มรณานุสติ 'ฟิวเจอริสตา'


เพิ่มเพื่อน    

            "ธนาธร" นี่ ถ้าเป็นหุ้น.....

                ก็เป็น "หุ้นปั่น"

                จะปั่นเอง, ร่วมปั่น หรือมี "ขาใหญ่" ปั่น นั่นก็ช่างเหอะ

                แต่อยากบอกว่า ..........

                มันเวอร์ จนราคาธนาธร "เกินมูลค่าจริง" มากไปแล้ว!        

                ถูกปั่นให้เวอร์ หรือเต็มใจเวอร์เอง

                ธนาธรรู้

                หรือไม่รู้ แต่เหิม ด้วยมั่นใจกระแส "ฟิวเจอริสตา"

                "อุดมการณ์กาก".......

                ที่ลอกจากยุโรปยุคร้อยกว่าปีมาเป็นสัญลักษณ์พรรคใช้หาเสียงเลือกตั้งให้ "คนรุ่นใหม่" เห่อเป็น "ความคิดใหม่"

                นั่นเรื่องของธนาธร เรื่องของการสร้างจุดขายเจาะกลุ่มเป้าหมายพวก "รากอากาศ" ทางการเมือง

                สู่การเปลี่ยนเมือง....

                เปลี่ยนวัฒนธรรม ล้างขนบธรรมเนียมประเพณีสังคมชาติ อย่างที่ธนาธรจุดไฟในความคิดผู้คนไว้ตอนหาเสียง

                ธนาธร มีธาตุดีบางอย่างในตัว

                เช่น ไวในวิทยาการโลก แทนจะเป็น "ทาสไอที" อย่างคนมากมายในยุคโลกาภิวัตน์

                แต่ธนาธรเป็น "นายไอที" และใช้ไอทีเป็นทาสได้อย่างชาญฉลาด

                คนอื่นติดป้ายหาเสียงตามถนน

                แต่ธนาธรใช้การสื่อสาร ๒ ทางที่เรียก "โซเชียลมีเดีย" ฝังป้าย-ฝังพรรค เข้าไปในจอมือถือ ๑๒๐  ล้านเครื่อง

                ไม่มีใคร ที่ไม่เห็น-ไม่อ่าน "ข่าวสารธนาธร" ผ่านมือถือ

                ยิ่งได้อดีตข้าราชการใหญ่ "เลิศทางไอที" ผู้วางระบบข้อมูลรัฐทั้งหมด ไปเป็นทีม

                เจาะหา "ข้อมูลรัฐ" ในระบบไอทีได้พรุน ไปใช้ทางกลยุทธ์หาเสียง หาฐานคะแนน

                นั่นแสดงว่า ธนาธรบริหาร รู้จักเลือกใช้คน "ถูกคน-ถูกงาน"

                หาเสียง ทุกพรรค "ขายไอเดีย" ผ่านการหาเสียง

                แต่อนาคตใหม่ของธนาธร "ขายของ" ผ่านการหาเสียง ในขณะที่ทุกพรรคต้องจ่าย..จ่าย..จ่าย

                พรรคธนาธร รับ..รับ..รับ..จากการผลิตสินค้า "แฟชั่นอนาคตใหม่" ขายพวก "ฟ้าของพ่อ"

                นี่แหละ หัวการค้าในการเมืองที่ผมว่า "ดี" ของธนาธร แต่ดีชนิดนี้ กำลังเป็น "ดีซ่าน"

                จึงอยากเตือนก่อน "ตับโต-ตาเหลือง" ในระยะสุดท้าย

                ธนาธรอย่าไปอินกับฟีเวอร์ "คนรุ่นใหม่" ที่สร้างเองแล้วหลงเพ้อเองให้มากนัก

                และอย่าทึกทัก "คน ๖ ล้านเลือกผม" เป็นศรัทธาธนาธรและพรรคอนาคตใหม่

                ก็รู้อยู่แก่ใจมิใช่หรือ ๖ ล้านเสียง นั้น......

                "ส่วนใหญ่" เป็นเสียง "ปัดเศษ" จากระบอบทักษิณ ตามยุทธศาสตร์ "แตกพรรค" ที่กะกวาดคะแนนแลกปาร์ตี้ลิสต์ จน "พรรคแตก" นั่นตะหาก

                และพรรคอนาคตใหม่นั่นน่ะ แยกหัว-แยกธาตุ ก็จะเห็นชัด คนระบอบทักษิณ กระจายฝังตัวเป็น "ตะกั่วตีนแห" ทั้งนั้น

                "คนรุ่นใหม่" มีแค่ใช้โรยหน้าฟิวเจอริสตา หลอกตาเท่ๆ กันไปแค่นั้น

                ธนาธรฟีเวอร์ ก็แค่ "ผีพุ่งไต้"

                กรีดฟ้าสว่างจ้า แสบตา-แสบหู คนทั้งเมืองแหงนหน้ามอง บางคนพนมก้มกราบสุดศรัทธา

                แต่ว่า "แวบเดียว" แหละ หายวาบ.......

