ตั้งนายกฯ24พ.ค. รับรองส.ส.7-8พฤษภา‘กกต.’ท้า‘ธนาธร’ฟ้อง!


เพิ่มเพื่อน    

 กกต.ไม่หวั่น "พ่อของฟ้า" ขู่ฟ้องยกข้อกฎหมายใช้คำว่า "มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า" กกต.ก็สามารถพิจารณาได้ จ่อประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส 7-8 พ.ค.นี้ ที่เล็งใช้สูตร กรธ.จัดสรร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ให้ 27 พรรค ตัดสิทธิ์ผู้สมัครประชาชาติ 6 คน “ชำนาญ” ยัน อนค.สู้ด้วยกฎหมาย ไม่ปลุกระดม ปชช.ลงถนน ลั่นฟ้องคืน “ศรีสุวรรณ” เร็วที่สุด "พท." ยื่น กกต.ยุบ พปชร. เหตุ ครม.ประยุทธ์อนุมัติเงินให้ อสม.ก่อนเลือกตั้ง 2 วัน "ลุงตู่" ลั่นผลงานใน 5 ปีจะสืบสานต่อในรัฐบาลใหม่ จ่อส่งไม้รัฐบาลเลือกตั้งเดือน มิ.ย. เปิดไทม์ไลน์เลือกนายกฯ 24 พ.ค.เป็นต้นไป 

     ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วันที่ 1 พฤษภาคม นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. กล่าวกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ขู่ฟ้อง ม.157 กับ กกต. หลังเข้าชี้แจ้งข้อกล่าวหากรณีถือหุ้นครองสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด เข้าข่ายขาดคุณสมบัติในการสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ต่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. ว่าก็เป็นสิทธิของประชาชน ถ้า กกต.ทำไม่ถูกก็ฟ้องได้ ส่วนที่นายธนาธรระบุว่าการดำเนินการของ กกต.มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง หรือมีการแทรกแซงทางการเมืองนั้น เรื่องดังกล่าวมีผู้ร้องมาตั้งแต่เดือน มี.ค. ขณะนี้ผ่านไปเดือนกว่าแล้ว ถ้าคิดว่าเร่งรัดก็ลองพิจารณาดูว่าจริงหรือไม่ และที่ว่าถูกแทรกแซงทางการเมืองหรือกระบวนการไต่สวนของ กกต.ถูกแทรกแซง หลักฐานคืออะไร
    เมื่อถามว่า นายธนาธรระบุว่าการไต่สวนของ กกต.ไม่เหมาะกับยุคสมัย นายแสวงกล่าวว่า กกต.ต้องทำตามกฎหมาย สิ่งที่ กกต.จะดำเนินการพิจารณาได้มีอยู่ 3 กรณี 1.มีเหตุอันควรสงสัย 2.ความปรากฏ 3.มีผู้ร้อง ซึ่งกฎหมายเลือกตั้ง มุ่งคุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐแต่ยังคงให้สิทธิกับผู้ถูกร้องในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา กฎหมายจึงใช้คำว่ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า กกต.ก็สามารถพิจารณาได้แล้ว แต่ไม่เหมือนกับกฎหมายอาญาที่ต้องปราศจากข้อสงสัย จึงจะสามารถเอาผิดได้ เนื่องจากเป็นเรื่องกระทบสิทธิเสรีภาพ ส่วนที่ระบุว่า กก.สืบสวนฯ ไม่สามารถบอกได้ว่านายธนาธรผิดในข้อใดนั้น ความผิดอยู่ที่ข้อกล่าวหาซึ่ง กกต.ได้มีการแจ้งไปแล้วว่าอาจจะเข้าข่ายเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. 
