“เอดีบี” หนุนลงทุนสีเขียว 


เพิ่มเพื่อน    


    ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ “การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 5 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ จ.เชียงราย” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 เม.ย.2562 ซึ่งงานนี้ได้ชูให้เห็นถึงเทคโนโลยีทางการเงินที่ทันสมัย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในด้านการค้า และการลงทุนระหว่างกันในภูมิภาคอาเซียน และจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนปีนี้เติบโตได้ถึง 4.9% และปี 2563 เติบโตได้ที่ระดับ 5% โดยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ความเสี่ยงและความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุน ความไม่แน่นอนทางการเมือง และการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจยุโรปซึ่งเป็นผลมาจาก Brexit
    ทั้งนี้ ไม่เพียงเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินที่จะบูรณาการใช้ร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกประเทศแล้ว  อีกหนึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นภายในการประชุมครั้งนี้ นั่นคือการเปิดตัวกองทุนการเงินสีเขียวของอาเซียน (ASEAN Catalytic Green Finance Facility) โดยธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) และสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนารายใหญ่ โดยมีทุนประเมินมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน “สีเขียว” ทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    โดยกองทุนนี้เป็นความร่วมมือจาก 1.กองทุนโครงสร้างพื้นฐานอาเซียน (ASEAN Infrastructure Fund : AIF) วงเงิน 75 ล้านเหรียญสหรัฐ 2.เอดีบี วงเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ 3.German Development Bank วงเงิน 336 ล้านเหรียญสหรัฐ 4.European Development Bank วงเงิน 150 ล้านยูโร และ 5.Agence Francaise de Developpement วงเงิน 150 ล้านยูโร ในการใส่ทุนประเดิม ขณะเดียวกันก็ได้ Organization for Economic Cooperation Development (OECD) และ Global Green Growth Institute ที่จะเข้ามาให้การสนับสนุนในเรื่องการแบ่งปันองค์ความรู้ และการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการเงินสีเขียว ส่วน Overseas Private Investment Cooperation ได้แสดงความสนใจให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับโครงการที่เกิดขึ้นใหม่อีกด้วย
    แนวทางดำเนินการของกองทุนการเงินสีเขียวของอาเซียนนั้น จะมีการจัดสรรเงินกู้และความช่วยเหลือทางวิชาการ สำหรับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวของภาครัฐ เช่น การขนส่งแบบยั่งยืน การพัฒนาพลังงานสะอาด และระบบน้ำที่มีความยืดหยุ่น ไม่สนับสนุนโครงการที่ละเลยสิ่งแวดล้อม โดยจะเปิดกว้างให้สำหรับทุกประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียนที่มีความต้องการ ไม่ได้เจาะจงปล่อยกู้เพื่อลงทุนเฉพาะในประเทศที่ล้าหลังเท่านั้น เพราะกองทุนดังกล่าว มุ่งหวังที่จะกระตุ้นเงินทุนจากภาคเอกชน โดยการลดความเสี่ยงต่างๆ ผ่านโครงสร้างนวัตกรรมทางการเงิน
    ด้าน “เอดีบี” ยังยืนยืนที่จะให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องสำหรับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนในกลุ่มประเทศอาเซียน เพราะที่ผ่านมาเอดีบีได้ทำงานใกล้ชิดกับประเทศไทยในการจัดหาวิธีการจัดการทางการเงินและองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการในการพัฒนาของประเทศไทย ซึ่งอยู่ในฐานะประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดังสูง โดยจากข้อมูลตั้งแต่ปี 2509-2561 เอดีบี ได้ให้การสนับสนุนเงินกู้ยืมและเงินให้เปล่าแล้วทั้งสิ้น 7.23 พันล้านเหรียญสหรัฐ
    ขณะเดียวกัน เอดีบีอยู่ระหว่างการขยายเงินกู้และการช่วยเหลือแบบให้เปล่าสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานของอาเซียน และเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างประเทศให้มากขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยระดมทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภาครัฐและเอกชน สำหรับโครงสร้างพื้นฐานผ่านการสนับสนุนการปฏิรูปการจัดเก็บภาษี การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน และการทำหน้าที่ของเอดีบีในการช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของโครงการ
    เอดีบีกำลังรวบรวมเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำไปใช้ในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และการช่วยเหลือภาคสังคมอื่นๆ ในประเทศอาเซียน โดยเอดีบีมุ่งมั่นในการพัฒนาภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกให้เจริญรุ่งเรือง มีการพัฒนาอย่างทั่วถึง พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง และมีความยั่งยืน ในขณะเดียวกัน ยังคงพยายามในการขจัดปัญหาความยากจนต่อไป.

ครองขวัญ รอดหมวน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"