ปูดอดีตปชป.คบคิดทหาร ส่งนอมินียึดประชาธิปัตย์


เพิ่มเพื่อน    

    ประชาธิปัตย์อบรม "ชูวิทย์" วิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ควรติชมด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่สร้างความเสียหายให้บุคคลอื่นตลอดเวลา ขณะที่ "แจ็ค วัชระ" ปูดอีก อดีตสมาชิกพรรคสมคบคิดทหาร ส่งนอมินีวางแผนยึดพรรค ปชป.
    นายธนา ชีรวินิจ อดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) กล่าวถึงการที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย วิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์อย่างรุนแรงว่า ขณะนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าพรรคประชาธิปัตย์อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงตัวเองเพื่อให้พรรคกลับมาเป็นที่ยอมรับของประชาชนอีกครั้ง โดยพรรคได้เรียนรู้ในบทเรียนและประสบการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งให้ความเคารพในความคิดเห็นของประชาชน ดังนั้นการที่ขณะนี้ภายในพรรคจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายนั้น ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์นั้นมีทุกคนเป็นเจ้าของพรรคอย่างเท่าเทียมกัน ทุกคนจึงมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นได้
    “ขณะที่นายชูวิทย์กล่าววิพากษ์วิจารณ์พาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะด้วยลักษณะที่ไม่เป็นธรรมกับพรรค แต่พรรคก็ยังน้อมรับฟัง เพียงแต่ขอให้นายชูวิทย์ให้เกียรติกับพรรคการเมืองอื่น องค์กรอื่นด้วย ในการติชมนั้น ควรติชมด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่สร้างความเสียหายให้บุคคลอื่นตลอดเวลา” นายธนา กล่าว
    นายธนากล่าวว่า เราเข้าใจ และรับฟัง เพราะนี่คือวิถีทางหนึ่งของประชาธิปไตย ที่พร้อมจะรับฟังความคิดเห็นต่าง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถือว่ามีความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในพรรคการเมืองอื่น แต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์แล้ว สิ่งเหล่านี้ถือว่ามีความเป็นประชาธิปไตยสูง ในการรับฟังความเห็นต่างอย่างเข้าใจ และยอมรับในความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกับตัวเอง แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการของการประชุมกรรมการบริหารของพรรคแล้ว พรรคประชาธิปัตย์จะเคารพในมติของพรรคทุกครั้ง
    ขณะที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์ต่อรองตำแหน่งประธานสภาฯ ให้นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค เพื่อแลกกับการร่วมรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า เป็นการปล่อยข่าวเลอะเทอะที่สุด สื่อมวลชนควรมีจรรยาบรรณในการตรวจสอบนำเสนอข่าวและความจริง ไม่ใช่กลายเป็นเครื่องมือการโฆษณาชวนเชื่อในสังคม 
    นายวัชระกล่าวว่า นายบัญญัติเป็นผู้มีคุณธรรม มีหลักการและจริยธรรมทางการเมืองเป็นที่ประจักษ์ ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคมาโดยตลอด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมไปเป็นประธานสภาฯ เพื่อให้ได้ตำแหน่งจากพรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่านายบัญญัติไม่เคยมีความคิดนี้เลยแม้แต่น้อย นักการเมืองก็ต้องอ่านให้ขาดว่าพรรคไหนเป็นพรรคการเมืองจริงๆ หรือไม่  พรรคไหนเป็นพรรคเฉพาะกิจ และประการสำคัญคือภายใต้สภาวการณ์แบบนี้ ถ้ามีรัฐบาลใหม่ ย่อมปราศจากความมั่นคง ไม่มีเสถียรภาพใดๆ และไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    "การที่มีใครบางคนแต่งตั้งตนเองไปแอบอ้างเจรจาต่างๆ นานานั้น จึงเป็นเพียงลิเกการเมืองเท่านั้น แต่ปัญหาที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังเผชิญอยู่คือ คนที่ลาออกจากพรรคไปแล้วกำลังทุ่มยุทธปัจจัยรอบใหม่ เพื่อใช้นอมินีกลับมายึดพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งหนึ่ง  หลังจากล้มเหลวมาโดยตลอด คนที่ลาออกจากพรรคไปก็สมคบคิดกับนายทหารการเมืองเอาเงินมาใช้ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคครั้งใหม่ เพื่อหวังยึดพรรคให้ไปเป็นฐานอำนาจให้อดีตนายทหารบางคน แต่ผมเชื่อมั่นว่า แผนการยึดพรรคของคนกลุ่มนี้จะล้มเหลว เพราะสมาชิกพรรคที่มีอุดมการณ์ย่อมไม่เห็นด้วย อย่าให้ผลประโยชน์และตำแหน่งที่เขาเสนอล่อลวงอยู่เหนือเหตุผลและความเป็นจริง" นายวัชระกล่าว
    วันเดียวกัน เพจพรรคประชาธิปัตย์โพสต์ข้อความว่า "วันที่ 17 เมษายน 2562 จะเป็นวันที่ประเทศอินโดนีเซียจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา เลือกประธานาธิบดี และการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นภายในวันเดียวกัน โดยประชาชนที่มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งมากกว่า 193 ล้านคน จะต้องลงคะแนนเลือกตั้งบนบัตรลงคะแนนถึง 5 ใบในคราวเดียวกัน มีผู้ลงสมัครแข่งขันรับเลือกตั้งในตำแหน่งต่างๆ มากถึง 245,000 คน เพื่อชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 136 ที่นั่ง สมาชิกผู้แทนราษฎรจำนวน 575 ที่นั่ง สมาชิกสภาจังหวัด 2,207 ที่นั่ง ใน 34 จังหวัด และสมาชิกรัฐบาลท้องถิ่นอีกกว่า 27,610 ที่นั่ง
    ขณะที่เมื่อ 15 ปีที่แล้วในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกของประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2547 อดีตนายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย ได้รับเกียรติจากองค์การ Carter Center ซึ่งเป็นองค์การนอกภาครัฐ มุ่งเน้นการส่งเสริมประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการยอมรับการยอมรับจากนานาชาติ ภายใต้การนำโดยนายจิมมี คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้เข้าร่วมเป็นผู้นำสังเกตการณ์การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกของประเทศอินโดนีเซียในครั้งนั้นด้วย เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรงตามระบอบประชาธิปไตย และนายชวน หลีกภัย ถือเป็นนักการเมืองที่ได้รับการยกย่องเป็น Mr. Clean หรือนักการเมืองมือสะอาด". 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"