    "แต่ผู้ที่วินิจฉัยว่าผิดอะไรอยู่ที่ กกต. ในชั้นของพนักงานสืบสวนจะเป็นผู้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ แล้วนำเสนอต่อ กกต.พิจารณา ส่วนคดีดังกล่าวกกต.จะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งหรือไม่ขึ้นอยู่กับ กก.สืบสวนฯ"
    เมื่อถามอีกว่า กรณีนายธนาธรเป็นหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค หากเซ็นรับรองส่งผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติลงสมัครจะถือว่าเข้าข่ายทำให้ต้องยุบพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่ได้ดูไปถึงตรงนั้น และเป็นเรื่องของข้อกฎหมายที่สามารถมีความเห็นไปได้หลายทาง อยู่ที่ กกต.จะพิจารณาว่าหัวหน้าพรรคซึ่งเป็นคนเซ็นรับรองเข้าข่ายเป็นกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) รู้เห็นสนับสนุนหรือไม่ รวมทั้งต้องไปดูกระบวนการของพรรคการเมืองก่อน ที่จะให้หัวหน้าพรรคเซ็นรับรองส่งผู้สมัคร และหากผู้สมัครรู้ตัวอยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติในการลงสมัคร แต่ยังมาสมัคร เขาก็ต้องรับผิดชอบตามม.138 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
    ด้านนายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า  พรรคอนาคตใหม่ยืนยันจะต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งความจริงแล้วคดีที่นายธนาธรเผชิญอยู่ในเวลานี้ไม่ใช่คดีตามกฎหมาย แต่เป็นคดีทางการเมือง คือมีเจตนาจะทำทุกวิถีทางเพื่อกันไม่ให้นายธนาธรเข้าสภา ส่วนที่นายธนาธรอาจจะฟ้องร้องว่าที่ ส.ส.ของพรรคการเมืองอื่นที่มีคดีหุ้นสื่อเช่นกันนั้น ไม่ได้หมายความว่าพรรค อนค.ต้องการประกาศตัวเป็นศัตรูกับพรรคอื่น แต่การที่พรรคถูกกระทำในกรณีนี้ เราต้องให้ข้อมูลหรือร้องเรียน หรือสงวนสิทธิ์ใช้อำนาจตามกฎหมาย เพื่อจะได้เห็นว่าทุกพรรคการเมืองได้รับการปฏิบัติในมาตรฐานเดียวกันหรือไม่ 
ไม่ปลุก ปชช.ลงถนน
    "เราคงไม่ฟ้องร้องพรรคอื่น เพียงแต่ติดตามข้อมูล เพราะขณะนี้ผู้ที่ร้องเรียนกรณีถือหุ้นสื่อนั้น ไม่ได้มีเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ แต่มีพรรคการเมืองอื่นด้วย สำหรับกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ถือว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายร้องความเท็จหรือฟ้องเท็จ ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา โดยมีว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่เป็นผู้เสียหายพรรค จึงยืนยันสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินคดีอาญากับนายศรีสุวรรณโดยเร็วที่สุด"
    เมื่อถามว่า การที่นายธนาธรระบุว่าเส้นของความอดทนกำลังใกล้จะหมด ทำให้บางคนมองว่ากรณีนี้อาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวบนท้องถนนของประชาชน นายชำนาญกล่าวว่า การเดินขบวนเป็นหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย เราไม่สามารถห้ามผู้ที่รักหรือสนับสนุนพรรคได้ แต่แน่นอนว่าเราจะไม่ใช่ฝ่ายนำ เพราะจากประสบการณ์ 10-20 ปีที่ผ่านมา เมื่อประชาชนลงถนน ก็ล้วนแล้วแต่ตายฟรี เราไม่อยากเห็นการสูญเสียหรือบาดเจ็บอีกแล้ว จึงขอเตือนไปยังผู้อำนาจในปัจจุบันว่า สิ่งที่ทำอยู่อาจก่อให้เกิดความสูญเสียได้
    เมื่อถามย้ำว่า ทางพรรคจะไม่ชวนให้คนลงไปเดินบนท้องถนนใช่หรือไม่ นายชำนาญบอกว่า “ไม่ชวนแน่นอน เรายืนยันจะใช้รัฐสภาเป็นหลักในการแก้ไขปัญหาทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นเราจะเข้ามาทำไม”
    นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีต กกต. โพสต์เฟซบุ๊กว่า หากจะเล่นธนาธร ต้องไปให้ถูกช่องและมองเห็นผลที่จะตามมา หาก กกต.เลือกที่จะวินิจฉัยกรณีของธนาธรเป็นกรณีเริ่มต้น ก็จะเป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาคดีถือหุ้นสื่อ อีกนับร้อยคดีที่ตามมาว่าถือเป็นการกระทำที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ที่นอกจากจะเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งแล้ว ยังต้องดำเนินการต่อทั้งคดีอาญาและการดำเนินการต่อหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคไปจนถึงการยุบพรรคด้วยเมื่อนั้น จักรวาลมาร์เวลคงสูญนักการเมืองไทยไปครึ่งจักรวาลตามคำทำนาย
