คุกอธิการกับพวก ตั้งมหา’ลัยเถื่อน


เพิ่มเพื่อน    


    จำคุกกราวรูด 9 ผู้บริหารมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก เปิดสถาบันอุดมศึกษาเก๊ คนดัง ดาราร่วมตกเป็นเหยื่อรับปริญญาเถื่อน  อธิการฯ เจอ 61 ปี 12 เดือน แต่โดยข้อกฎหมายได้รับโทษคนละ 10 ปี
    เมื่อวันที่ 24 เมษายนนี้ ที่ห้องพิจารณาคดี 813 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีก่อตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก World Peace University (WPU) โดยมิชอบ คดีหมายเลขดำ อ.3414/2560 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสวัสดิ์ บรรเทิงสุข อธิการบดีผู้ก่อตั้ง WPU ที่เชียงใหม่ (ตำแหน่งทางวิชาการศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.) จำเลยที่ 1, นายศุภณัฐ ดอนจันทร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสาขา 2 (WPU 2) และนายทะเบียนมหาวิทยาลัย (ตำแหน่งทางวิชาการศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ ดร.) จำเลยที่ 2, นายเรวัตร์ ชาตรีวิศิษฏ์ นายกสภามหาวิทยาลัย WPU  (ตำแหน่งทางวิชาการ ศาสตราจารย์ ดร.) จำเลยที่ 3, นางวรางคณา เผ่าวงศา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการใน จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ช่วยนายสวัสดิ์ ดูแลเรื่องการเงิน จำเลยที่ 4, นายมาณพ ภาษิตวิไลธรรม กรรมการบริหารมหาวิทยาลัย (ตำแหน่งทางวิชาการศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.) จำเลยที่ 5,  
    นายนาวิน พรมใจสา นายทะเบียนมหาวิทยาลัยคนที่ 2 (ตำแหน่งทางวิชาการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.) จำเลยที่ 6, นายศุภชัย ขจรศิริภักดี อธิการบดี WPU สาขานนทบุรี (ตำแหน่งทางวิชาการ ดร.) จำเลยที่ 7, นายนิยม ป้องคำสิงห์ อธิการบดี WPU สาขาภาคตะวันเฉียงเหนือตอนล่าง และประธานฝ่ายนิติกร WPU จำเลยที่ 8 และนางวัชราพร ป้องคำสิงห์ เป็นผู้ช่วยนายนิยมและดูแลการเงินมหาวิทยาลัยสาขาใน จ.ขอนแก่น จำเลยที่ 9 ในความผิดฐานร่วมกันจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชนโดยไม่ชอบ ตามความผิด พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2526, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 และร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14
    ตามฟ้องของอัยการโจทก์ เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2560 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 3 พ.ย.2555-21 ก.ค.2556 จำเลยทั้ง 9 คนร่วมกันจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ชื่อ "มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก" (อาคารที่ตั้งเลขที่ 19 ถนนเทพฤทธิ์ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี โดยคำแนะนำของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และหลอกลวงโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่า มหาวิทยาลัยสันติภาพโลกดังกล่าวเป็นมหาวิทยาลัยที่ถูกต้อง สามารถจัดการศึกษา การเรียนการสอนโดยบุคลากรที่มีคุณวุฒิ สามารถมอบใบปริญญาระดับต่างๆ และปริญญากิตติมศักดิ์ได้ มีสิทธิเท่าเทียมกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ซึ่งข้อความดังกล่าวยังได้ถูกนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งบิดเบือนว่า มหาวิทยาลัยสันติภาพโลกมีการจดทะเบียนที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ทั้งที่ไม่เป็นความจริง
    การอ้างว่ามหาวิทยาลัยสันติภาพโลกไม่ขึ้นกับ สกอ. มีสิทธิเข้ามหาวิทยาลัยอื่น และเผยแพร่กิจกรรมต่างๆ จนทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความเชื่อถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ก็เป็นการร่วมกันหลอกลวงประชาชนด้วยการทำให้ปรากฏต่อประชาชนทั่วไป หรือบุคคลตั้งแต่ 10 คนในลักษณะการแสดงข้อความอันเป็นเท็จด้วย ซึ่งความจริงแล้วมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกไม่ได้จัดตั้งขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมาย ไม่สามารถมอบปริญญา หรือปริญญากิตติมศักดิ์ได้ เหตุเกิดที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่, อ.เมือง จ.เชียงราย, จ.นนทบุรี, จ.ปทุมธานี, จ.ลำพูน, จ.ขอนแก่น และ กทม.
    จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยระหว่างการพิจารณาคดี จำเลยทั้ง 9 คนได้รับประกันตัว ซึ่งวันนี้ก็เดินทางมาฟังคำพิพากษาทั้งหมด 
    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า โจทก์มีทั้งพยานบุคคลซึ่งเป็นผู้รวบรวมหลักฐานส่งถึง สกอ.ให้ตรวจสอบการดำเนินกิจการของมหาวิทยาลัย, พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), นิติกรชำนาญการ สกอ., ผู้ที่ได้รับปริญญาจากมหาวิทยาลัยจำนวนหนึ่ง รวมทั้งพยานเอกสาร ซึ่งเป็นกำหนดการแจกใบปริญญาและเอกสารทางการเงิน ซึ่งมีน้ำหนักให้รับฟังได้อย่างมั่นคงว่า การดำเนินกิจการของมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก หรือ WPU นั้น กระทำโดยมิชอบไม่มีใบอนุญาต และได้มีการนำข้อความที่บิดเบือนอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้มีบุคคลนับร้อยคน มีทั้งคนดังและนักแสดงเข้าร่วมในการรับใบปริญญาจากมหาวิทยาลัย ทั้งที่ไม่มีการเรียนการสอน หรือการเรียนแบบอิสระตามแนวคิดที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นอธิการบดีผู้ก่อตั้งเคยอ้างไว้ ซึ่งการเข้ารับปริญญา ทางมหาวิทยาลัยให้ผู้รับชำระเงินอ้างเป็นค่าใช้จ่ายราว 5,000-12,000 บาท ซึ่งมหาวิทยาลัยจะทำเป็นกระเบื้องเซรามิกประทับตรา (โลโก้) มหาวิทยาลัย และชื่ออธิการบดีจำเลยที่ 1 ดังนั้นการกระทำของจำเลยทั้ง 9 จึงเป็นความผิดตามฟ้อง 
    พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นอธิการบดีผู้ก่อตั้ง และจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นผู้ช่วยจำเลยที่ 1 ดูแลเรื่องการเงิน กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชน รวม 60 กระทง ให้จำคุกกระทงละ 1 ปี และยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (1) โดยจำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชนฯ มาตรา 10, 104, 121 ด้วย รวมจำคุกจำเลยที่ 1 ทั้งสิ้น 61 ปี 12 เดือน ส่วนจำเลยที่ 4 จำคุก 61 ปี
    ส่วนจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายทะเบียนมหาวิทยาลัย และจำเลยที่ 3 เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งได้กระทำผิด 27 กระทง, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดตาม พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชนฯ รวมจำคุกทั้งสิ้น 28 ปี 12 เดือน
    จำเลยที่ 5 เป็นนายทะเบียน จำเลยที่ 6 เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย (คนที่ 2) กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชน 33 กระทง และความผิดตาม พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชนฯ รวมจำคุก 33 ปี 12 เดือน
    จำเลยที่ 7 เป็นอธิการบดี WPU สาขานนทบุรี กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชน 10 กระทง จำคุกรวม 10 ปี
    สำหรับจำเลยที่ 8 เป็นอธิการบดี WPU สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ส่วนจำเลยที่ 9 เป็นผู้ช่วยจำเลยที่ 8 และดูแลด้านการเงินที่ จ.ขอนแก่น กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชน 17 กระทง รวมจำคุก 17 ปี
    เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดของจำเลยทั้งหมดแล้ว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (1) ให้จำคุกได้สูงสุดไม่เกิน 10 ปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 3 ปี จึงให้จำคุกจำเลยทั้ง 9 ได้คนละ 10 ปี และให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกับผู้ได้รับใบปริญญา ตามจำนวนของแต่ละคนด้วย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลมีคำพิพากษาแล้ว ทนายความของนายสวัสดิ์ จำเลยที่ 1 เปิดเผยว่า เตรียมหลักทรัพย์ซึ่งเป็นโฉนดที่ดินราคาประเมินกว่า 4 ล้านบาท เพื่อจะยื่นขอปล่อยชั่วคราวในชั้นอุทธรณ์สู้คดี ซึ่งหลักทรัพย์เดิมที่ได้ยื่นไว้ชั้นพิจารณามีมูลค่า 300,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2, 4, 6, 7 ทนายกำลังรวบรวมหลักทรัพย์ให้ได้คนละ 1 ล้านบาท เพื่อจะยื่นขอปล่อยชั่วคราวเช่นกัน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทั่งเวลา 17.00 น. ศาลได้มีคำสั่งให้ปล่อยชั่วคราว จำเลยที่ 1-6 โดยศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง 6 คน ระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกันคนละ 1 ล้านบาท ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขอะไร
    ส่วนจำเลยที่ 7-9 ปรากฏว่ายังไม่สามารถที่จะหาหลักทรัพย์จำนวน 1 ล้านบาท มายื่นเพื่อขอประกันตัวได้ทัน ดังนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงควบคุมตัวจำเลยที่ 7-8 ไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนจำเลยที่ 9 ไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"