ครองแผ่นดินโดยธรรม


เพิ่มเพื่อน    

 ‘‘เราจะสืบสานรักษา และต่อยอดและครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป’’

  สรงพระมุรธาภิเษก ทรงเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ พระปฐมบรมราชโองการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 " เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป"   
    เมื่อเวลา 09.58 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2562   พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์, พระเจ้าหลานเธอ  พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 รถยนต์พระที่นั่งเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี เทียบที่พระทวารเทเวศรรักษา เสด็จเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ประทับรอ โดยมีคุณพลอยไพลิน เจนเซน, คุณเดวิด วีลเลอร์ และคุณสิริกิติยา เจนเซน เฝ้าฯ รับเสด็จ 
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งบุษบกมาลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร รัชกาลที่ 1-9 ที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา ทรงกราบ จากนั้นเสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวร พันตำรวจเอกธรรมนิธิ วนิชย์ถนอม มหาดเล็กเชิญพระแสงดาบคาบค่ายตามเสด็จ ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร และดุริยางค์ เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัยหน้าพระแท่นมณฑล ทรงกราบ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ พระสงฆ์ 5 รูป นั่งบนอาสน์สงฆ์ เรียบร้อยแล้ว ทรงศีล
    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีล จบ ขณะเดียวกันโหรหลวงบูชาฤกษ์ที่ศาลจตุโลกบาลทั้ง 4 และศาลพระอินทร์ ที่มณฑปพระกระยาสนาน ต่อจากนั้นเสด็จเข้าหอพระสุราลัยพิมาน ทรงเปลื้องฉลองพระองค์ ทรงเศวตพัสตร์ ทรงสะพักขาวขลิบทอง พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลเชิญเสด็จ 
    จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกจากหอพระสุราลัยพิมานโดยริ้วขบวนพราหมณ์นำไปยังมณฑปพระกระยาสนาน นาวาเอก ธรรมรงค์ สุวรรณกูฏ เชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 1 ประดิษฐาน ณ บุษบกทิศตะวันออก พราหมณ์เชิญพระพิฆเนศประดิษฐาน ณ บุษบกทิศตะวันตก มหาดเล็กเชิญพระแสงดาบคาบค่ายตามเสด็จ
    ต่อมา เสด็จฯ ไปยังโต๊ะเครื่องสังเวยกลางหาว ทรงจุดธูปเงิน เทียนทอง สังเวยเทวดากลางหาว เสด็จขึ้นมณฑปพระกระยาสนาน พันตำรวจโท ปัญญา สุดาทิพย์ ถอดฉลองพระบาทถวาย ประทับเหนืออุทุมพรราชอาสน์ แปรพระพักตร์สู่ทิศบูรพา ทรงเหยียบใบอ้อ
สรงพระมุรธาภิเษก
    เวลาพระฤกษ์ 10.09-12.00 น. พลอากาศเอก สถิตพงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง ถวายบังคม 3 ครั้ง ขึ้นมณฑปพระกระยาสนาน เปิดพระครอบพระมุรธาภิเษก รัชกาลที่ 1 ถวาย แล้วลงจากมณฑปพระกระยาสนาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวักน้ำพระพุทธมนต์อันเจือด้วยน้ำเบญจสุทธคงคาและน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสระ 4 สระ จากพระครอบพระมุรธาภิเษก รัชกาลที่ 1 สรงพระนลาฏ
    เวลา 10.26 น. พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระราชานุญาตไขสหัสธาราอันเจือด้วยน้ำเบญจสุทธคงคาและน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสระ 4 สระ แล้วถวายบังคม 3 ครั้ง ขณะนี้ โหรหลวงลั่นฆ้องชัย พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร และดุริยางค์ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารปืนใหญ่ยิงปืนมหาฤกษ์ มหาชัย มหาจักร มหาปราบยุค กระบอกละ 10 นัด ตามกำลังวันเสาร์ ที่สนามหญ้าหน้าศาลาสหทัยสมาคม ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 101 นัด
    สมเด็จพระสังฆราช พระอนุวงศ์ และพราหมณ์  ถวายน้ำพระพุทธมนต์ และน้ำเทพมนตร์ ตามลำดับ ได้แก่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จขึ้นมณฑปพระกระยาสนานทางทิศตะวันตก ถวายน้ำพระพุทธมนต์ด้วยพระครอบพระกริ่ง รัชกาลที่ 4 ที่พระปฤษฎางค์ เสด็จลงจากมณฑปพระกระยาสนาน และเสด็จขึ้นมณฑปพระกระยาสนานทางทิศตะวันออก ถวายน้ำพระพุทธมนต์ด้วยพระครอบยันต์เดิม รัชกาลที่ 4 ที่พระหัตถ์ เสด็จลงจากมณฑปพระกระยาสนาน
    พลเรือเอก หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ ถวายบังคม 3 ครั้ง เสด็จขึ้นมณฑปพระกระยาสนาน และทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษกที่พระหัตถ์ด้วยพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 5 แล้วพลเรือเอก หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ เสด็จลงจากมณฑปพระกระยาสนาน และถวายบังคม 3 ครั้ง, พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ถวายบังคม 3 ครั้ง เสด็จขึ้นมณฑปพระกระยาสนานและทูลเกล้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ด้วยพระเต้านวเคราะห์ รัชกาลที่ 4 ทรงวักน้ำจากพระเต้านวเคราะห์ รัชกาลที่ 4 และทรงแตะที่พระนลาฏ แล้วพลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล เสด็จลงจากมณฑปพระกระยาสนาน และถวายบังคม 3 ครั้ง
    พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ถวายบังคม 3 ครั้ง ขึ้นมณฑปพระกระยาสนาน และทูลเกล้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ที่พระหัตถ์ด้วยพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 1 แล้วทูลเกล้า ฯ ถวายพระมหาสังข์เพชรใหญ่ ทรงรับและทรงสรงน้ำเทพมนตร์เหนือเส้นพระเจ้า ถวายพระมหาสังข์เพชรน้อย ทรงรับและทรงสรงน้ำเทพมนตร์เหนือเส้นพระเจ้า  ถวายน้ำเทพมนตร์ด้วยพระมหาสังข์พิธีพราหมณ์ที่พระหัตถ์ ทรงรับใบมะตูมทรงทัด แล้วทูลเกล้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ด้วยพระมหาสังข์ทอง พระมหาสังข์นาก พระมหาสังข์เงิน พระมหาสังข์งา พระมหาสังข์สัมฤทธิ์ พระครอบเฟืองสัมฤทธิ์ แล้วทูลเกล้าฯ ถวายแหวนใบกระถิน ทรงสวมที่พระอนามิกา หรือนิ้วนางขวา แล้วลงจากมณฑปพระกระยาสนาน และถวายบังคม 3 ครั้ง
