เสี่ยหนูประกาศ ร่วมสู้คดีกัญชา จนท.ส่อผิด157


เพิ่มเพื่อน    


    #SaveDecha คึกคัก “เสี่ยหนู” ประกาศขอรับผิดชอบประกันอาจารย์ซ้ง พร้อมต่อสู้กับอาจารย์เดชา ลั่นสภาเปิดเมื่อไหร่จะแก้กฎหมายเรื่องกัญชาทันที “ประพัฒน์” เดือดอัดหูหนวกตาบอดหรือ เตือนระวังสังคมลุกเป็นไฟ หมอธีระวัฒน์ชี้อยู่ช่วงนิรโทษฯ เสี่ยงโดน 157 ชาวบ้านเศร้าวัดป่าฯ หยุดแจกแคปซูลกัญชา  
    กรณีเจ้าหน้าที่ได้เข้าบุกตรวจค้นมูลนิธิข้าวขวัญ  จังหวัดสุพรรรบุรี ซึ่งมีนายเดชา ศิริภัทร เป็นประธานมูลนิธิฯ โดยพบว่ามีการปลูกกัญชากว่า 200 ต้น และมีการผลิตทำน้ำมันกัญชาเพื่อนำมาใช้ทางการแพทย์ โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีการจับกุมตัวนายพรชัย ชูเลิศ หรืออาจารย์ซ้ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิข้าวขวัญ ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. ขณะที่นายเดชาได้รับหมายเรียกด้วยนั้น ทำให้เกิดกระแส #SaveDecha เพื่อขอให้อย่ามีการจับกุม เพราะยังอยู่ในช่วงการนิรโทษกรรมครอบครองกัญชา
    ล่าสุดพบว่ามูลนิธิชีววิถี หรือไบโอไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Biothai ประกาศขอรับบริจาคเงินสมทบเพื่อใช้ในการประกันตัวนายพรชัย และเพื่อต่อสู้คดีอาจารย์เดชา โดยมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และมูลนิธิชีววิถี ได้เปิดบัญชีธนาคารเพิ่มเติม ประเภทเงินฝากออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ และ/หรือ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง และ/หรือ น.ส.ทัศนีย์ วีระกันต์ เลขที่บัญชี 414 032159 8 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเซ็นเตอร์วัน ช้อปปิ้ง พลาซ่า
    ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โพสต์เฟซบุ๊กเช่นกันว่า ขอรับผิดชอบเป็นผู้ประกันตัวและการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมให้คุณเดชาและคุณพรชัยเอง ส่วนการร่วมสมทบทุนที่ตั้งใจไว้ ขอให้เป็นการสมทบทุนเพื่อพัฒนาและต่อยอดการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ของภาคประชาชนตามเจตนารมณ์ของคุณเดชา เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยต่อไป
    “ผมขอยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยจะดำเนินการแก้ไขกฎหมาย ให้ประชาชนมีสิทธิ มีโอกาสปลูกกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ และเพื่อใช้ในครัวเรือน เพื่อใช้เป็นยารักษาอาการป่วยของตนเองได้ รอเวลาสภาเปิดถึงวาระแก้กฎหมาย มาช่วยกันผลักดันนะครับ ทั้งนี้ ทีมงานของคุณเดชาประสานมาที่พรรคภูมิใจไทยได้นะครับ เพื่อทำงานร่วมกัน#saveเดชา” นายอนุทินโพสต์ไว้
    ต่อมามูลนิธิชีววิถีโพสต์เฟซบุ๊กเพิ่มเติมว่า นายอนุทินและคณะทำงานจะไปยื่นขอประกันตัวนายพรชัย ในวันที่ 9 เม.ย.2562 ที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี เวลา 13.00 น.
    ด้านนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวในเรื่องนี้ว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการจับกุมครั้งนี้ เพราะการใช้กฎหมายอาญาควรดูที่เจตนา แม้นายเดชามีไว้ในครอบครอง แต่ทำเป็นยารักษาโรค และไม่ได้รับผลประโยชน์แม้แต่สตางค์แดงเดียว 
    “เจ้าหน้าที่หูหนวกตาบอดหรืออย่างไร ไปบังคับใช้กฎหมายโดยไม่ดูข้อเท็จจริง และตีความข้างเดียวทำร้ายประชาชน ระวังสังคมจะลุกเป็นไฟ” นายประพัฒน์กล่าว
    นายประพัฒน์กล่าวต่อว่า ในบทเฉพาะกาลของพระราชบัญญัติยาเสพติดฉบับใหม่ ได้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้กัญชารักษาโรคไปจดแจ้งการครอบครองกัญชาภายใน 90 วัน ซึ่งช่วงนี้อยู่ในบทเฉพาะกาล หากนายเดชาครอบครองกัญชาเพื่อเชิงพาณิชย์หรือส่งขายก็จับไปเลย แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจตนาที่แท้จริงคือรักษาคน แต่เจ้าหน้าที่รัฐยังบังคับใช้กฎหมายแบบขาดสติและไม่รับฟังเสียงประชาชน
    เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์กันว่าอนาคตกัญชาอาจตกอยู่ในมือของกลุ่มทุนใหญ่ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นกับนายเดชาเป็นเพราะสาเหตุนี้หรือไม่ นายประพัฒน์ระบุว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะทุนใหญ่หรือไม่ แต่ที่ทราบคือตอนนี้กลุ่มทุนใหญ่ทั้งในและต่างประเทศมองกิจกรรมของไทยที่ผ่อนปรนเรื่องกัญชาด้วยความละโมบ เพราะต้องการคว้าเค้กก้อนใหญ่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติทั่วไปของทุน แต่พวกเราก็จะคัดค้านให้ถึงที่สุด และสภาเกษตรกรก็พร้อมจะลุกฮือหากเหตุการณ์กลายเป็นเช่นนั้น
    “ตอนที่ทำกฎหมายเราต้องการแก้ไกลกว่านี้ แต่รัฐบาลไม่กล้าเดินจึงแก้เฉพาะหน้าและยังคงอยู่ในบัญชียาเสพติด ตอนแรกเราคิดว่ายังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย แต่ที่ไหนได้ กระทรวงสาธารณสุขกลับออกระเบียบยุ่งยาก คนทั่วเข้าถึงยาก และประชาชนหวาดระแวงว่าจะเป็นการชี้เป้าให้เจ้าหน้าที่หลังหมดบทเฉพาะกาลหรือไม่ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ไว้ใจ” นายประพัฒน์กล่าว
    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กเช่นกันว่า ได้รับข้อความจาก ศ.พิเศษวิชา มหาคุณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ส่งมาถึง โดยระบุว่า ช่วงนี้จนถึงวันที่ 19 พ.ค. เป็นช่วงนิรโทษกรรม 90 วัน ภายหลังจากการประกาศใช้กฎหมายปลดล็อกกัญชา ฉะนั้นใครถูกจับถือว่ากลั่นแกล้ง ทั้งๆ ที่กฎหมายบอกว่าไม่ต้องรับโทษ ถึงถูกส่งตัวไปที่ศาล ศาลก็ต้องจำหน่ายคดี
    “คุณเดชาหรือใครก็ตามที่ถูกจับต้องไปฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เพราะเป็นผู้เสียหายโดยตรง เหตุที่ต้องใส่บทบัญญัตินี้ไว้ ก็เพราะเกรงว่าจะมีการกลั่นแกล้งของเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วผมก็เดาไม่ผิด ราษฎรตาดำๆ ก็ต้องเดือดร้อนอย่างที่คิดไว้จริงๆ เลขาฯ อย.ถ้าขืนให้สัมภาษณ์สนับสนุนการจับกุมของตำรวจว่าเป็นไปโดยชอบ ทั้งที่ไม่ชอบ ซึ่งมีหน้าที่ต้องยับยั้งไม่ให้มีการกลั่นแกล้ง อาจเข้าข่ายประพฤติมิชอบไปด้วย” ศ.นพ.ธีระวัฒน์กล่าว
สำหรับความเคลื่อนไหวที่วัดป่าวชิรโพธิญาณ ต.ท้ายน้ำ อ.โพทะเล จ.พิจิตร ซึ่งเป็นสถานที่แจกจ่ายน้ำมันกัญชารักษาโรคมะเร็งให้กับผู้ป่วยฟรีของเครือข่ายนายเดชาเป็นจุดแรก พบว่าหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้หยุดแจกจ่ายน้ำมันกัญชาแคปซูล เพราะกลัวจะตกเป็นผู้ต้องหาตามไปด้วย
    ล่าสุดก็พบว่ายังมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งและผู้ป่วยจากโรคอื่นๆ ประมาณ 200-300 คน ที่ไม่ทราบข่าวว่าทางวัดและเครือข่ายของได้หยุดแจกน้ำมันกัญชารักษาโรคมะเร็งยังแห่กันมา แต่เมื่อมาถึงทุกคนต่างผิดหวังเมื่อเห็นป้ายประกาศว่าหยุดแจกน้ำมันกัญชา อีกทั้งประตูทางเข้าวัดป่าวชิรโพธิญาณก็ปิดประตูไม่ให้เข้าไปในวัด รวมถึงไม่มีคำชี้แจงใดๆ แต่ผู้ป่วยโรคมะเร็งต่างรวมตัวกันนั่งจับเข่าพูดคุยเฝ้ารออย่างมีความหวังว่าจะได้รับน้ำมันกัญชา แต่สุดท้ายรอตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงวันประตูวัดก็ไม่เปิด จึงได้รู้ว่าหมดหวังแล้ว และออกมาวิงวอนว่าน้ำมันกัญชาที่เครือข่ายและลูกศิษย์ของ อ.เดชานำมาแจกให้ฟรีๆ ใช้แล้วได้ผลจริง จึงอยากวิงวอนขอให้รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางแก้กฎหมาย หรือผ่อนปรนให้ อ.เดชาได้ผลิตน้ำมันกัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ให้ได้ดำเนินการได้ต่อไป
    “อยากให้รัฐบาลที่เคยบอกว่าจะคืนความสุขให้กับประชาชน ถ้าจะมอบความสุขให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งเหล่านี้ ขอเพียงแก้กฎหมายและสนับสนุน อ.เดชา ให้มาดำเนินการต่อไป โดยมีกฎหมายรองรับ รัฐบาลทำเพียงเท่านี้ก็ได้ ถือว่าคืนความสุขให้กับประชาชนได้แล้ว” ชาวบ้านที่มารอแคปซูลน้ำมันกัญชารายหนึ่งกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"