“อนุพงษ์” นำผู้ว่าฯ กทม.-ผู้ว่าฯ 76 จังหวัด ซ้อมเสมือนจริงขบวนเชิญน้ำอภิเษก-น้ำสรงพระมุรธาภิเษกไปวัดสุทัศน์-วัดพระแก้ว เตรียมพร้อมงานบรมราชาภิเษก ทั้งสองขบวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมเพรียงและสมพระเกียรติ ประชาชนให้ความสนใจตลอดทาง
    เมื่อวันที่ 11 เมษายน กระทรวงมหาดไทย (มท.) จัดซ้อมเสมือนจริงขบวนเชิญน้ำอภิเษกและน้ำสรงพระมุรธาภิเษก จากกระทรวงมหาดไทยไปยังวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งพิธีจริงจะมีวันที่ 18 เม.ย. ซึ่งในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 จะมีพิธีปลุกเสกน้ำรวมที่วัดสุทัศน์วันที่ 18-19 เม.ย. โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และสมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สำหรับการซ้อมเสมือนจริงครั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซ้อมเสมือนจริงเริ่มขึ้นเวลา 06.00 น. ผู้เข้าร่วมพิธีเชิญน้ำอภิเษกตั้งแถวพร้อมกันบนถนนอัษฎางค์ หน้า มท. ซึ่งเป็นจุดตั้งขบวน จากนั้นข้าราชการระดับสูงของ มท. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด ตั้งแถวบริเวณด้านหน้า มท.
    ต่อมาเวลา 06.20 น. ผู้เชิญคนโทน้ำจำลอง  จำนวน 86 คน เชิญคนโทน้ำลงจากศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ทางบันไดหน้ามุข และนำไปวางเรียงบนรถเชิญน้ำอภิเษกซึ่งตั้งอยู่บนถนนอัษฎางค์  หน้า มท. แล้วไปตั้งแถว ณ จุดตั้งขบวน โดย พล.อ.อนุพงษ์ ประธานในพิธี พร้อมด้วย รมช.มหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางถึงสถานที่จัดพิธี ถวายความเคารพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพถวายราชสักการะ แล้วถวายความเคารพ 
    จากนั้นเคลื่อนขบวนเชิญน้ำอภิเษกจาก มท. ไปตามถนนอัษฎางค์ เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนบำรุงเมืองและเข้าสู่ถนนดินสอ เลี้ยววนรอบเสาชิงช้า ตรงไปยังวัดสุทัศน์ รมช.มท. ข้าราชการระดับสูงของ มท. ผู้ว่าฯกทม. และผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ตั้งแถวหน้าพระวิหารวัดสุทัศน์ ผู้เชิญคนโทน้ำอภิเษกเชิญคนโทน้ำอภิเษกจากรถเชิญน้ำอภิเษกไปยังด้านหน้าพระวิหารวัดสุทัศน์  
    จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ รมว.มท., รมช.มท.,  ข้าราชการระดับสูงของ มท., ผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าฯ 76 จังหวัด เชิญคนโทน้ำอภิเษกเข้าไปวางในพระวิหารวัดสุทัศน์ และเดินกลับเข้าขบวนก่อนเคลื่อนขบวนกลับ มท.  
    สำหรับรูปแบบขบวนเชิญน้ำอภิเษกจาก มท.ไปยังวัดสุทัศน์ ประกอบด้วยรถตำรวจนำขบวน ตามด้วยวงดุริยางค์กองทัพบก 52 นาย บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 3 บทเพลง ได้แก่ ใกล้รุ่ง, มาร์ชราชวัลลภ และยามเย็น ต่อด้วยกำลังพลกองอาสารักษาดินแดนเชิญธงชาติ 34 นาย และเชิญธงตราสัญลักษณ์ 34 นาย รวมทั้งสิ้น 68 นาย จากนั้นเป็นรถเชิญคนโทน้ำจำลองรวม 86 ใบ ตามด้วย รมว.มท., รมช.มท., ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าฯ กทม. รวมทั้งหมด 86 คน ถัดมาเป็นผู้เชิญคนโทน้ำจำลอง 86 คน และผู้ร่วมขบวนปิดท้ายด้วยรถตำรวจ โดยรวมระยะทางทั้งหมด 740 เมตร 
    ในวันเดียวกันนี้ มท.จัดซ้อมขบวนเชิญน้ำอภิเษกจากวัดสุทัศน์ ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งพิธีจริงจะมีขึ้นในวันที่ 19 เม.ย. 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซ้อมเสมือนจริงเริ่มขึ้น รมว.มท., รมช.มท., ข้าราชการระดับสูงของ มท., ผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ตั้งแถวบริเวณด้านหน้าพระวิหารวัดสุทัศน์ และเชิญคนโทจำลองออกจากพระวิหารวัดสุทัศน์ ลงมายังด้านหน้าพระวิหาร วางในจุดที่กำหนดผู้เชิญคนโทน้ำอภิเษกจำนวน 86 คน เชิญคนโทไปวางบนรถเชิญน้ำอภิเษกตามลำดับ  จากนั้น รมว.มท., รมช.มท., ข้าราชการระดับสูงของ มท., ผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าฯ 76 จังหวัด เดินจากหน้าพระวิหารเข้าสู่ขบวน  
    จากนั้นเวลา 08.07 น. เคลื่อนขบวนโดยมีผู้ร่วมขบวนทั้งหมด 1,200 คน ความยาวของขบวนประมาณ 178 เมตร ต่อมาเมื่อเวลา 08.50 น. ขบวนถึงยังประตูสวัสดิโสภา ผู้ว่าฯ กทม.และผู้ว่าฯ 76 จังหวัด เชิญพานพุ่มทอง-พานพุ่มเงินนำไปวางบนจุดที่กำหนดบริเวณกำแพงพระบรมมหาราชวัง เพื่อถวายราชสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วเดินไปตั้งแถวบริเวณด้านหน้าปราสาทพระเทพบิดร ตามลำดับ  
    ต่อมา รมว.มท., รมช.มท., ข้าราชการระดับสูงของ มท. รวม10 คน เชิญพานกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพถวายราชสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นเดินไปตั้งแถวบริเวณด้านหน้าปราสาทพระเทพบิดร รมว.มท., รมช.มท., ข้าราชการระดับสูงของ มท., ผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เชิญคนโทไปวางในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเดินกลับมาตั้งแถวหน้าประตูสวัสดิโสภา จากนั้นเคลื่อนขบวนกลับ มท. รวมระยะทาง 1,940 เมตร 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซ้อมทั้งสองขบวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมเพรียง และสมพระเกียรติโดยตลอดสองข้างทางที่ขบวนผ่าน ประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้ความสนใจนำโทรศัพท์ส่วนตัวเก็บภาพการซ้อมในพื้นที่จริงตลอดทาง.