    ลำดับต่อไป หม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคล ถวายบังคม 3 ครั้ง เสด็จขึ้นมณฑปพระกระยาสนาน และทูลเกล้าฯ ถวายพระเต้าน้ำอภิเษกต่างๆ รวม 22 พระเต้า ได้แก่ พระเต้าทองเกลี้ยง, พระเต้ามงคลแปด, พระเต้าเบญจคัพย์รอง รัชกาลที่ 1, พระเต้าปทุมนิมิตทอง รัชกาลที่ 1, พระเต้าปทุมนิมิตนาก รัชกาลที่ 1, พระเต้าปทุมนิมิตเงิน รัชกาลที่ 1, พระเต้าปทุมนิมิตสัมฤทธิ์ รัชกาลที่ 1, พระเต้าบัวหยกเขียว รัชกาลที่ 4, พระเต้ากลีบบัวแดง, พระเต้ากลีบบัวขาวยอดเกี้ยว รัชกาลที่ 5, พระเต้ากลีบบัวใหญ่ รัชกาลที่ 4
    พระเต้าห้ากษัตริย์ทองคำ รัชกาลที่ 4, พระเต้าห้ากษัตริย์นาก รัชกาลที่ 4, พระเต้าห้ากษัตริย์เงิน รัชกาลที่ 4, พระเต้าห้ากษัตริย์สัมฤทธิ์ รัชกาลที่ 4,  พระเต้าห้ากษัตริย์หินอ่อน รัชกาลที่ 4, พระเต้าโมราดำ, พระเต้านวเคราะห์ รัชกาลที่ 4, พระเต้าไกรลาส รัชกาลที่ 4, พระเต้าศิลาจารึกอักษร รัชกาลที่ 4, พระเต้าศิลา 5 ห้อง รัชกาลที่ 4, พระเต้าเทวบิฐ รัชกาลที่ 4
    การนี้ ทรงรับพระเต้ารดพระองค์ที่พระอังสาซ้าย- ขวา เว้นแต่พระเต้าเทวบิฐ รัชกาลที่ 4 จะทรงรดที่พระชงฆ์และพระบาท แล้วหม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคล เสด็จลงจากมณฑปพระกระยาสนาน และถวายบังคม 3 ครั้ง จากนั้น เลขาธิการพระราชวังถวายบังคม 3 ครั้ง ขึ้นมณฑปพระกระยาสนาน ทูลเกล้าฯ ถวายพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏ ทรงรับและทรงสรงน้ำเทพมนตร์เหนือเส้นพระเจ้า แล้วพลอากาศเอกสถิตพงษ์ลงจากมณฑปพระกระยาสนาน และถวายบังคม 3 ครั้ง
    เมื่อสรงพระมุรธาภิเษกเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยืน พันตำรวจโท ปัญญา สุดาทิพย์ สอดฉลองพระบาทถวาย นายมนัส เสือเปลี่ยว ถวายฉลองพระองค์คลุม เสด็จลงจากมณฑปพระกระยาสนาน เสด็จขึ้นทางบันไดพระทวารหอพระสุราลัยพิมาน พระราชทานใบมะตูมและแหวนใบกระถินคืนแก่มหาดเล็ก ทรงเปลื้องเศวตพัสตร์ ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย สายสะพายนพรัตน์ราชวราภรณ์ สายสร้อยจุลจอมเกล้า ผู้ที่จะทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษกเข้าไปยืนประจำที่รอบพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ นาวาเอก ธรรมรงค์ สุวรรณภูฏ เชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 1 พราหมณ์ เชิญพระพิฆเนศเข้าริ้วขบวน เชิญไปประดิษฐาน ณ พระแท่นมณฑล พระที่นั่งไพศาลทักษิณ
เป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์  
    เวลา 11.39 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย สายสะพายนพรัตน์ราชวราภรณ์ สายสร้อยจุลจอมเกล้า เสด็จออกจากหอพระสุราลัยพิมาน ทรงพระดำเนินไปพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ประทับบนพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ภายใต้พระบวรเศวตฉัตร โดยแปรพระพักตร์ทิศบูรพา (ตะวันออก) เป็นปฐม
    พันโท สมชาย กาญจนมณี ปฏิบัติหน้าที่สมุหพระราชพิธี ทูลเกล้าฯ ถวายพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 1 ทรงถือด้วยพระหัตถ์ซ้าย สำหรับทรงรับน้ำอภิเษกประจำทิศโดยทักษิณวรรต ทั้งนี้ พลเรือเอก หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล แล้วทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษกด้วยถ้วยศิลาจารึกอักษรพุทธคาถา ทิศบูรพา (ตะวันออก) เป็นปฐม ทรงรับด้วยพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 1 ด้วยพระหัตถ์ซ้าย จากนั้นพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระครอบเฟืองสัมฤทธิ์ บรรจุน้ำเทพมนตร์ ทรงจุ่มพระหัตถ์ขวาลงในพระครอบเฟืองสัมฤทธิ์ แล้วทรงลูบที่พระนลาฏ และทูลเกล้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ด้วยพระมหาสังข์พิธีพราหมณ์ที่พระหัตถ์ขวา ทรงลูบพระเศียร แล้วทรงรับใบมะตูมทรงทัด (ทิศปฐมทิศเดียว) ในขณะที่พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ทรงแปรที่ประทับเพื่อทรงรับน้ำอภิเษกและน้ำเทพมนตร์ทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้)
    หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล แล้วทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษกด้วยถ้วยศิลาจารึกอักษรพุทธคาถา ทรงรับด้วยพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 1 ด้วยพระหัตถ์ช้าย พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระครอบเฟืองสัมฤทธิ์ บรรจุน้ำเทพมนตร์ ทรงจุ่มพระหัตถ์ขวา ลงในพระครอบเฟือง สัมฤทธิ์ แล้วทรงลูบที่พระนลาฏ และทูลเกล้าฯ ถวายพระมหาสังข์เพชรใหญ่ ทรงรับและทรงสรงน้ำเทพมนตร์เหนือเส้นพระเจ้า ในขณะที่พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ทรงแปรที่ประทับ เพื่อทรงรับน้ำอภิเษกและน้ำเทพมนตร์ทิศทักษิณ (ใต้)
    พลโท หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลแล้วทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษกด้วยถ้วยศิลาจารึกอักษรพุทธคาถา ทรงรับด้วยพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 1 ด้วยพระหัตถ์ซ้าย พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระครอบเฟืองสัมฤทธิ์  บรรจุน้ำเทพมนตร์ ทรงจุ่มพระหัตถ์ขวาลงในพระครอบเฟือง สัมฤทธิ์ แล้วทรงลูบที่พระนลาฏ และทูลเกล้าฯ ถวายพระมหาสังข์เพชรน้อย ทรงรับและทรงสรงน้ำเทพมนตร์ เหนือเส้นพระเจ้า ในขณะที่ พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ทรงแปรที่ประทับ เพื่อทรงรับน้ำอภิเษกและน้ำเทพมนตร์ทิศหรดี หรือตะวันตกเฉียงใต้
    พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล แล้วทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษก ด้วยถ้วยศิลาจารึกอักษรพุทธคาถา ทรงรับด้วยพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 1 ด้วยพระหัตถ์ซ้าย พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระครอบเฟืองสัมฤทธิ์ บรรจุน้ำเทพมนตร์ ทรงจุ่มพระหัตถ์ขวาลงในพระครอบเฟืองสัมฤทธิ์ แล้วทรงลูบที่พระนลาฏ และทูลเกล้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ด้วยพระมหาสังข์ทองที่พระหัตถ์ขวา ทรงลูบพระเศียร ในขณะที่พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ทรงแปรที่ประทับ เพื่อทรงรับน้ำอภิเษกและน้ำเทพมนตร์ทิศประจิม หรือตะวันตก
    พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล แล้วทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษกด้วยถ้วยศิลาจารึกอักษรพุทธคาถา ทรงรับด้วยพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 1 ด้วยพระหัตถ์ซ้าย พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระครอบเฟือง (สัมฤทธิ์) บรรจุน้ำเทพมนตร์ ทรงจุ่มพระหัตถ์ขวาลงในพระครอบเฟือง (สัมฤทธิ์) แล้วทรงลูบที่พระนลาฏ และทูลเกล้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ ด้วยพระมหาสังข์เงินที่พระหัตถ์ขวาทรงลูบพระเศียร ในขณะที่พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ทรงแปรที่ประทับ เพื่อทรงรับน้ำอภิเษกและน้ำเทพมนตร์ทิศพายัพ หรือตะวันตกเฉียงเหนือ
    นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล แล้วทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษกด้วยถ้วยศิลาจารึกอักษรพุทธคาถา ทรงรับด้วยพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 1 ด้วยพระหัตถ์ซ้ายพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระครอบเฟือง สัมฤทธิ์ บรรจุน้ำเทพมนตร์ ทรงจุ่มพระหัตถ์ขวาลงในพระครอบเฟืองสัมฤทธิ์ แล้วทรงลูบที่พระนลาฏ และทูลเกล้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ด้วยพระมหาสังข์นากที่พระหัตถ์ขวา ทรงลูบพระเศียร ในขณะที่พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ทรงแปรที่ประทับ เพื่อทรงรับน้ำอภิเษกและน้ำเทพมนตร์ทิศอุดร หรือทิศเหนือ
    นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เข้าเฝ้าฯ  กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล แล้วทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษกด้วยถ้วยศิลาจารึกอักษรพุทธคาถา ทรงรับด้วยพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 1 ด้วยพระหัตถ์ซ้าย พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระครอบเฟืองสัมฤทธิ์ บรรจุน้ำเทพมนตร์ ทรงจุ่มพระหัตถ์ขวาลงในพระครอบเฟืองสัมฤทธิ์ แล้วทรงลูบที่พระนลาฏ และทูลเกล้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ด้วยพระมหาสังข์งาที่พระหัตถ์ขวา ทรงลูบพระเศียร ในขณะที่พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ทรงแปรที่ประทับ เพื่อทรงรับน้ำอภิเษกและน้ำเทพมนตร์ทิศอีสาน หรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ  
    นายจรัส สุวรรณเวลา ราชบัณฑิต เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล แล้วทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษกด้วยถ้วยศิลาจารึกอักษรพุทธคาถา ทรงรับด้วยพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 1 ด้วยพระหัตถ์ซ้าย พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระครอบเฟืองสัมฤทธิ์  บรรจุน้ำเทพมนตร์ ทรงจุ่มพระหัตถ์ขวาลงในพระครอบเฟืองสัมฤทธิ์ แล้วทรงลูบที่พระนลาฏ และทูลเกล้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ด้วยพระมหาสังขสัมฤทธิ์ที่พระหัตถ์ขวา ทรงลูบพระเศียร ในขณะที่พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ทรงแปรที่ประทับ ทิศบูรพา (ตะวันออก) อีกครั้ง เพื่อทรงรับน้ำอภิเษกและน้ำเทพมนตร์ แทนทิศกลาง
    พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล แล้วทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษกด้วยถ้วยศิลาจารึกอักษรพุทธคาถา ทรงรับด้วยพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 1 ด้วยพระหัตถ์ซ้าย จากนั้น พระราชทานพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 1 คืน พันโท สมชาย กาญจนมณี พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระครอบเฟืองสัมฤทธิ์ บรรจุน้ำเทพมนตร์ ทรงจุ่มพระหัตถ์ขวาลงในพระครอบเฟืองสัมฤทธิ์ แล้วทรงลูบที่พระนลาฏ และทูลเกล้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ด้วยพระมหาสังข์พิธีพราหมณ์ที่พระหัตต์ขวา ทรงลูบพระเศียร ในขณะที่พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์
    พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล จบ ซึ่งพลตรี ชัยยุทธ อินทจาร เชิญพระนพปฏลมหาเศวตฉัตรจากพระแท่นมณฑลมอบให้พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ น้อมเกล้าฯ ถวายพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ขณะนี้ พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคม ฆ้องชัย แตร มโหระทึก และดุริยางค์
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับแล้วพระราชทาน พลตรี ชัยยุทธ อินทจาร ผู้เชิญรับเชิญไว้ เมื่อเสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งภัทรบิฐให้เชิญตามเสด็จ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานใบมะตูมคืนแก่พันโท สมชาย กาญจนมณี แล้วเสด็จเข้าริ้วขบวนไปยังพระที่นั่งภัทรบิฐ โดยมีคณะพราหมณ์โปรยข้าวตอก ดอกไม้ นำเสด็จ
    เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับบนพระที่นั่งภัทรบิฐภายใต้พระนพปฏลมหาเศวตฉัตรแปรพระพักตร์สู่ทิศบูรพา พลตรี ชัยยุทธ อินทจาร เชิญพระนพปฏลมหาเศวตฉัตรอยู่ด้านซ้ายพระที่นั่งภัทรบิฐแถวหน้า พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เข้าเฝ้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ที่พระหัตถ์ด้วยพระมหาสังข์พิธีพราหมณ์ ถวายใบมะตูมทรงทัด พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ กล่าวเวทสรรเสริญเปิดศิวาลัยไกรลาส พราหมณ์เป่าสังข์ พราหมณ์เปิดศิวาลัยไกรลาส จบ กราบบังคมทูลถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องขัตติยราชวราภรณ์ และเครื่องขัตติยราชูปโภค ตามลำดับ พระราชพิธีดังกล่าวถือเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด ทรงเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ หลังจากนี้การออกพระนามทั้งหมดว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    นายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ เชิญพระสุพรรณบัฏจารึกพระปรมาภิไธยจากพระแท่นมณฑล มอบพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวาย ขณะนี้พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย แตร มโหระทึก และดุริยางค์ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารปืนใหญ่ยิงปืนมหาฤกษ์ มหาชัย มหาจักร มหาปราบยุค กระบอกละ 10 นัด (ตามกำลังวันเสาร์) ที่สนามหญ้าหน้าศาลาสหทัยสมาคม ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่ เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 101 นัด
    พระสงฆ์ในพระอารามทั่วราชอาณาจักร ย่ำระฆัง ถวายชัยมงคล 7 ลา ทรงรับ แล้วพระราชทานนายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ เชิญไปยืนข้างพระที่นั่งเบื้องขวาต้นแถวใน เจ้าพนักงานเชิญเบญจราชกกุธภัณฑ์ ขัตติยราชวราภรณ์ เครื่องขัตติยราชูปโภค และพระแสงจากพระแท่นมณฑล มอบพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ สำหรับทูลเกล้าฯ ถวาย ตามลำดับ ดังนั้น พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ถวายพระสังวาลพราหมณ์ธุรำ ทรงรับแล้วทรงสวมพระเศียร แล้วทรงสอดพระหัตถ์ขวา
    พันโท คึกพล ชมชูเวชช์ ผู้เชิญรับพานไปยืนที่ชั้นลด เบื้องขวาพระราชอาสน์, พระสังวาลนพรัตนราชวราภรณ์ ทรงรับแล้วทรงสวมพระเศียร แล้วทรงสอดพระหัตถ์ซ้าย พันโท จอมไตร กิจประสาน ผู้เชิญรับพานไปยืนที่ชั้นลด เบื้องขวาพระราชอาสน์, พระสังวาลพระนพ ทรงรับแล้วทรงสวมพระเศียร แล้วทรงสอดพระหัตถ์ซ้าย พันตำรวจเอก อนุวัต พิชาดุลย์ ผู้เชิญรับพานไปที่ยืนที่ชั้นลด เบื้องขวาพระราชอาสน์, พระมหาพิชัยมงกุฎ ทรงรับแล้ว ทรงสวม
    ในช่วงนี้พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย แตร มโหระทึก และดุริยางค์ พันตรี วันนิวัติ คำวิลัย ผู้เชิญรับพานแล้วไปยืนเชิญเบื้องขวาพระที่นั่งต้นแถวนอก นายเจริญศักดิ์ คารีขันธ์ ถวายผูกที่พระหนุด้านหน้า แล้วนายมนัส เสือเปลี่ยว ถวายประคองด้านหลัง, พระแสงขรรค์ชัยศรี ทรงรับแล้ว ทรงวางไว้บนโต๊ะข้างพระที่นั่งเบื้องซ้าย พันเอก ณฤทธิ์ เจริญครองสกุล ผู้เชิญรับพานไปยืนที่ชั้นลด เบื้องขวาพระราชอาสน์, พระแส้จามรี ทรงรับแล้ว ทรงวางไว้บนโต๊ะข้างพระที่นั่งเบื้องซ้าย
    พันตรี สมโภชน์ ทรงเจริญ ผู้เชิญรับพานไปยืนที่ชั้นลด เบื้องขวาพระราชอาสน์, พระแส้ขนหางช้างเผือก ทรงรับแล้ว ทรงวางไว้บนโต๊ะข้างพระที่นั่งเบื้องซ้าย พันตรี ธีรเจษฏ์ มลายอริศูนย์ ผู้เชิญรับพานไปยืนที่ชั้นลด เบื้องขวาพระราชอาสน์, ธารพระกรชัยพฤกษ์ ทรงรับแล้วทรงวางไว้บนโต๊ะข้างพระที่นั่งเบื้องขวา พันเอก กิ่งเพชร แก้วสำอางค์ ผู้เชิญรับพานไปยืนที่ชั้นลด เบื้องขวาพระราชอาสน์, พัดวาลวิชนีทรงรับแล้ว ทรงวางไว้บนโต๊ะข้างพระที่นั่งเบื้องขวา
    พันเอก สุทธินันท์ จูบาง ผู้เชิญรับพานไปยืนที่ชั้นลด เบื้องขวาพระราชอาสน์, พระธำมรงค์รัตนวราวุธ ทรงรับแล้วทรงสวมพระดัชนีพระหัตถ์ขวา พันเอก บวงสรวง บุนนาค ผู้เชิญรับพานไปยืนเชิญเบื้องขวาพระที่นั่ง คนที่ 2 แถวใน, พระธำมรงค์วิเชียรจินดา ทรงรับแล้วทรงสวมพระดัชนีพระหัตถ์ซ้าย นาวาอากาศตรี กิติพงศ์ ชลังสุทธิ์ ผู้เชิญรับพานไปยืนเชิญเบื้องซ้ายพระที่นั่ง คนที่ 2 แถวใน, พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ สอดฉลองพระบาทเชิงงอนถวาย ขวาและซ้าย พันตรี กวิน ปราสาทหินพิมาย ผู้เชิญรับพานไปยืนเชิญเบื้องชัยพระที่นั่ง ต้นแถวใน
     พันเอก เพทาย ซังเอียด เชิญพานพระขันหมากทองคำลงยาองค์ใหญ่เครื่องพร้อม และพันเอก สกล สิทธิประภา เชิญพระสุพรรณศรีบัวแฉกไปทอดบนโต๊ะเบื้องขวาพระที่นั่ง จากนั้นไปยืนที่ชั้นลด เบื้องขวาพระราชอาสน์ พลตรี มานพ ลอยเมฆ เชิญพระมณฑปทองคำลงยาพร้อมพานรองมีพระจอก และพันเอก สัญญา สาริบุตร เชิญพระเต้าทักษิโณทกทองคำลงยาองค์เล็กไปทอดบนโต๊ะบนซ้ายพระที่นั่ง จากนั้นไปยืนที่ชั้นลด เบื้องขวาพระราชอาสน์
     พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ เชิญพระแสงดาบฝักทองเกลี้ยง ไปยืนเชิญเบื้องขวาพระที่นั่งคนที่ 2 แถวนอก ธารพระกรเทวรูป ทรงรับแล้วพระราชทาน พล.อ.ต.ศิริพัฒน์ สุขเจริญ ผู้เชิญรับไปยืนเชิญเบื้องซ้ายพระที่นั่ง คนที่ 2 แถวนอก พระแสงจักร ทรงรับแล้วพระราชทาน นายพิธาน เหี้ยมโท ผู้เชิญรับไปยืนเชิญเบื้องขวาพระที่นั่ง คนที่ 3 แถวใน พระแสงตรีศูล ทรงรับแล้วพระราชทาน พ.ท.ไพบูลย์ ผจญแกล้ว ผู้เชิญรับไปยืนเชิญเบื้องซ้ายพระที่นั่ง คนที่ 3 แถวใน
     พระแสงหอกเพชรรัตน ทรงรับ แล้วพระราชทาน พ.ท.เอกชัย คู่กระสัง ผู้เชิญรับไปยืนเชิญเบื้องขวาพระที่นั่งคนที่ 3 แถวนอก พระแสงธนู ทรงรับแล้วพระราชทาน พ.ท.มนตรา ประถมภัฎ ผู้เชิญรับไปยืนเชิญเบื้องขวาพระที่นั่ง คนที่ 4 แถวใน พระแสงดาบเขน ทรงรับแล้วพระราชทาน พล.ต.กัลย์สรรค์ จันทรเสน ผู้เชิญรับไปยืนเชิญเบื้องซ้ายพระที่นั่งคนที่ 4 แถวใน
    พระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตง ทรงรับแล้วพระราชทาน พ.อ.อัศวิน เจริญชัยวัฒน์ ผู้เชิญรับไปยืนเชิญเบื้องขวาพระที่นั่งคนที่ 4 แถวนอก พระแสงของ้าวแสนพลพ่าย ทรงรับแล้วพระราชทาน พล.อ.ต.สุรศักดิ์ กนิษฐานนท์ ผู้เชิญรับไปยืนเชิญเบื้องซ้ายพระที่นั่ง คนที่ 4 แถวนอก พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ถวายอนุษฏภศิวมนตร์จบ พราหมณ์เป่าสังข์และถวายอนุษฏุภวิษณุมนตร์จบ พราหมณ์เป่าสังข์ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ กราบถวายบังคม 3 ครั้ง และถวายพระพรชัยมงคล จบแล้ว พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ กราบถวายบังคม 3 ครั้ง
