
สามีผู้ตายพร้อมญาติบุกโรงพักฮือจะทำร้ายพ่อเลี้ยงใช้ค้อนตีลูกเลี้ยงตั้งท้อง 7 เดือนตายสยอง ตำรวจระงับทำแผนรอจนฝ่ายผู้สูญเสียกลับไปหมดจึงจำลองเหตุการณ์ใน สน. พบพฤติกรรมสุดเหี้ยม แค้นแม่ผู้ตายหนีกลับต่างจังหวัดมาลงที่ลูก เรียกให้เปิดประตู กระหน่ำตีทั้งหัวและท้องจนหัวค้อนหลุด คร่ำครวญสำนึกผิดขอให้ศาลสั่งประหารชดใช้ 2 ชีวิต
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 เมษายนนี้ พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ได้คุมตัวนายภูมิใจ เหลืองทอง หรือใจ พ่อเลี้ยงโหดวัย 57 ปี ที่ก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวฆ่านางสาวนันท์ชยา หรือนุ่น จันทะโมคา อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงที่กำลังตั้งท้อง 7 เดือน เตรียมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยก่อนที่จะเริ่มทำแผน นายธนวัตร แก้วคำสอน อายุ 29 ปี สามีผู้เสียชีวิต และนายณัชพล สุวชัย อายุ 26 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิต พร้อมกลุ่มญาติและเพื่อนของผู้เสียชีวิต ทยอยเดินทางมาที่ สน.คันนายาว เพื่อมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตแจ้งความประสงค์ว่า อยากจะถามผู้ต้องหาว่าฆ่าผู้ตายทำไม โดยทั้งหมดได้เข้าพบผู้ต้องหาที่หน้าห้องควบคุมตัว ซึ่ง พ.ต.อ.สิงห์ได้จัดกำลังดูแลความเรียบร้อย เพื่อป้องกันความวุ่นวาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติของผู้ตายได้เดินขึ้นไปที่ห้องควบคุมเพื่อพูดคุยกับผู้ต้องหาผ่านลูกกรง ก่อนที่นายภูมิใจผู้ต้องหาจะยกมือไหว้ขอโทษ อย่างไรก็ตาม นายธนวัตรได้ตะโกนด่าทอนายภูมิใจอย่างรุนแรง และชกไปที่ลูกกรง จนเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเกิดเหตุบานปลาย จึงได้สั่งยุติการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ต้องหา
พ.ต.อ.สิงห์กล่าวว่า คดีนี้ตนอยากให้ทางญาติสบายใจว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามพยานหลักฐาน ตามขั้นตอนกฎหมายทุกประการ ส่วนที่ผู้ต้องหารับสารภาพแล้วจะเป็นเหตุลดโทษทำให้ไม่โดนโทษสถานหนักหรือไม่ ศาลจะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจพิจารณาเอง ซึ่งตามกฎหมายแล้ว หากผู้ต้องหาจำนนต่อพยานหลักฐาน ก็เป็นดุลพินิจที่ศาลจะไม่ลดโทษให้ก็ได้
ผกก.สน.คันนายาวเปิดเผยด้วยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตำรวจได้ไปรับตัวนายภูมิใจจากโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี หลังกินยาฆ่าแมลงเพื่อหนีความผิด โดยนำตัวมาสอบสวนตั้งแต่เมื่อคืน ต่อหน้าทนายความ ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา พร้อมกับมีอาการเครียด จึงเฝ้าสังเกตอาการตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนสาเหตุเกิดจากการหึงหวงภรรยา และมีปากเสียงกันจนภรรยาหนีออกจากบ้านและไม่ยอมรับโทรศัพท์ ด้วยความโกรธแค้นจึงหยิบค้อนภายในบ้านเดินไปเคาะประตูห้องผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นลูกสาวของภรรยาที่ภรรยารักมาก