                คนรู้ ก็เข้าใจ ธรรมชาติ "สะเก็ดดาว" กับคนไม่รู้ ก็จะทึกทัก ว่าคนมีบุญจุติลงมาเกิด

                ถามว่า แล้วไปเกิดที่ไหน กับแว็บเดียวที่หายไปท่ามกลางเสียงวิจารณ์และการชี้มองของผู้คน?

                "ไปเข้าท้องหมา".....

                โบราณท่านว่าอย่างนี้!

                ฉะนั้น อย่าไปอินกับบทพระเอกฟิวเจอริสตาจนสุดกู่...ธนาธร เอาแค่ฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิต ก็พอ

                กรณี "หุ้นสื่อ" เรื่องส่วนตัวกะแม่

                พระเอกฟิวเจอร์ปาร์ค ก็อย่าปั่นกระแสให้เป็นเรื่องประชาธิปไตยของคนรุ่นใหม่จนใบ้บ้า

                มันไม่มีอะไรมากเลย........

                อย่างที่ธนาธร เพื่อนธนาธร โฆษกพรรคธนาธร พูดนั่นแหละ คือเรื่องไม่เป็นเรื่อง

                เมื่อมั่นใจ "ไม่ผิด" โอนเสร็จตั้งแต่ ๘ มกรา หลักฐานพร้อม

                ๒๙-๓๐ เม.ย.เห็นว่านัดเข้าเคลียร์ กกต.แล้ว ก็ไปเคลียร์ซะให้จบๆ ก็สิ้นเรื่อง

                กกต.สดชื่น

                ก็จบ.......

                ๙ พ.ค.ธนาธรก็เตรียมตัวรับทราบความเป็น ส.ส.ชนิดทางการ ตาดูดาว เท้าก้าวเดินเข้าสภา มุ่งหน้าเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

                สานต่ออภิวัฒน์ประชาธิปไตย ๒๔๗๕ ตามที่โฆษณาหว่านเชื้อไว้ โอกาสมาแล้ว เอาให้เต็มภิกขา

                แต่ถ้า กกต.ไม่สดชื่น กับข้อมูลที่ธนาธรไปเคลียร์ ก็ไม่มีอะไรมาก

                ตายังดูดาวเหมือนเดิม.........

                แต่เท้าคงต้องเดินกลับไปที่ชอบๆ เก้าอี้นายกฯ ก็คงต้องเปลี่ยนเป็นเก้าอี้นายกฯ อุตสาหกรรม

                อย่างเคยลงประวัติผิดๆ ไว้!

                ก็แค่นี้ ไม่มีอะไร ที่ต้องเที่ยวปลุกระดมว่าถูกกลั่นแกล้ง กฎหมายไม่เป็นธรรม

                อยากบอกว่า กฎหมายที่เป็น "กติกาเลือกตั้ง" น่ะ

                มีมาก่อนธนาธรเกิดในระบบการเมือง ทุกคน ไม่เพียงธนาธร ไม่เพียงพรรคอนาคตใหม่

                ทุกคน-ทุกพรรค "หมื่นกว่าคน" ในร่วมร้อยพรรค ที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง

                ใช้กฎหมายฉบับเดียวกัน มาตราเดียวกัน วรรคเดียวกัน ข้อความเดียวกัน

                ไม่เห็นมีใครเขาว่า "กฎหมายไม่เป็นธรรม"!?

                ถ้ารับไม่ได้แต่แรก ก็อย่าลง อย่าตั้งพรรค ก็หมดเรื่อง

                มีแต่พวกคุณนี่แหละ.......

                อะไรที่ได้ประโยชน์ก็เป็นธรรม พอจะเสีย ก็ว่าไม่เป็นธรรม

                นี่เห็นพวกไอ้แห้วหน้าจอปลุกระดม "ลงถนน" กันแล้วมิใช่หรือ?

                เอาซี...เอาเลย

                ลองดู นึกว่าจะทำได้อย่างปี ๕๒-๕๓ ทำแล้วได้เป็นรัฐบาล ก็ชวนกันลงมาเร็วๆ

                จะได้รู้ อะไรคือถนน อะไรคือนรกบนถนน!?

                แล้วช่วยบอกเลขาฯ พรรคคุณด้วย ปิยบุตรน่ะ

                เป็นอาจารย์สอนกฎหมาย..........

                กลับพูดจาให้คนไม่ยอมรับกฎหมายอันเป็นกติกาสังคมบ้านเมือง

                และสร้างทัศนคติปฏิปักษ์ต่อกฎหมายแทบทุกฉบับ ที่ไม่เป็นคุณกับตัวเอง

                เป็นตัวอย่างไม่ดีเลย

                ถ้าเป็นคนอื่น ที่ไม่ใช่อาจารย์ปิยบุตร ต้องเรียกแบบนี้ว่า

                "คนระยำ"!