พระปฐมบรมราชโองการ
     เวลา 12.18 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระปฐมบรมราชโองการว่า "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป"  
    จากนั้น พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ รับพระปฐมบรมราชโองการว่า “ข้าพระพุทธเจ้า ขอรับพระบรมราชโองการสุรสิงหนาท ประถมธรรมิกราชวาจา ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ” พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ กราบถวายบังคม 3 ครั้ง ทรงหลั่งทักษิโณทก ตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาสมเด็จพระราชินี ให้ทรงดำรงราชฐานันดรศักดิ์เป็นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จสู่หน้าพระที่นั่งภัทรบิฐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์ พระราชทานใบมะตูม ทรงเจิม และพระราชทานพระสุพรรณบัฏ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นโบราณมงคลนพรัตน์ราชวราภรณ์ และเครื่องราชอิสริยยศราชูปโภคแก่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปประทับพระราชอาสน์เบื้องซ้ายพระที่นั่งภัทรบิฐ
    จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปลื้องพระมหาพิชัยมงกุฎ พระราชทาน พ.ต.วันนิวัติ คำวิลัย, ทรงปลดพระธำมรงค์รัตนวราวุธ พระราชทาน พ.อ.บวงวราง บุนนาต และพระธำมรงค์วิเชียรจินดา พระราชทาน นาวาอากาศตรี กิติพงศ์ ชลังสุทธิ์ ผู้เชิญรับไปเชิญอยู่ในแถว พ.ท.สมชาย กาญจนมณี ทูลเกล้าฯ ถวายขันทองคำพร้อมพานรอง มีดอกพิกุลทองพิกุลเงิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรยดอกพิกุลทอง พิกุลเงิน พระราชทานพราหมณ์ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ถอดฉลองพระบาทเชิงงอนขวาซ้าย มอบ พ.ต.กวิน ปราสาทหินพิมาย รับไปเชิญอยู่ในแถว เสด็จลงจากพระที่นั่งภัทรบิฐ ทรงโปรยดอกพิกุลทอง พิกุลเงิน พระราชทานพระบรมวงศานุวงศ์ และผู้เข้าเฝ้าฯ ทรงพระดำเนินออกจากพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจัย ทางพระทวารเทวราชมเหศวร พ.ต.อ.ธรรมนิธิ วนิชย์ถนอม มหาดเล็กเชิญพระแสงดาบคาบค่ายตามเสด็จ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระราชอาสน์ สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร ดับเทียนชัย พระสงฆ์สวดคาถาดับเทียนชัย ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร และดุริยางค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ 80 รูป ที่มาเจริญชัยมงคลคาถา และถวายพรพระ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระราชอาสน์ที่เดิม ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เสด็จฯ ไปทรงกราบพระพุทธรูปที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา เสด็จฯ ขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทางพระทวารเทวราชมเหศวร แล้วเสด็จฯ ไปประทับพักพระราชอิริยาบถ ที่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน
    ต่อมา เวลา 14.56 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย สายสะพายนพรัตน์ราชวราภรณ์ สายสร้อยจุลจอมเกล้า เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทางพระทวารเทวราชมเหศวร ลงทางอัฒจันทร์ ด้านพระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าฯ การนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงยืนเฝ้าฯ ด้านตะวันตกหน้าแถวพระบรมวงศานุวงศ์ ใกล้มุมเสาด้านซ้ายพระแท่นพระนพปฏลมหาเศวตฉัตร  
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ภายใต้พระนพปฏลมหาเศวตฉัตร ทรงสวมพระมหาพิชัยมงกุฎบนพระที่นั่ง นายเจริญศักดิ์ คารีขันธ์ ถวายผูกที่พระหนุด้านหน้า นายมนัส เสือเปลี่ยว ถวายประคองด้านหลัง เมื่อพร้อมแล้ว เจ้าพนักงานรัวกรับและเปิดพระวิสูตร เจ้าพนักงานชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ ชาวพนักงานประโคมกระทั่ง แตร มโหระทึก ทหารกองเกียรติยศ ถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะนั้น ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิ่งปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด
    เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกยังหน้าพระวิสูตร  กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ ความว่า "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ มีความปีติ ปราโมทย์ เป็นพ้นประมาณ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ สืบพระบรมราชสันตติวงศ์ ฉลองพระองค์สมเด็จพระบรมชนกนาถ และได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้มาประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล และแสดงความจงรักสวามิภักดิ์ ในใต้เบื้องพระยุคลบาท ในวาระแห่งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 
    ในอุดมศุภสมัยอันพิเศษนี้ ข้าพระพุทธเจ้าเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ จึงขอพระราชทานยกสัจธรรมขึ้นเป็นที่ตั้ง ร่วมจิตถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวง จะตั้งตนตั้งใจไว้ให้มั่นคง ในความซื่อสัตย์สุจริต และความจงรักภักดี จะมุ่งมั่นประพฤติตน ปฏิบัติงาน ตามภาวะฐานะและหน้าที่ของตน ด้วยเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถ เพื่อธำรงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งบรมราชจักรีวงศ์ กับขอพระราชทานตั้งสัตยาธิษฐาน ถวายพระพรชัยมงคล ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และเทวาดิเทพน้อยใหญ่ ซึ่งรักษาสยามรัฐสีมาราชัยสวรรค์ กับทั้งพระบรมเดชานุภาพ แห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์  จงพร้อมกันอำนวยศรีสวัสดิมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ทรงสถิตสถาพรในมไหสูริยสมบัติ เป็นร่มรัตนฉัตรปกประเทศ ให้เป็นบุญเขตอันร่มเย็นเป็นสุข แก่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายและประชาชนถ้วนหน้า ตลอดไป ชั่วกาลนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
