จ่อรับรองผลส.ส.เขต กกต.ปล่อยผี‘ธนาธร’สอยทีหลัง/อนค.เทียบเคส‘ดอน’เชื่อไร้ปัญหา


เพิ่มเพื่อน    

 กกต.พร้อมประกาศรับรองผล ส.ส.เขต จ่อปล่อยผี "ธนาธร" แล้วสอยทีหลัง อนาคตใหม่เชื่อไร้ปัญหายกเคส "ดอน" รอด เหตุเมียโอนหุ้นให้เอกชน "เรืองไกร" หวังศาล รธน.มีทางออกสูตรปาร์ตี้ลิสต์ 

    ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม เวลา 10.00 น. คณะกรรมการการเลือกตั้งที่มีนายอิทธิพร บุญประคอง เป็นประธาน ได้นัดประชุมนัดพิเศษต่อเนื่องจากวันที่  5 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาแนวทางการประกาศรับรองการเลือกตั้ง ส.ส. ก่อนที่จะดำเนินการเตรียมประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ โดยสำนักงาน กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้งได้นำผลคะแนนของผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีคะแนนลำดับที่ 1 ของแต่ละเขตมานำเสนอเพื่อให้ที่ประชุมได้ตรวจทานความเรียบร้อยและความสมบูรณ์ของข้อมูล ทั้งนี้ที่ประชุมได้ใช้เวลาหารือประมาณ 2 ชั่วโมงโดยไม่มีการแถลงหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ
    มีรายงานว่าที่ประชุม กกต.ได้นัดประชุมในวันที่ 7 พ.ค. เวลา 10.30 น. โดยจะตรวจทานความเรียบร้อยของข้อมูลเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นช่วงบ่ายจะแถลงข่าวประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตอย่างเป็นทางการร้อยละ 95 ซึ่ง กกต.จะประกาศรายชื่อผู้ชนะการเลือกตั้งของแต่ละเขตที่ได้รับการรับรอง
    สำหรับคำร้องคัดค้านการรับรองผล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อซึ่ง กกต.จะประกาศในวันที่ 8 พ.ค.นี้  เบื้องต้นมีแนวโน้มว่า กกต.จะประกาศรับรองผลไปก่อน รวมถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกร้องคัดค้านการรับรองผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ ก็จะถูกประกาศรับรองผลไปก่อนด้วย
    อีกทั้งในวันที่ 7 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดให้เลขาธิการวุฒิสภาจัดส่งสำเนาบันทึกการประชุมของคณะกรรมาธิการวิสามัญของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)? ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)? ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 และเอกสารที่เกี่ยวข้องมายื่นต่อศาล  รวมทั้งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดส่งสำเนาบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)? ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 91 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 มาให้ศาลเช่นกัน เพื่อให้ศาลพิจารณาลงมติในวันที่ 8 พ.ค.ว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 หรือไม่
    ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ในการพิจารณาวินิจฉัยว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.  มาตรา 128 ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 หรือไม่ โดยเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา  231 (1) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา 7 (1) โดยได้กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในวันที่ 8 พ.ค. เวลา 09.30 น. ว่าคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญน่าจะออกมาในลักษณะ 2 ลักษณะ คือขัดหรือแย้งต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญทั้งมาตรา หรือขัดเฉพาะอนุมาตราเท่านั้น และส่วนใดไม่ขัดหรือแย้งก็บังคับใช้ต่อไป ซึ่ง กกต.มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาล และควรรอศาลวินิจฉัยออกมาก่อนถึงค่อยประกาศรับรอง ส.ส. เนื่องจากยังมีเวลาจนถึงวันที่ 9 พ.ค.ถึงครบกำหนด 150 วัน     
    "หาก กกต.ยืนยันที่จะชิงประกาศรับรอง ส.ส.ก่อนในวันที่ 7 พ.ค.ตามที่มีข่าวออกมา จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน รวมทั้งจะทำให้เกิดเดดล็อกทางการเมือง และจะมีผลกระทบต่อการประกาศรายชื่อ ส.ว.ด้วย ดังนั้นจึงขอให้ กกต.คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม และอย่าดันทุรังพยายามทำให้ประเทศเกิดทางตันทั้งที่มีทางออก พร้อมทั้งฝากความหวังไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยหวังว่าศาลจะมีอภินิหารทางกฎหมาย เพื่อให้เกิดข้อยุติได้และเพื่อให้ประเทศมีทางออก" นายเรืองไกรระบุ
    นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่า กกต.เตรียมประกาศรับรองความเป็น ส.ส.ของนายธนาธรไปก่อน แม้การไต่สวนคุณสมบัติความเป็นผู้สมัคร ส.ส.จะยังมีข้อสงสัยต่อการถือครองหุ้นในกิจการสื่อมวลชนว่า กรณีดังกล่าวมีความพยายามให้คดีปกติเป็นเรื่องของการเมือง เพื่อสกัดไม่ให้นายธนาธรเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตามเมื่อ กกต.ตรวจสอบและส่งเรื่องไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณา เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาจนทำให้นายธนาธรต้องพ้นจากความเป็น ส.ส. เนื่องจากก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยกรณีคู่สมรสรัฐมนตรีถือหุ้นในกิจการเอกชน เกินร้อยละ 5 ในกรณีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ความเป็นรัฐมนตรีไม่สิ้นสุดลง เนื่องจากนางนรีรัตน์ ปรมัตถ์วินัย ภรรยาของนายดอนมีการโอนหุ้นดังกล่าวไปก่อนแล้ว ซึ่งในกรณีของนายธนาธรพบการโอนหุ้นทั้งหมดไปแล้วเช่นกัน
    รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าวว่า ตนและพรรคไม่หนักใจกับการตรวจสอบที่จะเกิดขึ้น เพราะศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แม้ก่อนหน้านี้ศาลฎีกาจะเคยพิพากษาให้ผู้สมัคร  ส.ส.ของพรรคขาดคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส. เพราะมีตำแหน่งในบริษัทก่อสร้างซึ่งมีวัตถุประสงค์พื้นฐานว่าจะทำกิจการที่เกี่ยวกับสื่อมวลชน ดังนั้นอาจจะนำมาพิจารณาเป็นเพียงรายงานประกอบเท่านั้น และเป็นกรณีที่เป็นคดีเฉพาะรายเท่านั้น 
    ส่วนกรณีที่นายทะเบียนพรรคอนาคตใหม่ปฏิเสธการรับสมัครเป็นสมาชิกพรรคของ ร.อ.ทรงกลด  ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็มนั้น นายชำนาญกล่าวว่า กรณีดังกล่าวสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อนายธนาธรได้ตามระเบียบของพรรค แต่ในเบื้องต้นพบว่า ร.อ.ทรงกลดนั้นมีความเป็นปฏิปักษ์กับพรรคอย่างชัดเจน  กรณีที่เคยยื่นเรื่องให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ทั้งนี้ตามระเบียบของพรรคกำหนดว่า บุคคลที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคต้องมีอุดมการณ์เดียวกันกับพรรคและไม่มีประเด็นที่เป็นปฏิปักษ์ ดังนั้นเรื่องดังกล่าวขอให้พิจารณาในรายละเอียด อย่ามองเพียงแค่ประเด็นการสร้างกระแสของผู้ประสงค์จะยื่นสมัครเป็นสมาชิกพรรคเท่านั้น
    ขณะที่ ร.อ.ทรงกลดได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อปรับความเข้าใจกับกลุ่มเพื่อนๆ 5 พันคนในเฟซบุ๊ก หลังจากมีการสอบถามและวิพากษ์วิจารณ์กรณีออกมาประกาศเปิดยุทธการ "อุทธรณ์รัก" เพื่อขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งก่อนหน้านั้นได้ถูกนายทะเบียนพรรคทำหนังสือแจ้งปฏิเสธการรับสมัครมาแล้วว่า สาเหตุที่อยากเข้าไปเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่ได้เสียงของพรรคคนรุ่นใหม่สนับสนุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งคนเหล่านี้ถือว่าเป็นอนาคตของชาติที่จะนำพาประเทศต่อไป 
         ส่วนที่เคยโพสต์ด่าอนาคตใหม่นั้น เห็นว่าบางเรื่องนายธนาธรก็พูดถูก แต่ด้วยบุคลิกส่วนตัวที่บางครั้งก้าวร้าว ปฏิเสธสังคมและโลกสวยเกินไป ดังนั้นจึงต้องได้คนมีประสบการณ์อย่างตนเข้าไปช่วย ดังนั้นการที่จะเข้าไปรู้ว่าพรรคนี้จะทำอะไรก็ต้องเข้าไปในพรรคให้ได้ก่อน ด่านแรกคือต้องสมัครสมาชิก  แม้จะถูกปฏิเสธมาแล้วแต่จะยื่นอุทธรณ์ต่อไป นอกจากนี้เรื่องที่เคยยื่นยุบอนาคตใหม่นั้น ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ทำไปจริงๆ แต่จะให้แก้ไขอย่างไรเพราะเรื่องผ่านไปแล้ว ตอนนี้อนาคตใหม่อาจจะคิดมากจากพฤติกรรมของตนที่เป็นปฏิปักษ์พรรค เพราะเคยไปยื่นยุบพรรคเขามาก่อน คงโกรธ หวั่นเกรง และหวาดระแวง ซึ่งเป็นใครก็ต้องคิดแบบนี้ แต่อย่างหนึ่งขอให้เชื่อได้เลยว่า เมื่อตนไปอยู่พรรคไหนแล้วจะไม่ทำชั่วอย่างแน่นอน
    "ถ้าผมได้อยู่พรรคอนาคตใหม่แล้วเพื่อนผมยังอยู่พรรคประชาธิปัตย์ หรืออยู่พรรคแนวร่วมลุงตู่ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ข้อดีคือผมพร้อมจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างพรรคแนวร่วมลุงตู่กับพรรคอนาคตใหม่  เพราะผมรู้ว่าพรรคแนวร่วมลุงตู่คิดยังไง แต่ไม่รู้ว่าอนาคตใหม่คิดยังไง จึงอยากเข้าไปเป็นตัวเชื่อมประสาน เนื่องจากนายธนาธรมีจุดอ่อนคือ พูดจาแต่ละคำชวนให้ทะเลาะอยู่เรื่อย เหมือนจะบอกว่า พร้อมจะทำงานนอกสภาก็ได้ แปลความได้ว่าจะส่งม็อบลงถนนหรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนั้นความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นและกลับมาวุ่นวายกันอีก ดังนั้นผมจึงพร้อมจะไปช่วยเหลือทำงานการเมือง ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น หรือถ้าเกิดขึ้นผมก็มีวิธีที่จะทำให้ผู้ชุมนุมปลอดภัยที่สุด" ร.อ.ทรงกลดระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"