เผาป่าหนักข้อ เป็นทะเลเพลิง


เพิ่มเพื่อน    


    เจ้าหน้าที่วิ่งวุ่นรับมือผู้ลักลอบเผาป่าในเชียงราย ดอยจระเข้กลายเป็นทะเลเพลิง รองแม่ทัพภาค 3 สั่งจับตัวให้ได้พร้อมระดมสรรพกำลังเข้าสกัด ด้านสถานการณ์พายุฤดูร้อนก็ยังน่าห่วง
    ท่ามกลางปัญหาฝุ่นควันก่อมลพิษในภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงราย เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เกิดไฟป่าบนดอยจระเข้ ซึ่งเป็นขุนเขารอยต่อระหว่าง อ.เมืองเชียงราย กับ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ทำให้ภูเขาทั้งลูกแดงฉานไปด้วยแสงเพลิง ขณะที่บริเวณเชิงเขาเขต อ.แม่จัน เป็นที่ตั้งของชุมชน โรงพยาบาลแม่จัน วัด พื้นที่หมู่บ้านแม่เฟือง หมู่ 5 หมู่บ้านป่าตึง หมู่ 6 บ้านผาตั้ง หมู่ 7 และบ้านป่ากุ่ม หมู่ 8 ต.ป่าตึง ที่เป็นชุมชนที่หนาแน่นปานกลาง ชาวบ้านที่อาศัยในบริเวณดังกล่าวจึงต่างติดตามความคืบหน้าและเฝ้าระวังเหตุร้ายหากไฟลุกลามมาถึง โดยเฉพาะชุมชนที่อาศัยอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกของถนนพหลโยธินใกล้สามแยกแม่จัน-แม่อาย และทางฝั่งทิศใต้ของถนนสายแม่จัน-แม่อาย เขต ต.ป่าตึง ซึ่งอยู่ในเขตเสี่ยงที่ไฟอาจจะลามไปถึงได้
    ด้าน พล.ต.บัญชา ดุริยพันธุ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้เข้าไปดูแลปฏิบัติการดับไฟดังกล่าว พร้อมมอบหมายให้ พล.ต.สัชฌาการ คุณยศยิ่ง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จ.เชียงราย, พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง นำกำลังประสานงานร่วมกับนางวันดี ราชชมภู นายอำเภอแม่จัน เร่งสกัดกั้นไฟป่าไม่ให้ขยายวงลามสู่เขตชุมชน หรือลามเข้าเขตป่า อ.แม่ฟ้าหลวง ที่อยู่ข้างเคียง โดยมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ และอาสาสมัครดับไฟป่าประมาณ 800 คน ตั้งจุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ ณ วัดป่าตึง ต.ป่าตึง เข้าไปดับไฟอย่างเร่งด่วนตั้งแต่ฟ้าสาง เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปดับได้ในช่วงเวลากลางคืนเพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย
    นอกจากนี้ ทหารยังได้จัดเตรียมกำลังพลและเฮลิคอปเตอร์ MI 17 และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 จัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าสนับสนุนตักน้ำอ่างเก็บน้ำถ้ำเสือ หมู่ 8 ต.ป่าตึง ขึ้นโปรยดับไฟทางอากาศ พร้อมกับตั้งศูนย์สื่อสารที่หมู่ 5 ต.ป่าตึง เพื่อประสานงานทุกฝ่าย
    พล.ต.บัญชายังได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะฝ่ายตำรวจและทหารติดตามหาตัวคนเผาป่ามาดำเนินคดี เนื่องจากมีไฟป่าเกิดขึ้นทั่วจังหวัดตามอำเภอต่างๆ พร้อมกันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เชื่อว่าเกิดจากฝีมือคนลักลอบเผา เพราะไม่ได้มีฝนตกจนฟ้าผ่าหรือปัจจัยอื่น ทั้งนี้ ผลกระทบจากการเผารอบทิศทางดังกล่าวทำให้สภาพอากาศแย่ลง โดยมีปริมาณฝุ่นละอองและหมอกควันในอากาศเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อส่วนรวม
    ส่วนสถานการณ์ไฟป่าเขต อ.เมืองเชียงราย พื้นที่ป่าทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านป่าลั้ง หมู่ 4 ต.ห้วยชมภู ถูกไฟไหม้เสียหายประมาณ 36 ไร่ 
    กรมควบคุมมลพิษรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ วันที่ 15 เมษายน 2562 พบว่า ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 50-164 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  ลดลงกว่าวันก่อนหน้าเกือบทุกสถานี ส่วนปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 35-115 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ลดลงกว่าวันก่อนหน้าเกือบทุกสถานีเช่นกัน คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับ คุณภาพอากาศดีมากถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ
    ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง “พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 16 เมษายน 2562)” ระบุว่า ช่วงวันที่ 15-16 เมษายน 2562 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า ผลกระทบตามภาคต่างๆ มีดังนี้ วันที่ 15 เมษายน 2562 ภาคเหนือ : จังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย มุกดาหาร ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี, ภาคกลาง : จังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล, ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    วันที่ 16 เมษายน 2562 ภาคเหนือ : จังหวัดอุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี, ภาคกลาง : จังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี, ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด
    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานว่า จนถึงขณะนี้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 17จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น แพร่ มหาสารคาม พิษณุโลก ปทุมธานี ลำปาง เลย ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ สกลนคร นครพนม เพชรบูรณ์ อุบลราชธานี ลพบุรี นครราชสีมา และ กำแพงเพชร รวม 37 อำเภอ 77 ตำบล 155 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1,555 หลัง ผู้บาดเจ็บ 9 ราย ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"