอยู่ทุกฝ่าย​ ใช่หรือเปล่าครับ?

ผมคงไม่ต้องยกตัวอย่าง​ และผลแห่งความฉิบหายก็กระจ่างชัด​ บางคน​ ไร้แผ่นดิน​ สูญลิ้น​เกียรติ​ สูญสิ้นศักดิ์ศรี​ จิตวิญญาณ​

คุณอุ๊​ หรือ​ ใครที่จงรักภักดีด้วยใจจริงก็​ อย่าไปโกรธ​ อย่าไปว่า​ อาจารย์​ ส.ศิวรักษ์ เลยครับ​ เราควรทบทวนตัวเองว่าเราเป็นพวกสอพลอ​ รักเจ้าแต่ปาก​ เป็นคนที่ไปใส่ร้าย​ กล่าวหาคนอื่นอย่างเป็นเท็จ​ อย่างอสัตย์​ หรือไม่

ถ้าไม่ใช่​ ก็ให้สบายใจ​ และทำอย่างที่อาจารย์​ท่านบอก​

"...ขอย้ำว่าสิ่งที่เราเขียนออกไป พูดออกไป เป็นสัจจะ เอาข้อควมต่างๆเหล่านั้นมา ให้ปรากฎแก่พหูชน แล้วคนก็จะหันมาอยู่ข้างฝ่ายสัจจะ อยู่ฝ่ายธรรมะ..."

ส่วนพวกสอพลอ​ ไร้สัจจะ​ ตลบแตลง​ ปลิ้นปล้อน​ ใช้อุบายชวนให้หลงเชื่อ​ เมื่อก่อนพูดอย่าง​ วันนี้พูดอีกอย่าง​ ซุกซ่อน​ อำพราง​ สารพัดสารพัน​สิ่ง​ พวกนี้​ก็ให้​ "สงสารเขา สมเพชเวทนาเขา"

คนไร้สัจจะ​ อยู่ฝ่ายรักเจ้า​ ก็เป็นพวกล้มเจ้าอย่างแท้จริง​ อาจารย์​ ส.ศิวรักษ์ กล่าวไว้

ส่วน​ คนไร้สัจจะ​ อยู่ฝ่ายไม่รักเจ้า​ พวกนี้​จะล้มทั้งเจ้า​ และ ล้มทั้งประชาธิปไตย​

นี่แหละ​ ความล้ำลึกของปัญญาชน​สยามนาม​ ส.ศิวรักษ์

หมายเหตุ
(1) 'ส.ศิวรักษ์' ซัดคนล้มเจ้าคือ พวกที่อ้างจงรักภักดี แนะอนาคตใหม่ใช้ขันติธรรม 'หมากัดอย่ากัดตอบ'. ไทยโพสต์​ 4​ เม.ย.2562
(2) (3) คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"