    ขณะที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตนมายื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อตรวจสอบการเป็นเจ้าของหรือผู้ถือครองหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนของนายชาญวิทย์ วิภูศิริ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 15 กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ?เป็นกรรมการบริษัท ภัทร เฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการให้บริการสื่อสารมวลชน ได้แก่ หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์และประชาสัมพันธ์ และขอให้ตรวจสอบ พล.ต.ต.ลัทธสัญญา เพียรสมภาร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ?ลำดับ 69 เป็นกรรมการบริษัท มอร์รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม การสื่อสารทุกชนิด และเป็นกรรมการบริษัทดีเอ็นเอ 2002 จำกัด ประกอบกิจการให้บริการรับชมภาพ และรับฟังเสียงจากสัญญาณระบบดิจิทัล และนายนพชัย ศรีสุวนันท์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ลำดับที่ 85 เป็นกรรมการบริษัท เจ-บิ๊คส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ประกอบกิจการถ่ายทำภาพยนตร์ วิดีโอเทป จัดให้มีการแสดง จัดสร้างภาพยนตร์ ละคร ดนตรี มหรสพ หรือการแสดงอื่นๆ 
    โดยทั้งหมดนี้ขอให้เพิกถอนการประกาศรับรองเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.และขอให้ใช้อำนาจตาม พ.ร.ป.ส.ส. มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังสมัคร ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่น -2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 20 ปี ทั้งนี้ ขอให้ กกต.ตรวจสอบกรณีดังกล่าวให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
    นอกจากนี้ยังขอให้ กกต.ตรวจสอบและวินิจฉัยเอาผิดกรณี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการ พปชร.ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส.พรรค พปชร. ที่ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี โดยสัญญาว่าจะเพิ่มเงินบัตรคนจน เข้าข่ายเสนอให้สัญญาว่าจะให้อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 73 (1) และหรือ (2) ประกอบมาตรา 158 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 หรือไม่ด้วย
    นายศรีสุวรรณกล่าวถึงกรณีที่นายธนาธรขู่จะฟ้องกลับว่า เป็นสิทธิ์ของนายธนาธรที่จะฟ้องตนก็ยินดี และตนจะฟ้องกลับเช่นเดียวกันในฐานะที่นายธนาธรเอาความเท็จมาชี้แจง การยื่นร้องเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญของประชาชน ขณะนี้กำลังดูเอกสารที่นายธนาธรจะโพสต์ออกมาเป็นอย่างไร ถ้ายังไม่พอใจก็จะแสวงหาข้อมูลมายื่นเพิ่มเติมต่อ กกต. ทั้งนี้ ตนไม่เคยกลัวการพูดจาของนักการเมือง เพราะถือว่าบริสุทธิ์ใจในการทำหน้าที่ ไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชัง ร้องทุกพรรคอยู่แล้วหากมีข้อมูล ถ้านายธนาธรไม่ผิดก็จะได้ประโยชน์ต่อตัวเขาเองก็สามารถไปพูดกับฐานเสียงได้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ก้าวเข้าสู่การเมืองอย่างสง่างาม
    นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. แถลงว่า ที่ประชุม กกต.มีมติสั่งไม่ให้ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคประชาชาติ จำนวน 6 คน เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซ้ำซ้อน จึงขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิรับเลือกตั้ง และมิให้นำคะแนนที่ผู้สมัครได้นั้น ไปคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามมาตรา 128 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในชั้นนี้ยังไม่พิจารณาเรื่องใบส้ม เพราะต้องดูที่ข้อเท็จจริง หากตรวจสอบแล้วพบว่ารู้ทั้งรู้ว่าเป็นสมาชิกซ้ำซ้อน ก็จะเข้าข่ายมาตรา 53 วรรค 3 และมาตรา 138 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ต้องส่งเรื่องไปศาลฎีกาฯ
    สำหรับผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ประกอบด้วย นางทัศนีย์ ชลายนเดชะ หมายเลข 11 เขตเลือกตั้งที่ 15 กรุงเทพฯ, นายวิโรจน์ วัฒนากลาง หมายเลข 5 เขตเลือกตั้งที่ 6 จ.นครราชสีมา, นายอิทธิศักดิ์ ปาทาน  หมายเลข 1 เขตเลือกตั้งที่ 5 จ.บุรีรัมย์, นายเกริกชัย พลชา หมายเลข 23 เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.บึงกาฬ, นายประหยัด พิมพา หมายเลข 14 เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.อุดรธานี และนายอฤเดช แพงอะมะ มายเลข 25 เขตเลือกตั้งที่ 3 จ.อุดรธานี
    ทั้งนี้ การตัดสิทธิ์สมัครดังกล่าวไม่มีผลต่อจำนวน ส.ส.ของพรรคประชาชาติ เพราะไม่ได้มีการตัดสิทธิ์ว่าที่ ส.ส.เขตของพรรคจำนวน 6 คน ขณะที่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคจะไม่ได้รับการจัดสรรอยู่แล้ว เนื่องจากได้ส.ส.เท่ากับจำนวนพึงได้แล้ว แต่การถูกตัดคะแนนดังกล่าวจะมีผลกับคะแนนรวมทั้งประเทศของพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่จะนำมาใช้ในการคำนวณจัดสรร ส.ส.ให้กับพรรคการเมือง โดยจะทำให้ค่าเฉลี่ยต่อ ส.ส. 1 คนลดลง ทั้งนี้ ผู้สมัครทั้ง 6 คน มีคะแนนรวมกัน 3,520 คะแนน
รับรอง ส.ส.7-8 พ.ค.
     เฟซบุ๊กพรรคอนาคตใหม่โพสต์ข้อความระบุว่า ทำไมพรรคอนาคตใหม่ต้องเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งซ่อมในนครปฐม เขต 1 นอกจากผลคะแนนของเขตนี้จะเปลี่ยนพลิกไปมาถึง 5 ครั้ง จนไม่สามารถหาคะแนนที่ชอบธรรมและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้ เรายังพบความผิดปกติของตัวเลขต่างๆ ในการนับคะแนนครั้งที่ 1 เมื่อ 24 มีนาคม และครั้งที่ 2 เมื่อ 28 เมษายน มากกว่า 20 กรณี ในขณะที่เราแพ้ไปเพียง 4 คะแนน  สิ่งที่ไม่น่าจะคลาดเคลื่อนที่สุดคือจำนวนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน แต่ก็กลับมีบัตรไม่ลงคะแนนเพิ่มมาถึง 6 ใบ 
    "คือการเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งซ่อม ไม่ใช่เพราะพรรคอนาคตใหม่ต้องการ ส.ส.เพิ่ม เพราะหากเราได้ ส.ส.เขตเพิ่ม ก็จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อลดลง ตามหลักการคำนวณ ส.ส.พึงมี พรรคประชาธิปัตย์จึงไม่ใช่คู่ขัดแย้งของเรา แต่พรรคอนาคตใหม่ต้องการพิทักษ์เสียงของประชาชนทุกเสียง ต้องการได้มาซึ่งผลเลือกตั้งที่เป็นธรรม แสดงเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชน อย่าให้นครปฐม เขต 1 เป็นโดมิโนตัวแรกที่ทำลายความน่าเชื่อถือผลเลือกตั้งทั้งประเทศ ยังมีโอกาสสำหรับ กกต. จัดการเลือกตั้งซ่อมที่โปร่งใส เป็นธรรม พิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า กกต.ยังสามารถทำงานรับใช้ประชาชนและผดุงประชาธิปไตยได้"
    มีรายงานว่า การประชุม กกต.เมื่อวันที่ 30 เม.ย. มีมติเห็นชอบที่จะให้มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ในวันที่ 7 พ.ค.และประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในวันที่ 8 พ.ค. ก่อนวันสุดท้ายของกรอบระยะ 150 วันที่ กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จตามรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ทั้งนี้ กกต.ไม่สามารถประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 2 แบบพร้อมกันได้ เนื่องจาก พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 127 กำหนดให้ กกต. ต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งก่อน แล้วจึงดำเนินการคิดคำนวณ จัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อตามมาตรา 129 ก่อนที่จะประกาศรับรอง    