โดยอ้างว่าจะขอยืมเงิน เมื่อผู้เสียชีวิตเปิดประตู จึงใช้ค้อนกระหน่ำตีที่หัวหลายครั้ง และใช้ค้อนทุบที่ท้องอีก 3 ครั้งจนเสียชีวิต โดยที่ไม่ได้มีความโกรธแค้นกับผู้เสียชีวิตมาก่อน และผู้ตายก็ไม่ได้ต่อสู้ แต่เป็นเพราะโมโหภรรยา ซึ่งหลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาหลบหนีไปบ้านเกิดที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนย้อนกลับเข้ามาที่กรุงเทพมหานครอีกครั้ง กระทั่งมีคนพบว่าผู้ต้องหากินยาเบื่อหนูเพื่อฆ่าตัวตาย และก่อนหน้านี้ก็พยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว 1 ครั้ง โดยใช้สายไฟโรงแรมที่พักระหว่างหลบหนีมาชอร์ตตัวเอง แต่ระบบตัดไฟทำงานจึงไม่เสียชีวิต
"นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังร้องขอรับโทษประหารชีวิต เนื่องจากสำนึกผิดในสิ่งที่ได้ทำลงไปกับลูกเลี้ยง วันพรุ่งนี้ (15 เม.ย.) พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวนายภูมิใจไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ก่อนเวลา 12.00 น. พร้อมคัดค้านประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ" พ.ต.อ.สิงห์ระบุ
ด้านนายธนวัตร แก้วคำสอน สามีของผู้เสียชีวิต กล่าวภายหลังขึ้นไปพบกับผู้ต้องหาในห้องควบคุมตัวชั้น 2 ของ สน.คันนายาว ว่า ผู้ต้องหาอยู่กินกับแม่ของผู้เสียชีวิตมานานถึง 15 ปี โดยทุกคนในครอบครัวไว้ใจมาโดยตลอด ไม่คิดว่าจะก่อเหตุเพียงเพราะความโมโห ตนต้องสูญเสียลูกและภรรยาอย่างไม่เป็นธรรม จึงเรียกร้องให้ลงโทษสูงสุดประหารชีวิต เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับภรรยาและลูก ส่วนศพของภรรยาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสัมมาชัญญาวาส หรือวัดใหม่ ริมถนนพระยาสุเรนทร์ ติดกับซอย 40 และจะฌาปนกิจในวันที่ 17 เมษายนนี้
น.ส.ว่านไพลิน หอมวัชระ ทนายความอาสาของผู้ต้องหา กล่าวว่า คดีนี้ผู้ต้องหามีอาการเครียด โดยระหว่างที่ให้คำปรึกษาด้านคดี ตัวผู้ต้องหาได้เเจ้งกับตนหลายครั้งว่าจะมีวิธีไหน ทำอย่างไรก็ได้ที่ศาลจะพิพากษาประหารชีวิต เนื่องจากเขาสำนึกผิด ตอนที่กระทำไปเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ จนเขาลืมไปหมดว่าที่เขากระทำอยู่เป็นคนท้อง อยากจะขอโทษญาติและขออโหสิกรรม
ต่อมาเวลา 13.40 น. หลังจากสามีและญาติของผู้ตายพากันกลับไปหมดแล้ว ตำรวจได้นำตัวนายภูมิใจออกมาบริเวณห้องพบญาติ เพื่อจำลองเหตุการณ์ เริ่มจากผู้ต้องหาตะโกนเรียกผู้เสียชีวิตให้เปิดประตูออกมา จากนั้นก็ใช้ค้อนกระหน่ำตีผู้ตายหลายครั้ง ทั้งที่ศีรษะและลำตัวจนหัวค้อนหลุด ขณะที่ผู้เสียชีวิตได้แต่ยกแขนกันครั้งเดียว
นายภูมใจ เหลืองทอง กล่าวผ่านห้องขังหลังทำแผนว่า อยากจะบอกผ่านสื่อไปถึงญาติของผู้เสียชีวิตว่า ตนเองรู้สึกสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป ยอมรับว่าตอนนั้นโมโหขาดสติ เพราะตนรักแม่ของผู้ตายมาก จนลืมนึกไปว่าผู้ตายตั้งครรภ์อยู่ เชื่อว่าสิ่งที่ตนเองพูดไปคงไม่สามารถเปลี่ยนใจญาติคนตายได้ จึงอยากจะขออโหสิกรรมกับสิ่งที่ทำลงไป และอยากขอให้ศาลหรือกระบวนการยุติธรรมตัดสินประหารชีวิต หาก 1 ชีวิตแลกกับ 2 ชีวิตได้ก็ยอม
