วิลฟรีด ซาฮา อดีตดาวรุ่งฝีเท้าจัดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมที่จะปรับเส้นทางชีวิตค้าแข้งของตัวเองอีกรอบ และพร้อมที่จะย้ายจาก คริสตัล พาเลซ ในซัมเมอร์นี้
    ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุด สิ่งที่ ซาฮา พูดออกมา ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณให้ทีมใหญ่หลายๆทีมเตรียมดาหน้าเข้ามาเจรจากันได้ หลังย้ำถึงเป้าหมายที่เขาตั้งไว้คือการได้อยู่ในทีมในระดับท็อปสักทีมในแชมเปี้ยนส์ลีก และร่วมลุ้นถ้วยแชมป์ด้วยในแต่ละซีซั่น
    อดีตปีกทีมปีศาจแดง วัย 26 กล่าว "ผมเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานมากไป ผมไม่ได้เพียงแค่ทะยานอยากจะเล่นให้กับทีมระดับท็อป แต่ยังต้องการมีโอกาสได้คว้าแชมป์ด้วยในระดับสโมสร รวมถึงทีมชาติไอวอรี่ โคสต์"
    "สำหรับผมถ้าจะดีขึ้น คือต้องประสบความสำเร็จในสิ่งที่ผมรู้ว่าผมมีความสามารถที่จะทำได้ ผมต้องตั้งเป้าที่จะได้กลับขึ้นไปเล่นในระดับที่สูงที่สุด ผมตั้งเป้าที่จะได้ชูถ้วยแชมป์บ้าง ผมดีใจมากแล้วที่่ผมมาถึงจุดนี้ได้ในเส้นทางอาชีพ แต่ผมรู้สึกราวกับว่ามันยังมีอะไรอีกเยอะมากที่ผมยังสามารถทำได้"
    "ผมต้องได้รับประสบการณ์ในแชมเปี้ยนส์ลีก ผมต้องการโอกาสอย่างมาก ขอแค่นั้นแล้วผมจะทำที่เหลือเอง"
    พาเลซ พยายามรั้ง ซาฮา นักเตะที่ถือว่าเป็นสตาร์ของทีมตั้งแต่เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว โดยเกลี้ยกล่อมให้เขาตกลงเซ็นสัญญาค่าเหนื่อย 130,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 5 ปี ที่ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ได้รับค่าจ้างสูงสุดของสโมสร
    ผลคือหากจะมีทีมไหน อยากได้เขาไปร่วมทีมก็ต้องจ่ายแพงขึ้นกว่าเดิมแล้ว น่าจะสูงกว่า 50 ล้านปอนด์ ไปไม่น้อย ก่อนที่ พาเลซ จะยอมตกลงธุรกิจด้วย
    ลือกันว่ามีเหตุการณ์หลายอย่างเบื้องหลังที่ เซลเฮิร์สท์ ปาร์ค พอจะบ่งบอกได้ว่า ซํมเมอร์นี้ คือเวลาที่เหมาะสมที่จะปล่อยนักเตะที่ดีที่สุดของทีมออกไป หากสามารถขายได้ด้วยราคาที่เหมาะสม พาเลซ เคยขาย ซาฮา ให้ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ ในปี 2013 ก่อนที่จะดึงตัวเขากลับในอีก 2 ปีต่อมา
    อาร์เซนอล ดูจะชื่นชอบฝีเท้าและการเล่นของ ซาฮา อย่างมาก ขณะที่หลายคนคาดเดาว่ามีโอกาสที่นักเตะจะย้ายกลับไป โอลด์แทรฟฟอร์ด หลังจากที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลค์ชาร์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีม
    ซาฮา เคยสร้างความประทับใจให้กับ โซลค์ชาร์ ตอนที่ร่วมงานกันที่ คาร์ดิฟฟ์ ในปี 2014 ช่วงนั้น นักเตะย้ายไปเล่นแบบยืมตัว และ ยูไนเต็ด กำลังมองว่าตำแหน่งที่ทีมจำเป็นต้องได้ผู้เล่นใหม่มาเสริมทัพมากสุดตอนนี้ คือผู้เล่นในตำแหน่งปีกขวา
     นักเตะที่ ยูไนเต็ด สนใจมากสุดตอนนี้ คือ เจดอน ซานโช แต่ต้นสังกัด คือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทำท่าว่าจะไม่ยอมขาย บวกกับการที่มีหลายทีมใหญ่สนใจอย่างเช่น ปารีส แซงต์ แฌร์แม็ง ก็ยิ่งทำให้เป็นอุปสรรค
    สำหรับ ซาฮา ไม่เพียงแต่ทีมในอังกฤษ ที่สนใจ แต่ยังมีสโมสรใหญ่จากลีกอื่นจับตาอยู่ อย่างเช่น อินเตอร์ มิลาน กับ ดอร์ทมุนด์