    ขณะที่การคิดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อจัดสรรให้กับพรรคการเมืองนั้น เบื้องต้นสำนักงานจะเสนอให้ยึดวิธีคำนวณของคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มีพรรคการเมืองซึ่งได้คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ส.ส. 1 คน จำนวน 27 พรรคได้รับการจัดสรร มาดำเนินการจัดสรร เนื่องจากยังไม่มั่นใจว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินกรณี พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 128 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ทันก่อนวันที่ 9 พ.ค.หรือไม่
    นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวว่า กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ภายในวันที่ 9 พ.ค.นี้ ส่วนจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพียงอย่างเดียว หรือจะมีแถลงข่าวด้วยหรือไม่นั้น ยังไม่ได้พิจารณา ต้องรอฟังความเห็นจากที่ประชุมก่อน สำหรับสูตรที่ใช้คำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อนั้น ขณะนี้ กกต.มีความชัดเจนในการพิจารณาตามกรอบกฎหมายอยู่แล้ว แต่ยังไม่ขอให้รายละเอียดว่าเป็นสูตรคำนวณใด และยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะเปิดเผยสูตรให้สาธารณชนรับทราบก่อนประกาศรับรองผลการเลือกตั้งหรือไม่
    นายเชาว์ มีขวด รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อ "เมื่อนักกฎหมายเขียนกฎหมายพาประเทศถึงทางตัน" ว่า หลังผ่านมาเดือนเศษแล้ว ยังไม่สามารถประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.ได้แม้แต่รายเดียว ต้องรอไปประกาศพร้อมกัน ร้อยละ 95 ตลอดจนปัญหาสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่กำลังบานปลายกลายเป็นประเด็นที่อาจทำให้ กกต. ต้องรับผิดทางกฎหมาย หากเลือกสูตรคำนวณผิด และยังมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ของผู้สมัคร ส.ส.ในเรื่องการถือหุ้นสื่อที่อาจกลายเป็นหลุมดำใหญ่ทำให้ อาจประกาศรับรองผลร้อยละ 95 ไม่ได้ เนื่องจากมีผู้เข้าข่ายขาดคุณสมบัติจำนวนมาก จะกระทบถึงสมการการเมืองในการตั้งรัฐบาล ทำให้เกิดความผันแปรได้อยู่ตลอดเวลา หรือส่งผลถึงขั้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้เลย 
อัด"มีชัย"ไร้ความรับผิดชอบ
    แต่คนที่ต้องรับหน้าเสื่อ เป็นเหมือนหนังหน้าไฟกลายเป็น กกต. ทั้งที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่มีผู้ร่างเอาไว้คือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ.กับพวก ในขณะที่ กกต.บอบช้ำหนัก โดนด่าไปทั่วประเทศ ต้องออกมาชี้แจงรายวัน ส่วนกลุ่มคนที่เป็นผู้ร่างกฎหมาย ทำให้เกิดปัญหาในประเทศนี้กลับไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ คำพูดของนายมีชัย ที่ไม่ยอมแสดงความเห็นเกี่ยวกับสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยโยนไปให้ กกต.ตัดสินใจเอง อ้างว่าตัวเองหมดหน้าที่แล้ว ชี้ให้เห็นถึงการขาดสามัญสำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติอย่างรุนแรง 
    "เพราะกติกาที่นายมีชัยกับพวกสร้างขึ้น ได้กลายเป็นปัญหากับบ้านเมือง ทำให้ประเทศชาติ คงมีกลุ่มคนเพียงกลุ่มเดียวที่ได้ประโยชน์คือ คสช. ที่จะยังอยู่ในอำนาจต่อไป หากหลังเลือกตั้งแล้วยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่ทั้งนายมีชัยและพวกไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆ ในฐานะที่ผมเป็นนักกฎหมาย เป็นทนายความ สิ่งหนึ่งที่ผมยึดถือตลอดคือไม่รับใช้โจร เพราะถ้าไปรับใช้โจร ก็เท่ากับเปิดทางให้โจรปล้นได้อย่างถูกกฎหมาย บ้านเมืองจะวุ่นวาย ไม่ต่างอะไรกับการพายเรือให้โจรนั่ง หรือโจรรับใช้โจร จะเลวยิ่งกว่าโจร" นายเชาว์ระบุ
    ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค, นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย, นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ว่าที่ ส.ส.นครพนม แถลงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติและมีการโอนเงินให้ อสม.ก่อนเลือกตั้งเพียง 2วัน ซึ่งอาจหวังผลทางการเมือง และอาจทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยนายนายชูศักดิ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยส่งตัวแทนเพื่อยื่นเรื่องกับ กกต. ขอให้ตรวจสอบและไต่สวน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. พร้อมกับคณะรัฐมนตรีที่ร่วมประชุมเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 เนื่องจากมีมติให้จ่ายงบกลาง วงเงิน 4,218 ล้านบาท เพื่อใช้ในกรณีเพิ่มค่าตอบแทนให้กับอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)กว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ จากเดือนละ 600 บาท เป็น 1000 บาท และจ่ายเงินย้อนหลัง 3 เดือน รวมเป็นคนละ 3,000 บาท เมื่อช่วงวันที่ 20-22 มี.ค. ก่อนเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.เพียง 2-3วัน กรณีที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ทางการเมือง และจูงใจให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเลือกพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นแคนดิเดตนายกฯ ในพรรคดังกล่าวด้วย 
    นายภูมิธรรมกล่าวว่า รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้อำนาจของตนเองได้แบบไม่รู้จบ ขัดต่อธรรมเนียมปกครองในระบอบประชาธิปไตย ขอประณามผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ที่ตีความกฎหมายเพื่อประโยชน์ของบางฝ่าย กรณีนี้หากเป็นรัฐบาลที่ผ่านมา หรือรัฐบาลปกติ ต้องถูกลงโทษด้วยการจำคุก
    ที่สำนักงาน กกต. นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค พท. ยื่นหนังสือขอให้ กกต.พิจารณาระงับสิทธิ์สมัครของพรรคพลังประชารัฐทุกเขตทั่วประเทศและให้สั่งเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ผู้สมัครจากพปชร.ชนะการเลือกตั้ง ส.ส. เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ และ ครม.มีมติเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่ อสม.กว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ เข้าข่ายเจ้าหน้าที่รัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบกระทำการเพื่อเป็นคุณแก่พรรคพปชร. อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 78 และมาตรา 149 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2561 จึงขอให้กกต.รับกรณีดังกล่าวไว้สอบสวน 
     ขณะเดียวกัน นางวิรณัฎฐ์ ณัฏฐมั่งคั่ง ภรรยาของ พ.ต.อ.ทินกร ณัฏฐมั่งคั่ง อดีตรองผู้บังคับการสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) อดีตนายเวรของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรักษาการ ผบ.ตร. ได้รับมอบอำนาจให้เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่าเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (8) หรือไม่ กรณีเคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ เนื่องจาก พ.ต.อ.ทินกรเคยร้องเรียน กล่าวหา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เมื่อปี 2551 ว่ากระทำความผิดวินัยร้ายแรงต่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น กระทั่งถูกนายสมัครสั่งให้ออกจากราชการตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 73/2551 จึงตั้งข้อสังเกตว่า นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังไม่ถูกให้กลับเข้ารับราชการอีก จึงขอให้ตรวจสอบว่า เข้าข่ายขัดคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่
"กรณ์-อภิรักษ์"เปิดตัว
    นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวการลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป. ว่า ตนยืนยันที่จะลงสมัครอยู่แล้ว และตั้งแต่มีชื่อของตนออกมาเป็นข่าว โดยความตั้งใจมาลงสมัคร เพราะเห็นว่าผลการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุด และสถานการณ์ของพรรคที่เปลี่ยนไป ทำให้พรรคจำเป็นที่จะต้องรับฟังกระแสสังคมหรือเสียงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกสมัยใหม่ และพรรคต้องใช้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมานั้นเป็นบทเรียนในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและสังคมในโลกยุคใหม่ ขณะที่ทุกคนในพรรคต้องกลับมาร่วมแรงร่วมใจทำงานด้วยกัน และไม่รู้สึกหนักใจในการแสดงความตั้งใจเข้ามากอบกู้พรรค ตนได้พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และอีกหลายๆ คนในพรรค ก็เห็นว่าจำเป็นที่พรรคต้องเปลี่ยนแปลง และทำให้ประชาชนสัมผัสได้ว่าพรรคพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกัน สำหรับการเปิดตัวทีมนั้น ต้องดูเรื่องความพร้อมและช่วงเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง 
    ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้าพรรค ปชป. ให้สัมภาษณ์ในรายการ Suthichai live ว่า ได้ตัดสินใจลงชิงหัวหน้าพรรค ปชป.ทันทีในวันที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากตำแหน่ง จากนั้นหลังวันเลือกตั้งก็ไปแสดงเจตจำนงต่อผู้ใหญ่ในพรรคเรียบร้อย โดยไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับนายอภิสิทธิ์ ตนได้ติดต่อทาบทามนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ว่าที่ ส.ส.ตากให้เป็นเลขาธิการพรรคจริง ตนมีประสบการณ์การทำงานในภาคเอกชนมา 20 ปี ก่อนเข้าทำงานการเมือง  อีกทั้งเคยเป็น รมว.คลัง ส่วนนายชัยวุฒิ เป็นวิศวกร และเคยเป็นทั้ง รมว.อุตสาหกรรม และ รมช.ศึกษาธิการ ดังนั้นจึงเป็นทีมที่แตกต่างจากอดีตที่ผ่านมาที่สังคมมองว่าเราเป็นนักกฎหมาย เป็นนักการเมือง แต่ตอนนี้เราเหมือนเป็นทีมเศรษฐกิจการเงินบวกวิศวกร ซึ่งคิดว่าน่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ประชาชนต้องการ
    นายกรณ์กล่าวว่า สำหรับจุดยืนของพรรคจะร่วมกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องของสมาชิกพรรคตัดสินใจ เป็นเรื่องที่เราต้องปรึกษากันกับคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เรื่องนี้จะมีความหมายต่อเมื่อมีความชัดเจนว่าแต่ละพรรคได้ ส.ส.จำนวนเท่าไหร่ แม้เราตัดสินใจร่วม ถามเขาจะตั้งได้หรือเปล่า แต่ที่ชัดเจนคือไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย เท่ากับตอนนี้มีสองทางเลือก คือร่วมกับพลังประชารัฐ หรือไม่ร่วมเลย ในส่วนของ พปชร.ตอนนี้ แม้พรรคภูมิใจไทยไปร่วมแล้ว และเราร่วมด้วย เสียงก็ไม่ถึง 250 เสียง ดังนั้น จึงไม่ได้เป็นประเด็นในส่วนของเรา พูดง่ายๆ คือเงื่อนไขไม่ได้บีบว่าเราเป็นตัวแปรในระดับนั้น 
     ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) วันที่ 1 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ว่ารัฐบาลนี้มีเวลาทำงานอยู่อีกประมาณเดือนหน้า จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ในเดือนมิถุนายน ช่วงนี้เราก็จะเตรียมการเอากฎหมายที่ยังทำไม่เสร็จ หรือทำเสร็จแล้ว ก็จะออกกฎหมายลูก เพื่อให้ดำเนินการได้โดยเร็ว และกฎหมายที่พิจารณายังไม่เสร็จก็ต้องมีการพิจารณาต่อไปในรัฐสภา ที่มีรัฐบาลใหม่ ยืนยันทุกอย่างที่ทำวันนี้ ที่ทำมา 5 ปี จะสืบสานต่อในรัฐบาลใหม่ อันนี้คือความต้องการของประชาชน 
    "ขณะนี้เราอยู่ในรัชกาลที่ 10 เป็นรัชกาลปัจจุบัน เป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านรัชกาล เหลือแต่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งจะมาถึงอีกไม่กี่วันข้างหน้า เราต้องทำให้บ้านเมืองของเราปลอดภัย สงบสุข เรียบร้อย มีเสถียรภาพ ด้วยความมั่นคง ด้วยความเข้าใจ ด้วยการเดินหน้าประเทศไทยพร้อมกัน ในการที่จะปฏิรูปประเทศทั้งหมด ทุกอย่างต้องอาศัยพวกเราทุกคนช่วยกัน ทำให้บ้านเมืองมีความสุขสงบ เรียบร้อย ปลอดภัยเช่น 5 ปีที่ผ่านมา ต้องสร้างความยั่งยืนให้ได้ ไม่ล้มลุกคลุกคลานอีกต่อไป ผมสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเต็มที่ และจะส่งต่อรัฐบาลที่จะมาจากการเลือกตั้งต่อไป"
เตรียมส่งไม้ให้ รบ.ใหม่
