รพ.แถลงรับผิด ให้น้ำเกลือเนื้อตาย


เพิ่มเพื่อน    


    พ่อพาลูกสาววัยขวบครึ่งไปรักษาอาการผื่นคันที่ รพ. หมอให้นำเกลือตอนตี 1 ปรากฏเด็กร้องจนถึงเช้าถึงได้ไปดูพบเข็มแทงไม่ถูกเส้นเลือด น้ำเกลือคั่งที่แขนและมือ ก่อนที่ ผอ.รพ.จะแถลงแสดงความเสียใจ พบผิวหนังตาย 
    ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Panya Mahasuk" ได้โพสต์รูปภาพพร้อมระบุข้อความว่า ได้พาลูกสาววัย 1 ปี 6 เดือน ไปรักษาอาการผื่นคันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งแพทย์ได้เสียบสายน้ำเกลือให้ แต่สุดท้ายกลับเสียบผิด น้ำเกลือไม่ได้เข้าเส้นเลือด แต่กลับไปอยู่ใต้ผิวหนังของแขนแทน ทำให้แขนเกิดอาการบวมจนขยับไม่ได้ ผ่านมา 2 วัน จากนั้นหมอได้มาดูอาการ บอกว่าจะรับผิดชอบให้ แต่ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบจริงจัง  
    นายปัญญา มหาสุข อายุ 31 ปี ผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว กล่าวว่า ตนทนไม่ไหวแล้ว จึงอยากจะให้ทุกคนช่วยแชร์เรื่องนี้กันต่อๆ ซึ่งอาจจะทำให้ทางโรงพยาบาลหันมาใส่ใจให้มากกว่านี้ "ผ่านไปเป็นวันที่ 3 ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ผมก็ยังไม่ได้คำยืนยันที่แน่นอนจากหมอว่าจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้ยังไง มีแต่ให้รอ ไม่รู้รออะไร รอเรื่องเงียบหรือ มือลูกของผมจะหายเปนปกติไหม ใครจะรับผิดชอบ เหตุเกิดเพราะความไม่ใส่ใจของพยาบาลเพียงคนเดียว"
    นายปัญญาเล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา ลูกของตนยังพูดไม่ได้ เข้ารักษาอาการผื่นคัน หมอแทงสายน้ำเกลือให้ตอนประมาณตี 1 จากนั้นก็ไม่ได้มาสนใจเลยว่าสายน้ำเกลือนั้นอยู่ปกติดีหรือไม่ กระทั่งช่วงเช้า ลูกร้องไห้หนักมาก หมอจึงเพิ่งมาดู ปรากฏว่าน้ำเกลือไม่ได้เข้าเส้นเลือด แต่เข้าไปขังอยู่ใต้ผิวหนังบริเวณมือและแขนของลูกแทน ทำให้แขนลูกบวมจนขยับไม่ได้ จากนั้นหมอได้มาดูอาการ บอกว่าจะรับผิดชอบให้ แต่ก็เป็นการพูดเพียงปากเปล่า 
    "ต่อมาในวันที่ 9 เมษายน ผมขอพบผู้อำนวยการโรงพยาบาล แต่กลับได้พบใครก็ไม่รู้ยื่นกระดาษมาให้ 1 แผ่น บอกให้เขียนคำร้องขอเข้าพบผู้อำนวยการโรงพยาบาล จึงได้มีการขอชื่อและเบอร์ติดต่อไป และบอกว่าวันที่ 10 เมษายนจะมีคนติดต่อมา แต่ตนเฝ้ารอทั้งวันก็ไม่มีใครติดต่อมา ให้ภรรยาไปถาม ก็ได้คำตอบว่า ผอ.กำลังประชุมอยู่ ส่วนสภาพมือของลูกตนยิ่งมีอาการหนักกว่าเดิม 
    ที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ วันที่ 11 เมษายนนี้ รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผอ.โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้เปิดแถลงข่าว โดยมีนายปัญญาพ่อของเด็กร่วมรับฟัง