    จากนั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือนและราษฎรทุกหมู่เหล่า ความว่า "ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม เนื่องในโอกาสมหามงคลที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงรับบรมราชาภิเษก เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 10 แห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์ เพียบพร้อมด้วยพระบรมราชอิสริยยศ สมบูรณ์ตามขัตติยราชประเพณี ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอพระราชทานกราบบังคมทูลพระกรุณา ในนามคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ด้วยความปีติเกษมโสมนัส และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ 
    นับแต่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ สืบพระบรมราชสันตติวงศ์ ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ อันสถิตเสถียรพระเกียรติคุณให้ขจรไกล ประจักษ์ชัดในน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมด้วยพระเมตตา กรุณา แก่ปวงประชา นำมาซึ่งความผาสุกร่มเย็น ในราชอาณาจักรทั่วทุกทิศานุทิศ พระราชกิจนานาประการ สฤษดิ์สัมฤทธิผล บันดาลประโยชน์สุขยิ่งล้น แก่อาณาประชาราษฎร์และแผ่นดินเสมอมา 
    วันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 เป็นวันมหามงคลของชาติ และปวงประชาชนชาวไทย ปวงข้าพระพุทธเจ้า จะจดจำจารึกไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขอคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพิภพสถานสากล อันมีพระสยามเทวาธิราชเป็นอาทิ ทั้งเดชะพระบารมีแห่งองค์สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช จงดลบันดาลอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงพระเกษมสวัสดิ์ ในสิริราชสมบัติไอศูรย์ สมบูรณ์พระเกียรติคุณขจรไกลไปทั่วทุกทิศานุทิศ พระราชกรณียกิจทรงประสาทประสิทธิ์เพื่อสุขแห่งปวงประชา จงสฤษดิ์ดังพระราชประสงค์ทั่วขอบเขตรัฐสีมา พระมหากรุณาธิคุณ เกื้อหนุนไทยให้ไพบูลย์วัฒนา ทรงพระเจริญจำรูญพระบุญญา พระชนมายุยิ่งยืนนานผ่านเผ้า พระบารมีปกเกล้าเหล่าราษฎร์ชาติไทย ให้มั่นคงสถาพรเรืองวิไล ตราบกาลนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ" 
    นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ความว่า " ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม เนื่องในโอกาสมหามงคล ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เสด็จเถลิงถวัลยราชบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์ เพียบพร้อมด้วยพระบรมราชอิสริยยศ โดยสมบูรณ์ ตามขัตติยราชประเพณี 
    ข้าพระพุทธเจ้า นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา ขอพระราชทานกราบบังคมทูลพระกรุณา ในนามของฝ่ายนิติบัญญัติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ด้วยความปีติโสมนัส และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ นับแต่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เสด็จขึ้นครองราชย์ สืบพระบรมราชสันตติวงศ์ ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในการสืบสาน ต่อยอด และพัฒนาเพื่ออภิบาลพสกนิกร ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความร่มเย็นเป็นสุข ทุกข์ภัยอันตรายใดๆ ทรงขจัดปัดเป่าให้ผ่านพ้นด้วยพระปรีชาสามารถ พระราชวิริยอุตสาหะ และพระราชหฤทัยใส่ในทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์เสมอมามิได้ขาด พระเมตตากรุณายังความปลื้มปีติแก่ปวงประชาทุกหมู่เหล่า 
    วันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 นี้ เป็นวันมหามงคลของปวงชนชาวไทย ทั่วทุกทิศานุทิศ ซึ่งจะจารึกไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย อานุภาพแห่งเทพอันศักดิ์สิทธิ์ เรืองฤทธิ์ในสากลจักรวาล พระสยามเทวาธิราช ดลบันดาลประสิทธิ์พรอันโอภาส ทั้งเดชะพระบารมีแห่งสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า โปรดอภิบาลประทานพร ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทให้ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน พร้อมด้วยพิพิธพรพูนสวัสดิ์ ทรงบำเพ็ญปฏิบัติพระราชกรณียกิจ สฤษดิ์ดังพระราชประสงค์ โดยทศพิธ พระราชกิจจานุกิจยังความผาสุกร่มเย็น พระเกียรติคุณปรากฏเห็นขจรไกล ในสากลทั่วรัฐสีมามณฑล เฉลิมพระเกียรติกำจร พระบารมีปกพสกนิกรทั่วหล้า สฤษดิ์ดำรงในไอยสวรรค์ราชสมบัติ ตราบจิรัฐิติกาล ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ" 
    จากนั้น นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนข้าราชการตุลาการ ความว่า  "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม เนื่องในโอกาสมหามงคลที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงรับบรมราชาภิเษก เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 แห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์ เพียบพร้อมด้วยพระบรมราชอิสริยยศสมบูรณ์ตามขัตติยราชประเพณี ข้าพระพุทธเจ้า นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา ขอพระราชทานกราบบังคมทูลพระกรุณาในนามข้าราชการตุลาการทั้งมวล ด้วยความปีติโสมนัส และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ นับแต่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ สืบพระบรมราชสันตติวงศ์ พระราชกรณียกิจที่ทรงบำเพ็ญปฏิบัติประจักษ์ชัดยิ่งในพระเมตตากรุณาที่ทรงมีต่ออาณาประชาราษฎร์เสมอมา ที่ทุกข์ร้อนโพยภัยทรงห่วงใยพระราชทานความช่วยเหลือแก้ไขให้ผ่านพ้น พระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม ยังความผาสุกร่มเย็นแก่ปวงประชาประเทศชาติ วิวัฒน์พัฒนาด้วยบุญญาบารมี และพระปรีชาสามารถ วันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 เป็นวันมหามงคลที่ปวงข้าพระพุทธเจ้า และประชาชนชาวไทยทั่วทั้งประเทศ จะจารึกไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคลแด่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ขออานุภาพแห่งพระศรีรัตนตรัยและทวยเทพเทวฤทธิ์ทุกสถาน อันมีพระสยามเทวาธิราชเป็นอาทิ จงอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงพระสิริสวัสดิ์เกษมสำราญ เจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเจริญพร้อมพิพิธพรชัยแผ่ไพศาล พระบุญญาบารมีปกผสาน รักษาบ้านเมืองเรืองรุ่งมั่นคง พระราชประสงค์จำนงใดในอันจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทั้งปวง ให้ลุล่วง จงสัมฤทธิ์สฤษดิ์สมดังพระราชหฤทัยมุ่งหมายทุกประการเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ ความว่า "ข้าพเจ้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มาอยู่ในท่ามกลางมหาสมาคม พรั่งพร้อมด้วยทุกท่านจากทุกสถาบันสำคัญของชาติ และได้รับคำอวยพรอันเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต ขอขอบพระทัย และขอบใจในคำอำนวยพรและน้ำใจไมตรีของทุกท่านเป็นอย่างมาก ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้าขอเชิญชวนทุกท่านทุกฝ่ายในมหาสมาคมนี้ และประชาชนชาวไทยทุกคน ได้ตั้งความปรารถนาร่วมกันกับข้าพเจ้าในอันที่จะร่วมกันปฏิบัติงานตามฐานะและหน้าที่แห่งตน โดยยึดเอาประโยชน์ คือ ความเจริญมั่นคงของประเทศชาติ และความผาสุกร่มเย็นของประชาชนเป็นเป้าหมาย ขอคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองรักษาทุกท่าน ให้ประสบความสุขความเจริญ พร้อมด้วยพรอันเป็นมงคลทุกประการ"  
    จบแล้ว เจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร เจ้าพนักงานชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ ชาวพนักงานประโคมกระทั่ง แตร มโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เจ้าหน้าที่เทียบพระที่นั่งราเชนทรยานที่เกยพระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่หน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และเทียบเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ที่ท่าราชวรดิฐ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปลื้องพระมหาพิชัยมงกุฎบนพระที่นั่ง โดยมีนายเจริญศักดิ์ คารีขันธ์ และนายมนัส เสือเปลี่ยว เป็นผู้ถวายการปฏิบัติ จากนั้นเสด็จลงจากพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทางพระทวารเทวราชมเหศวร แล้วเสด็จฯ ไปประทับที่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน
ทรงประกาศเป็นพุทธศาสนูปถัมภก
    เวลา 16.38  น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกจากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย สายสะพายนพรัตน์ราชวราภรณ์ สายสร้อยจุลจอมเกล้า ทรงพระมาลาเส้าสูง เสด็จลงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทางพระทวารเทวราชมเหศวร และเสด็จฯ ไปยังเกยหน้าพระทวารเทเวศรรักษา ประทับพระราชยานพุดตานทอง เสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนพระบรมราชอิสริยยศ เสด็จฯ ไปทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก
    เจ้าพนักงานรัวกรับ ครั้งที่ 1 ริ้วขบวนฯ ส่วนนำกลับหลังหัน เจ้าพนักงานรัวกรับ ครั้งที่ 2 ริ้วขบวนฯ แบกอาวุธ พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง ผู้อำนวยการขบวนพระบรมราชอิสริยยศ กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตยาตราริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เจ้าพนักงานรัวกรับ ครั้งที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยาตราริ้วขบวน เจ้าพนักงานรัวกรับให้สัญญาณ ชาวพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ และกลองชนะ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
    เมื่อยาตราริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ เทียบพระราชยานพุดตานทองที่เกยประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปลื้องพระมาลาเส้าสูง แล้วเสด็จขึ้นชานพระอุโบสถ พลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองพระราชพิธี กราบบังคมทูลพระกรุณาทรงพระราชอุทิศเครื่องราชสักการะ ต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน ธูปเงิน เทียนทอง ให้ผู้แทนกระทรวงมหาดไทยเชิญไปถวายเป็นพุทธบูชาปูชนียสถานสำคัญตามต่างจังหวัดทั่วประเทศ 10 แห่ง ได้แก่ พระพุทธบาท วัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี, พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก, พระบรมธาตุ วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย, พระธาตุหริภุญชัย วัดพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน, พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม, พระบรมธาตุ วัดพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช, พระธาตุพนม วัดพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม, พระธาตุ วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่, พระธาตุเชิงชุม วัดพระธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนคร, พระธาตุไชยา วัดพระบรมธาตุไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงถวายต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน ธูปเทียนแพ แล้วจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร, พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และพระพุทธเลิศหล้านภาไลย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ ทรงศีล สมเด็จพระสังฆราช ถวายศีล จบ
    การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก ความว่า  "ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ แต่เดิมมาข้าพระพุทธเจ้าได้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสและได้นึกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะด้วยวิธีนั้นๆ ฉะนั้น บัดนี้ข้าพระพุทธเจ้าได้เถลิงถวัลยราชสมบัติ บรมราชาภิเษกแล้ว จึงขอมอบตัวแด่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระสังฆเจ้า จะได้รับการจัดการและให้การคุ้มครองรักษาพระพุทธศาสนาโดยชอบธรรมตลอดไป ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ขอพระสงฆ์จงจำไว้ด้วยดีว่า ข้าพเจ้าเป็นพุทธศาสนูปถัมภกเถิด" 
    พระสงฆ์ 80 รูปเปล่งสังฆวาจา "สาธุ" 3 ครั้ง แล้วถวายอดิเรก ออกจากพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงกราบหน้าเครื่องนมัสการ เสด็จออกจากพระอุโบสถไปยังปราสาทพระเทพบิดร เสด็จเข้าปราสาทพระเทพบิดร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะและทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย กราบถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช
    เสด็จออกจากปราสาทพระเทพบิดร ทรงพระมาลาเส้าสูง เสด็จฯ ไปยังประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ประทับพระราชยานพุดตานทองเข้าขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ไปยังเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท เจ้าพนักงานรัวกรับ ครั้งที่ 1 ริ้วขบวน ฯ ส่วนนำกลับหลังหัน เจ้าพนักงานรัวกรับ ครั้งที่ 2 ริ้วขบวนฯ แบกอาวุธ พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง ผู้อำนวยการขบวนพระบรมราชอิสริยยศ กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตยาตราริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศไปยังพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท
    เมื่อเจ้าพนักงานรัวกรับครั้งที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยาตราริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเจ้าพนักงานรัวกรับให้สัญญาณ ชาวพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ และกลองชนะ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
    จากนั้นยาตราริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ เทียบพระราชยานพุดตานทองที่เกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทรงเปลื้องพระมาลาเส้าสูง เสด็จเข้าพระที่นั่งราชกรัณยสภา เพื่อประทับพักพระราชอิริยาบถ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี เสด็จขึ้นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทางบันไดมุขกระสัน พระที่นั่งพิมานรัตยา เมื่อเสด็จถึง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร, พระบรมอัฐิและพระอัฐิ ที่พระแท่นมณฑลมุก ทรงกราบ จุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการี
    ทรงกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิ รวม 22 พระโกศ ที่หน้าพระแท่นพระนพปฏลมหาเศวตฉัตร ได้แก่ สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก, รัชกาลที่ 1-9, สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี, สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี, สมเด็จพระศรีสุลาลัย, สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี, สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า, สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7, สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก, สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร, สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพ็ชรบุรีราชสิรินธร, สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
    จากนั้น ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ พระสงฆ์สวดมาติกา จบแล้ว เจ้าพนักงานลาดพระภูษาโยง เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตรแด่พระสงฆ์ จำนวน 11 รูป เที่ยวแรก ประทับพระราชอาสน์ พระสงฆ์สดับปกรณ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก  ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่ง เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์อีก 11 รูป ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์ เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตร ประทับพระราชอาสน์ พระสงฆ์สดับปกรณ์ แล้วออกจากพระที่นั่ง
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร พระบรมอัฐิและพระอัฐิ เสด็จฯ ไปทรงกราบพระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการี แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทลงทางบันไดมุขกระสัน พระที่นั่งพิมานรัตยา ทรงพระดำเนินไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เสด็จขึ้นพระที่นั่งจักรีมหาปราสาททางบันไดทิศตะวันออก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
    ห้วงระหว่างที่ขบวนพระราชอิสริยยศไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เจ้าพนักงานตั้งบายศรีแก้ว ทอง เงิน พราหมณ์เบิกแว่น ข้าราชบริพารในพระองค์รับแว่นเวียนเทียนสมโภชหมู่พระมหามณเฑียร ใช้เวลา 40 นาที
    ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณโดยรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีพสกนิกรทุกหมู่เหล่ามาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอย่างเนืองแน่น โดยพร้อมใจกันสวมเสื้อเหลืองและถือพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงความจงรักภักดีและร่วมกันเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแย้มพระสรวล โบกพระหัตถ์ให้ประชาชน พสกนิกรน้ำตารื้นด้วยความปลื้มปีติในหัวใจ.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"