    เชลซี ก็เป็นอีกทีม แต่แผนการเสริมทัพจะเดินหน้าต่อได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าการยื่นอุทธรณ์โทษแบนซื้อขายนักเตะ 2 รอบการซื้อขายของทางฟีฟ่า จะสำเร็จหรือไม่ ส่วนท็อตแน่ม อดีตก็เคยสนใจ ซาฮา ด้วยเช่นกัน
    ซาฮา ยังนึกถึงเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ช่วงที่เขาได้ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเหมือนฝันที่เป็นจริงสำหรับเขาในตอนนั้น แต่หลายอย่างไม่เป็นอย่างที่เขาคาดหวังไว้ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เซ็นสัญญาเขาเป็นคนสุดท้ายก่อนสละเก้าอี้ แล้ว เดวิด มอยส์ ที่ได้เข้ามาคุมทีมแทนในตอนนั้น กลับบอกว่า เขาไม่ใช่ผู้เล่นในสไตล์ที่เขาต้องการ ซึ่งทำให้เขารู้สึกว่า บอสคนใหม่ กับ สตาฟ กำลังพยายามดับอนาคตของเขาด้วยทุกวิถีทางอย่างไร้เหตุผล
    "มันเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต โอกาสที่จะได้เล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันล้ำค่ากว่าทุกสิ่งที่ผมจะฝันถึงได้ในตอนนั้น ผมพยายามอย่างหนักมากที่สุดในทุกการซ้อมเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถ"
    เขายังรู้สึกว่าโดนมอยส์จับผิดเล็กๆน้อยๆอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเรื่องของการแต่งตัว หรือแม้แต่รถที่เขาขับ ความผิดหวังยิ่งเพิ่มมากขึ้นจากความล้มเหลวของสโมสรที่จะสยบข่าวลือที่หาว่าเขาหลับนอนกับลูกสาวของมอยส์
    ซาฮา เป็นนักเตะที่ฟอร์มเด่นที่สุดในช่วงพรีซีซั่น 2013-14 ภายใตการคุมทีของ มอยส์ แต่ก็ถูกจับดองอย่างหาสาเหตุไม่ได้ไปจนกระทั่งเดือน ตุลาคม หลังจากลงเป็นตัวจริงใน คอมมูนิตี้ ชิลด์ ซาฮา ถูกปล่อยให้ คาร์ดิฟฟ์ ยืมตัว
    ซาฮา กลับมา ยูไนเต็ด อีกครั้ง ในฤดูกาลถัดมา ที่ หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามาคุมทีม ตอนนั้นความรู้สึกเหมือนกับกลับมาทดสอบฝีเท้ากับทีมของตัวเอง เขาจำได้ว่า กุนซือชาวดัตช์ กับ ไรอัน กิ๊กส์ โค้ชผู้ช่วย บอกว่าพวกเขาจะตัดสินอนาคตของเขาจากผลที่ออกมาจากการซ้อมหนึ่งเซสชั่น เวย์น รูนี่ย์ เดินทางพูดกับผมว่า ผมซ้อมดีมาก แต่ตอนกลับเข้าไปข้างใน นั่งประชุมกับพวกเขา พวกเขาพูดแค่ว่า "เราไม่คิดว่าคุณดีพอ" ผมตอบไปแค่ว่า "งั้นก็โอเค ผมต้องการย้ายทีมแบบยืมตัว
    "ผมแทบไม่ได้รับโอกาสลงเล่นเลย แต่กลับถูกตราหน้าว่าล้มเหลว ยิ่งทำให้ผมเจ็บใจมาก ผมเห็นคิลิย็อง เอ็มบัปเป้ กับ อูสมาน เดมเบเล่ พวกเขาชอบเลี้ยง ซึ่งผมก็ไม่ได้แตกต่างนัก แต่พวกเขาได้รับแพล็ตฟอร์มให้โชว์ฟอร์มได้เต็มที่ ผมอยากระบายลงทวึตเตอร์ หรือ อินสตาแกรม ทุกวัน แต่ผมทำไม่ได้ มันไม่ใช่มืออาชีพ"
    จากการได้ชมเกมแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อเร็วๆนี้ ก็ยิ่งทำให้ ซาฮา มีความกระหายที่จะกลับไปเล่นฟุตบอลกับทีมในระดับท็อปอีก
    "ผมรู้สึกว่าผมสามารถเล่นในเกมระดับนั้นได้ ผมมีความเชื่อ มีความมั่นใจ ผมควรอยู่ตรงนั้น ผมไม่ได้แค่ต้องการนั่งอยู่บ้านชมเกมการแข่งขัน ผมต้องการต่อสู้ในระดับสูงสุด ที่มีโอกาสที่จะได้สัมผัสถ้วยแชมป์ นั่นคือภาพของตัวเองที่ผมวาดฝันไว้"