                ไม่ควรมีอยู่ในสังคมประเทศ และในสถาบันการศึกษาฐานะครูบาอาจารย์

                กรณี "หุ้นสื่อ" ธนาธร ไม่ต้องกลัวเรื่อง "ใบส้ม" นั่นหรอก สมมุติว่าผิดจริง

                กกต.ก็ถอนการสมัครรับเลือกตั้งธนาธรออกไปเท่านั้นเพราะเข้าลักษณะต้องห้าม จึงไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง              

                ไม่ยาก ไม่วุ่นวาย กกต.ท่านรู้อยู่แล้วว่าจะทำอย่างไร คนข้างนอกเท่านั้น วุ่นวายไปเอง

                ก่อน ๙ พ.ค.ทุกอย่างจบ กรณีธนาธร

                ต้องเข้าใจนะ..........

                ธนาธร เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ คือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ใช่ ส.ส.เขต อย่างกรณี "คุณภูเบศวร์" ที่สกลนคร

                ฉะนั้น สมมุติ ธนาธรผิด กกต.จะทำอย่างไร?

                ก็ต้องไปดู พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ปี ๒๕๖๑ ซึ่งบอกกรณี "ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ" ที่ขาดคุณสมบัติไว้แล้ว

                เมื่อวาน (๒๖ เม.ย.) เห็นคุณ "สมชัย ศรีสุทธิยากร" อดีต กกต.และอดีต ส.ส.สอบตก โพสต์เฟซ ตอนหนึ่งว่า

                ประเด็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครในส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น

                ให้ดูที่ มาตรา ๖๐ และ มาตรา ๖๑ ของ พ.ร.ป.ส.ส.โดยสรุปให้ฟังง่ายคือ

                มาตรา ๖๐ กล่าวว่า หาก กกต.รับสมัครผู้สมัครบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใดแล้ว ก็ให้ประกาศรายชื่อผู้สมัครภายใน ๗ วัน นับแต่วันรับสมัคร

                และหากจะมีใครทักท้วง ให้ยื่นภายใน ๗ วัน นับจากวันที่ประกาศรายชื่อ

                (ประกาศรายชื่อ ๑๕ กุมภาพันธ์ ดังนั้นร้องได้ถึง ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒)

                มาตรา ๖๑ กล่าวว่า หากก่อนวันเลือกตั้ง หาก กกต.เห็นว่าผู้สมัครรายใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อให้ถอนรายชื่อจากผู้สมัคร (เลือกตั้ง ๒๔ มีนาคม ดังนั้น ก่อนวันเลือกตั้งวันสุดท้ายคือ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๒)

                คำแถลงของรองเลขาธิการ กกต. เมื่อ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๒ แจ้งว่ามีมติ กกต.ให้แจ้งข้อกล่าวหานายธนาธร เนื่องจากมี "ผู้ร้อง" ว่า นายธนาธรเป็นผู้มีลักษณะต้องห้าม

                ถ้าไปค้นดูผู้ร้องคือ นายศรีสุวรรณ จรรยา มีการร้องธนาธร ๒ ครั้ง

                ครั้งแรก ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เรื่องนายธนาธร ลงประวัติตัวเองเป็นเท็จ เรื่องตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

                ครั้งที่สอง ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๒ เรื่องการถือหุ้นสื่อ

                การยื่นทั้งสองครั้ง จึงเป็นการยื่นคัดค้านคุณสมบัติตามมาตรา ๖๐ ซึ่งต้องดำเนินการภายในวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

                การยื่นที่เกินกำหนดเวลา เป็นเรื่องที่ กกต.ไม่อาจรับคำร้องมาพิจารณาได้....ฯลฯ....

                แล้วลงท้ายว่า....

                "ระวัง จะโดนข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบครับ"

                ผมว่านะ เคราะห์ดีของประเทศแล้ว ที่คุณสมชัยไม่ได้เป็น กกต.

                ถ้าเป็น แล้วพิจารณาเรื่องนี้ คุณสมชัยนั่นแหละ จะถูกข้อหา "ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ"

                กรณีนี้ คุณใช้กฎหมายแค่ ๒ มาตรา คือมาตรา ๖๐ และ ๖๑ มาสรุป ซึ่งมันไม่ใช่

                เพราะต้องใช้มาตรา ๕๑, ๕๘, ๕๙ มาบังคับด้วย ไม่ใช่ใช้แค่มาตรา ๖๐ และ ๖๑ อย่างที่สรุปอ้างครึ่งๆ กลางๆ

                หลังเลือกตั้งแล้ว เมื่อพบ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ขาดคุณสมบัติ รับพิจารณาได้ คุณสมชัยกลับไปอ่านกฎหมายตามมาตราที่ผมบอกให้ครบอีกที

                วินิจฉัยให้ "ถอนการสมัครรับเลือกตั้ง" ตามมาตราเหล่านั้นได้สบายมาก

                ถอนแล้วขยับอันดับปาร์ตี้ลิสต์ไล่ขึ้นมาตามอันดับ แทนคนที่ถอนออกไป ก็เท่านั้น

                ไม่พอใจก็ไปอุทธรณ์ศาลฎีกาเอา กฎหมายให้สิทธิ์ชัดเจน

                คุณสมชัยไม่ชัดเจนเอง ก็เที่ยวโพสต์สับสน

                ป.ล. ผมขอปลีกวิเวก ๒ วัน คุณ "ผักกาดหอม" ที่ท่านถามหา มาแน่ครับ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"