ที่มาของคดีนี้ เมื่อบ่ายวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.คันนายาวรับแจ้งเหตุหญิงถูกฆ่าภายในหมู่บ้านเสริมสิริ ย่านแยกลำกะโหลก แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น เลขที่ 668/64 ด้านล่างเป็นร้านเสริมสวย ชื่อ พิมพา บิวตี้ ส่วนที่เกิดเหตุอยู่ในห้องนอนชั้น 2 พบศพ น.ส.นันท์ชยา จันทะโมคา อายุ 29 ปี ซึ่งกำลังท้องได้ 7 เดือน นอนเสียชีวิต ที่ศีรษะถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์ และที่ท้องมีร่องรอยถูกทุบ หูซ้ายขาด เจ้าหน้าที่พบค้อนตอกตะปูตกอยู่ การสอบสวนทราบว่าคนร้ายคือนายภูมิใจ เหลืองทอง ชาว จ.ฉะเชิงเทรา อาชีพขี่วินรถจักรยานยนต์ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป
นายธนวัตร แก้วคำสอน อายุ 29 ปี สามีของผู้เสียชีวิต ให้การว่า ภรรยาเป็นเจ้าของร้านเสริมสวยดังกล่าว โดยทำอยู่กับนางพิม ผู้เป็นแม่ ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายภูมใจซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของผู้เสียชีวิต มีนิสัยชอบเล่นพนัน โดยเฉพาะสนุกเกอร์ และชอบดื่มเหล้า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ายภูมใจมีปากเสียงกับนางพิมสาเหตุจากนายภูมใจหึงหวงนางพิม จนกระทั่งนางพิมทนไม่ไหวหนีกลับบ้านที่ จ.อำนาจเจริญ จากนั้นนายภูมิใจ ได้โทรศัพท์ไปขู่นางพิมว่า ถ้าไม่กลับมาจะฆ่า น.ส.นันทชยาให้ตาย จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว
ต่อมาเช้าวันที่ 13 เม.ย. มีผู้พบนายภูมิใจได้กินยาเบื่อหนูหวังฆ่าตัวตายหนีความผิด บริเวณอู่รถเมล์สาย 122 ย่านแฮปปี้แลนด์ แต่มีคนช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลจนรอดชีวิต ก่อนที่ตำรวจจะไปรับตัวดำเนินคดี
แค้นเมียไม่คืนดีสาดลูกซองเจ็บ 3
ที่ชลบุรี พ.ต.อ.ปพนพัชร์ ใบยา ผกก.สภ.บ่อวิน อ.ศรีราชา นำกำลังไปตรวจสอบหลังรับแจ้งมีเหตุชายใช้มีดแทงตัวเองได้รับบาดเจ็บที่บ้านพักพนักงาน เลขที่ 219/10 หมู่ที่ 4 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา พบนายบุญลอง ปุ้กเป็ด อายุ 42 ปี มีบาดแผลถูกแทงบริเวณหน้าท้องไส้ทะลัก เจ้าหน้าที่ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง สอบสวนทราบว่าก่อนหน้า นายบุญลองพยายามง้อภรรยาคือ น.ส.มุตตาล ครวญคะนอง อายุ 42 ปี ที่เลิกรากันประมาณปีเศษ แต่ไม่สำเร็จ จึงขับรถยนต์ เชฟโรเลต สีขาว หมายเลขทะเบียน บน 7612 อุตรดิตถ์ ไปที่หน้าร้านขายก๋วยเตี๋ยวของ น.ส.มุตตาล ที่หมู่ 4 ต.บ่อวิน จากนั้นอาวุธปืนลูกซองยิงสาดเข้าในร้าน กระสุนถูก น.ส.มุตตาล อดีตภรรยา เข้าที่หัวไหล่ และยังถูกลูกค้า 2 คนที่มานั่งกินก๋วยเตี๋ยว คือนายสิทธิพงษ์ คำงูเหลือม อายุ 27 ปี และนายอนุวัฒน์ สิงหา อายุ 21 ปี สาหัสทั้ง 3 คน ถูกนำส่ง รพ.ปิยะเวชช์บ่อวิน จากนั้นนายบุญลองก็กลับไปแทงตัวเองเพื่อหนีความผิด.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |