เพื่อชาติสับเละตั้ง'ส.ว.ต่างตอบแทน'ใบเสร็จความเห็นแก่ได้


เพิ่มเพื่อน    

8 พ.ค. 62 - น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า การลาออกของรัฐมนตรี 17 คน และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 90 คน เพื่อมารอการแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต่างตอบแทนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา คือประเด็นใหญ่ที่สังคมไทยช็อกและต่างตั้งคำถามว่า คนดีคืออะไร ปฏิรูปประเทศคืออะไร นักการเมืองจากการเลือกตั้งเลว แล้วนักการเมืองจากแต่งตั้งตนเองและเพื่อนพ้อง เพื่อมาเลือกตนเองเป็นนายกฯ คือพฤติกรรมของคนเช่นใด 
    
"การที่พี่แต่งตั้งน้องที่ขาดความรับผิดชอบคือการคอร์รัปชันไหม การแต่งตั้งคนที่เคยแต่งตั้งเป็น สนช. ที่ขาดความรับผิดชอบ จากเวลาทำงาน 400 วัน ขาดงาน 394 วัน มาทำงาน 6 วัน เพื่อมารับเงินเดือนที่ได้มาจากภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศ เดือนละ 113,680 บาท รวม 5 ปี 6,813,600 บาท นี่คือใบเสร็จของยอดเงินที่ตั้งใจจะเบียดบังหลวงหรือไม่ หรือว่า สนช.ที่ประยุทธ์แต่งตั้งที่มาทำงาน 6 วัน จากวันทำงาน 400 วันคนนั้นจะเลือกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี คือความดีความชอบที่ประยุทธ์จะตอบแทนโดยการแต่งตั้งให้เป็น ส.ว. เพื่อตอบแทนเลือกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ ให้สมกับคำจำกัดความ ส.ว.ต่างตอบแทน" น.ส.เกศปรีชา ระบุ

โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ใครที่เคยกล่าวอ้างรังเกียจสภาผัวเมีย แล้ว ส.ว.ชุดนี้คือสภาของวงวารว่านเครือของผู้ที่เอาเงินภาษีของชาติไปแลกเพื่อสืบทอดอำนาจหรือไม่ ทั้งที่ประเทศอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ไตรมาสแรกของปีนี้การส่งออกติดลบ เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ต่ำกว่าเป้า ซึ่งแสดงว่าประชาชนอยู่ในภาวะที่ไม่มีจะบริโภค แต่เพื่อความต้องการสืบทอดอำนาจตนเองของประยุทธ์ จึงไม่คิดถึงผลประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ กลับนำภาษีจำนวน 1,300,000,000 บาท ที่ใช้ในการคัดเลือก ส.ว. ทั้งๆ ที่เเทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย และเงินเดือนที่จะต้องจ่ายทั้งสิ้น 1,703,400,000 บาท มาตอบแทน ส.ว. 250 คนใน 5 ปี หรือว่าจะเป็นความจริงที่ว่า “คนสูงวัยความละอายหมดไปใช่หรือไม่”

ทั้งนี้ การแต่งตั้ง ส.ว. ต่างตอบแทนของผู้ที่ต้องการสืบทอดอำนาจครั้งนี้ คือใบเสร็จของความเห็นแก่ได้ส่วนตน การเบียดบังภาษีเพื่อพวกพ้องส่วนตน ความไม่อายที่จะเป็นคนเลว ความไร้ความรับผิดชอบ และเป็นการทำลายองคาพยพทุกภาคส่วนของสังคมไทย ทั้งคุณธรรม จริยธรรม ความรักชาติ ของประเทศ โดยผู้ที่ต้องการสืบทอดอำนาจ ที่สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ศีลธรรมไม่ต้องคำนึง พูดเท็จเพื่อเป้าหมายจนเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมคุ้นชิน แม้ผลการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ที่ผ่านมาเสียงประชาชนส่วนจะปฏิเสธการสืบทอดอำนาจถึง 19,257,765 เสียง แต่เสียงส่วนใหญ่ของประเทศเป็นสิ่งที่คนไร้ความละอาย อยากสืบทอดอำนาจไม่ยอมรับฟัง สังคมไทยจะยอมอยู่ในสังคมที่ให้คนส่วนน้อยใช้กำลังอำนาจมาบังคับคนส่วนใหญ่ปฏิบัติตามแบบกลับหัวกลับหางเช่นนี้หรือ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"