อดีตผู้ใหญ่บ้านคนร้ายฆ่าเมียตัวเอง ทนหิวไม่ไหว เดินลงจากเขาให้ตำรวจรวบตัว เผยเหตุทะเลาะกันเรื่องเงินที่ได้จากการเลี้ยงหมู ก่อนเกิดเหตุดื่มเบียร์ย้อมใจกระทั่งมีปากเสียงกันอีก จ่อยิงต่อหน้าลูก
เวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 24 เมษายนนี้ นายประกอบ บัวทองเรือง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ที่ 5 ต.เขาปู่ อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.เขาปู่ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ.150/2562 ลงวันที่ 23 เมษายน 2562 ได้เดินเท้าในสภาพอิดโรยลงมาจากเขาปู่ ก่อนถูก พ.ต.อ.ศักดิ์ สีหมัด ผกก.สภ.ศรีบรรพต พร้อมพวก เข้าจับกุมตัวไว้ได้ นำไปสอบสวนยัง สภ.ศรีบรรพต
นายประกอบใช้อาวุธปืนขนาด .38 จ่อยิงนางมัณฑนา สงแสง อายุ 49 ปี ภรรยา และเป็นอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา บริเวณคอกหมูภายในบ้านพัก
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ส่วนอาวุธปืนขนาด .38 ที่ใช้ยิงภรรยา ได้โยนทิ้งขณะหลบหนีขึ้นไปบนเทือกเขาบรรทัด เนื่องจากเกรงว่าตนเองจะเกิดความเครียดและอาจใช้อาวุธปืนยิงฆ่าตัวตาย จึงโยนทิ้งไป ส่วนที่เดินลงเขามา เพราะทนหิวไม่ไหว ทั้งนี้ ตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ต่อมา ตำรวจได้นำตัวนายประกอบไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณคอกหมู หมู่ที่ 5 ต.เขาปู่ อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ และเส้นทางหลบหนี
พ.ต.อ.โชตวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง เปิดเผยว่า ประเด็นการสังหารมาจากความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวภายในครอบครัว จากปัญหาการเงินที่ได้มาจากการเลี้ยงหมู ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกันเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุนายประกอบได้ดื่มเบียร์ซึ่งอาจจะทำให้ขาดสติ และเมื่อเกิดการโต้เถียงกับภรรยา จึงใช้อาวุธปืนจ่อยิงภรรยาต่อหน้าลูกชายวัย 15 ปี จนเสียชีวิต
อุดรธานี ที่กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กับพวก แถลงข่าวจับกุมนายกิตติ หนูกลาง อายุ 42 ปี ชาวบ้าน หมู่ 12 บ้านใหม่ศรีวิไล ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 79/2562 ลงวันที่ 14 เมษายน 2562 ในคดีทำร้ายร่างกายภรรยาเสียชีวิต สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุ น.ส.กรวิภา ดีน้อย อายุ 34 ปี ถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส โดยมีชาย 2 คนนำส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี จากนั้นได้หลบหนีไป ส่วน น.ส.กรวิภาเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ตำรวจได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่านายกิตติ กับนายเอกชัย หนูกลาง อายุ 32 ปี น้องชาย เป็นผู้นำผู้ตายส่งโรงพยาบาล จึงเชิญตัวนายเอกชัยมาสอบสวน ทราบว่านายกิตติเป็นผู้ทำร้ายผู้ตายจนหมดสติ แล้วโทรศัพท์เรียกตนให้ขับรถมารับผู้ตายส่ง รพ.
ต่อมาตำรวจได้ข้อมูลว่านายกิตติขอให้เพื่อนติดต่อเช่าเหมารถตู้เพื่อนพาหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจจึงซ้อนแผนขับรถตู้ไปรับนายกิตติตามที่นัดหมายที่ถนนหลังหมู่บ้านโคกกุงและจับกุมนายกิตติไว้ได้ สอบสวนให้การว่าทางกับภรรยาเก่า ซึ่งมีลูกด้วยกัน 2 คน และมาอยู่กินกับ น.ส.กรวิภาได้ราว 7 ปี ที่ผ่านมาทะเลาะกันบ่อยครั้ง เพราะตนเองเป็นคนโมโหร้าย จนเมียหนีออกจากบ้าน ตนก็ตามไปง้อ ล่าสุดจับได้ว่า น.สงกรวิภาขโมยเงิน 5 พันบาท จึงทะเลาะกันอีก แล้ว น.ส.กรวิภาด่าถึงบุพการี ทำให้ลืมตัวทำร้าย น.ส.กรวิภาจนเสียชีวิต.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |