'เกษียร'ถามทำไมจึงเกิดความคิดไล่คนอื่นออกจากประเทศ อาวุธฝ่ายขวาแพร่จากชนชั้นนำ กระฎุมพี สู่รากหญ้า


เพิ่มเพื่อน    

5 เม.ย.62- ศาสตราจารย์ เกษียร เตชะพีระ โพสต์กลอนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Kasian Tejapira ตั้งประเด็น ทำไมจึงเกิดความคิดไล่คนอื่นออกจากประเทศ? แง่มุมด้านแนวคิดอุดมการณ์

คุณ Tomorn Sookprecha ได้หยิบยกปัญหาอันแหลมคมจากปรากฏการณ์ที่เรามักได้พบเห็นบ่อยช่วงความขัดแย้งทางการเมืองเข้มข้นรุนแรงสิบปีที่ผ่านมา ตั้งขึ้นเป็นกระทู้และค้นคว้าข้อมูลเหตุผลมาตอบอย่างละเอียดชัดเจนในแง่มุมกฎหมาย https://tomorn.co/2019/04/05/expel/… 

ผมเห็นด้วยกับคุณโตมรทุกประการ แต่อยากเพิ่มข้อสังเกตบางอย่างในแง่มุมที่แตกต่างออกไปคือด้านแนวคิดอุดมการณ์

ในแง่หนึ่ง การเกิดความคิดไล่คนอื่นออกจากประเทศสะท้อน "จิตใจเป็นเจ้าของชาติ" (civic nationalism) ที่แพร่หลายกระจายออกไปในหมู่คนวงกว้าง

ถ้าเทียบกับสมัยที่ "ชาติ" และ "รัฐ" ถือว่าเป็นขององค์อธิปัตย์โดยสิทธิ์ขาดก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ (absolutist state & official nationalism) แล้วก็นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่คืบหน้าไป 

จากเดิมที่ "จิตใจเป็นเจ้าของชาติ" จำกัดแคบในหมู่ชนชั้นนำแล้วค่อยแผ่กว้างขึ้นตามลำดับไปสู่ชนชั้นกระฎุมพีข้าราชการ (ช่วง ๒๔๗๕) และมวลชนคนชั้นกลาง (ช่วง ๒๕๑๖ - ๒๕๓๕) และรากหญ้าในปัจจุบัน 

จนบางคนในหมู่มวลชนสามารถลุกขึ้นมา "ไล่คนอื่นออกจากประเทศ" ด้วยความรู้สึกว่าตนมีสิทธิ์ทำเช่นนั้นได้เพราะมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของประเทศคนหนึ่งด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่ของชนชั้นนำเดิมหรือผู้ปกครองรัฐกลุ่มเดียว

ปรากฏการณ์คิดการเมืองเชิงศีลธรรมแบบแบ่งข้างแยกขั้วเป็นสอง ระหว่าง [ประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์ถูกต้องชอบธรรมเป็นคนดี] กับ [คนไม่ดีที่ไม่ใช่ประชาชนและไม่ใช่ส่วนหนึ่งของชาติจึงไม่ใช่คนไทย] ฉะนั้นควรขับไล่ให้พ้นออกไปจากแผ่นดินประเทศชาตินี้ อาจนับได้ว่าเข้าข่ายชาตินิยม-ประชานิยม (populist-nationalism)

ชั่วแต่ว่ามันเป็นชาตินิยม-ประชานิยมที่คับแคบและเอียงขวา (narrow rightwing populist-nationalism) ที่ตั้งอยู่บนอุดมการณ์ที่ผมเรียกว่า "อุดมการณ์ชาติพันธุ์ไทย" (the ethno-ideology of Thainess)

กล่าวคือ ผูกติดความหมายเชิงเนื้อหาและคุณค่าทางอุดมการณ์และการเมืองบางอย่างฝากฝังไว้กับความเป็นชาติพันธุ์ไทย ถือว่ามันเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแยกไม่ออก และฉะนั้น หากคิดต่างออกไปทางอุดมการณ์และการเมืองในประเด็นนั้น ๆ แล้วก็ไม่นับเป็นคน(ชาติพันธุ์)ไทย และไม่ควรอยู่ในประเทศไทย... มิไยว่าโดยเนื้อแท้แล้วบุคคลที่คิดต่างนั้นจะมีสายโลหิตหรือถือกำเนิดในแผ่นดินไทยหรือไม่อย่างไร ก็ไม่แคร์และไม่เกี่ยว ต่อให้เขามีสายเลือดไทย เกิดในแผ่นดินไทย แต่ถ้าคิด "ไมไทย" แล้ว ก็ถือว่าเท่ากับไม่มีชาติพันธุ์ไทย ไล่ออกนอกประเทศได้ทันที

อุดมการณ์ชาติพันธุ์ไทยนี้เป็นอาวุธทางอุดมการณ์ของฝ่ายอนุรักษนิยมในประเทศไทยมาช้านาน และได้ถูกใช้เป็นข้ออ้างกล่าวหาให้ร้ายและขับไสไล่ส่งผู้เห็นต่างทางอุดมการณ์และการเมืองมาแล้วหลายคน อย่าง อ. ปรีดี พนมยงค์, อ.ป๋วย อึ๊งภากรณ์, หรือแม้แต่ คุณอานันท์ ปันยารชุน ก็เคยถูกกล่าวหาว่าเป็น "ลูกญวน" ค่าที่ท่านปฏิบัติหน้าที่ฟื้นฟูสัมพันธ์ไทย-เวียดนามในปี ๒๕๑๙ ในฐานะปลัดกระทรวงการต่างประเทศ

ผมเกรงว่าแม้จะไม่มีฐานทางกฎหมายให้ไล่เพื่อนคนไทยที่เห็นต่างออกไปจากประเทศ แต่ตราบใดที่ "จิตใจเป็นเจ้าของชาติ" ของมวลชนชาตินิยม-ประชานิยมส่วนหนึ่งยังอยู่บนฐานอุดมการณ์ชาติพันธุ์ไทยฝ่ายอนุรักษนิยมอันคับแคบแล้ว

คำประณามขับไล่คนเห็นต่างที่เป็นเพื่อนร่วมชาติให้ออกไปจากประเทศด้วยข้อหาว่า "ไม่ใช่คนไทย" ก็จะยังคงถูกหยิบมากล่าวอ้างอย่างไร้เหตุผลอยู่สืบไป.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"