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เราต้องเพิ่มความรักความสามัคคีให้มากยิ่งขึ้น อย่าให้ใครมาทำให้กร่อนลงไป ถ้าเมื่อใดที่เราขาดความรักความสามัคคี เราก็จะเหมือนกิ่งไผ่เล็กๆ กิ่งเดียวแล้วเขาก็หัก แต่เมื่อไหร่ที่เรารวมกันได้ ช่วยกันทำงาน ก็จะทำให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เป็นไม้ไผ่ที่เป็นกำ ช่วยกันทำสิ่งที่ถูกต้องเถอะ อย่าทำอะไรที่นอกกฎหมายเท่านั้นเอง จะไม่มีใครได้รับผลกระทบจากกฎหมายทั้งสิ้น นั่นคือความเป็นธรรมของกฎหมาย 
    "ประเทศไทยต้องอดทนให้ได้ ถ้าทุกคนพบกันด้วยรอยยิ้ม ผมก็มีกำลังใจ ขาไม่อ่อน ทุกคนมีความหวัง ตนก็มีความหวัง และยืนยันว่าจะทำต่อไป จะต้องทำให้รัฐบาลใหม่ทำได้แบบนี้ด้วย ซึ่งอยู่ที่พวกเราทุกคนที่เลือกมาทั้งสิ้น ส.ส.ต่างๆ ทั้งหมด และหวังอย่างยิ่งว่าพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ต่างประเทศชื่นชมความสงบเรียบร้อย อย่าให้ใครมาทำร้ายประเทศไทยโดยเด็ดขาด" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
     เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ลงนามในหนังสือสรุปมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารราชการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 8/2562 เพื่อแจ้งเวียนภายในสำนักงาน โดยรายละเอียดบางช่วงรายงานถึงผลการหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เกี่ยวกับขั้นตอนการรับรายงานตัวของ ส.ส.และ ส.ว. โดยระบุว่ากรณี กกต.ประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.อย่างช้าที่สุดในวันที่ 9 พ.ค.62 คสช.ต้องคัดเลือก ส.ว.จำนวน 250 คน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 11 พ.ค.62 คาดว่าจะนำรายชื่อ ส.ส.และ ส.ว.ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งภายในวันที่ 12 พ.ค.62 จากนั้นจะจัดให้มีการรายงานตัว โดย ส.ส.จะรายงานตัวที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) สำหรับ ส.ว.จะรายงานตัวที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา อาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น
       สำหรับรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 18-19 พ.ค.62 และตามธรรมเนียมปฏิบัติจะจัด ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งจะมีการประสานกับสำนักงานราชเลขาธิการในเรื่องสถานที่อีกครั้ง สำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก เพื่อเลือกประธานและรองประธาน รวมไปถึงการประชุมวุฒิสภาครั้งแรก เพื่อเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา เบื้องต้นจะจัดขึ้นที่หอประชุมใหญ่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยนายวิษณุเห็นว่าควรจัดประชุมทั้ง 2 สภาวันเดียวกัน ในวันที่ 21 พ.ค.62 
        ส่วนการประชุมรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบนายกฯ นั้น นายวิษณุระบุว่า หากมีการทูลเกล้าฯ ถวาย แต่งตั้งประธานและรองประธานสภาฯ รวมไปถึงประธานและรองประธานวุฒิสภา ในวันที่ 23 พ.ค.62 จะสามารถเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.62 เป็นต้นไป แต่หอประชุมใหญ่ทีโอที ไม่สามารถรองรับสมาชิกรัฐสภาจำนวน 750 คนได้จึงประสานขอใช้หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เป็นสถานที่ประชุมรัฐสภา แต่อาจติดเรื่องสถานที่จอดรถไม่เพียงพอ ซึ่งนายวิษณุแนะนำว่า อาจต้องรอให้ประธานสภาฯ ในฐานะประธานรัฐสภา เป็นผู้พิจารณาเรื่องสถานที่ประชุมอีกครั้ง ทั้งนี้ นายวิษณุยังระบุว่า ขั้นตอนตามมาตรา 272 ในรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ว่าด้วยการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรเป็นนายกฯ นั้น ต้องกระทำในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาตั้งแต่ขั้นตอนการเสนอรายชื่อบุคคลจนถึงการลงมติให้ความเห็นชอบ. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"