    รศ.นพ.พฤหัสกล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจและเห็นใจทางครอบครัวของน้องที่เกิดเหตุการณ์ที่มีภาวะแทรกซ้อนในการรักษา มีผิวหนังตายที่บริเวณมือ ซึ่งเหตุการณ์นี้ผู้ป่วยได้มาตรวจรักษาเมื่อวันที่ 7 เม.ย. เวลาประมาณ 20.00 น. โดยมาด้วยอาการผื่น เบื้องต้นคิดว่าเป็นเรื่องของการแพ้ยา เพราะผู้ป่วยมีการกินยาปฏิชีวนะมาส่วนหนึ่ง จึงรับเข้าดูแลรักษา เวลาประมาณ 00.20 น. วันที่ 8 เม.ย. มีการให้น้ำเกลือเพื่อสังเกตอาการ หลังจากที่แทงน้ำเกลือแล้วถึงเวลา 08.00น. ผู้ป่วยมีอาการกระสับกระส่ายบ้าง โยเยบ้าง เป็นเหตุการณ์ในเด็กเล็กอาจบ่งบอกถึงความไม่สบาย กระทั่งทาง รพ.ไปพบสายน้ำเกลือที่เคลื่อนหลุดเกิดการบวมที่ผิวหนัง จึงถอดน้ำเกลือออก 
    "สาเหตุหลักคือน้ำเกลือหลุดออกนอกเส้น ทำให้แผลกระจายไปทั่ว หลังจากนั้นแล้วเป็นแผลแทรกซ้อนจากน้ำเกลือไหลออกมาตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ถึงวันที่ 10 เม.ย. โดยการที่น้ำเกลือเข้าไปแทรกนั้นคือการขาดเลือดของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำก่อนจะเป็นถุงน้ำเกิดขึ้นเหมือนผิวหนังที่ตาย ซึ่งทาง รพ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยมีทีมเข้าไปดูแล จากการประสานงานมาตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. ทางบิดาผู้ป่วยยังไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ ตั้งแต่วันเกิดเหตุผู้ป่วยได้รับการดูแลอยู่แล้ว ทาง รพ.มีความยินดีที่จะดูแลรักษาต่อ ค่าใช้จ่ายจากประวัติแทรกซ้อน ให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายของทาง รพ.ไป" รศ.นพ.พฤหัสกล่าว
    รศ.นพ.พฤหัสกล่าวว่า จากการประสานผู้เชี่ยวชาญแล้ว พบว่าอาการบวมของผู้ป่วยปัจจุบันมีการยุบไปแล้ว เหลือเฉพาะจุดที่มีเนื้อตาย ที่ผ่านมา 3 วันทำให้รู้ขอบเขตของโรคแล้ว ผิวหนังที่ตายส่วนใหญ่ถ้าเราทำแผลประกอบกับผู้ป่วยยังเด็ก การสมานของแผลค่อนข้างที่จะรวดเร็วมีประสิทธิภาพสูง ขอเวลาสัก 2 สัปดาห์จะสามารถบอกได้ว่าจะดำเนินการรักษาอะไรต่อ โดยจากการพูดคุยกับบิดาผู้ป่วย ทราบว่า 1.อยากให้ดูแลผู้ป่วยในห้องเดี่ยวพิเศษที่ผู้ป่วยรักษาอยู่แล้ว ซึ่งทาง รพ.ก็ยินดี 2.ค่าใช้จ่ายที่เป็นส่วนเกินซึ่งเป็นภาระหนักของครอบครัว ทาง รพ.ยินดีดูแลประสานต่อจนจบ 
    "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ยังไม่ได้สรุปชัดเจนว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุใด เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นห่างกัน 8 ชม.โดยได้มีการพูดคุยกันในทีมความเสี่ยงและทีมพยาบาล ว่าการที่เราจะไปตรวจพบหรือพบภาวะแทรกซ้อนเร็วเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยแน่นอน เช่นเวลาตั้งแต่แทงน้ำเกลือไปจนถึงเวลา 08.00 น. อาจจะเกิดจากการแทงเข็มน้ำเกลือแล้วเลื่อนหลุด หรือว่าผู้ป่วยขยับแล้วเลื่อนหลุดก็ตาม ซึ่งเวลาตรงนี้จะมีผลมาก หากทราบเร็วภาวะแทรกซ้อนก็จะน้อยลง สิ่งนี้ทาง รพ.จะนำไปประสานการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยต่อไป".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"