ร.10เสด็จฯพระราชพิธีพืชมงคล


เพิ่มเพื่อน    

  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ   ทรงประกอบพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พุทธศักราช 2562 พสกนิกรเฝ้าฯ รับเสด็จเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” กึกก้อง ในหลวงทรงแย้มพระสรวลทักทาย ยังความปลาบปลื้มปีติอย่างหาที่สุดมิได้ “วธ.” แจงการจัดงานมหรสพสมโภชเนื่องในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 7 วัน เผย 10 ชาติส่งการแสดงเข้าร่วมเทิดไท้

    เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 เวลา 16.15 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง ทรงประกอบพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พุทธศักราช 2562                      
       รถยนต์พระที่นั่งเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จขึ้นพระอุโบสถ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี ทรงยืนหน้าพระเก้าอี้ที่ประทับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ พระพุทธเลิศหล้านภาไลย ทรงคม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ ทรงศีล พระราชาคณะประธานสงฆ์ถวายศีล จบ 
    เสด็จฯ ไปที่ธรรมาสน์ศิลา ทรงพระสุหร่าย สรงพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9, พระคันธารราษฎร์ รัชกาลที่ 5, พระคันธารราษฎร์ใหญ่ประทับนั่ง 1 องค์, พระคันธารราษฎร์จีนประทับนั่ง 1 องค์ ประทับยืน 1 องค์, พระคันธารราษฎร์บันได, พระคันธารราษฎร์รวงข้าว, พระคันธารราษฎร์จีน รัชกาลที่ 10  ประทับนั่ง 1 องค์, พระคันธารราษฎร์ปางขอฝน  รัชกาลที่ 10 ประทับนั่ง 1 องค์, ประทับยืน 1 องค์ และพระคันธารราษฎร์ รัชกาลที่ 10 ประทับยืน 1 องค์ ทรงประพรมพืชต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะ 2 ข้างนั้นด้วย ทรงโปรยข้าวตอกและถวายพวงมาลัยที่พระพุทธรูปนั้นทุกองค์ 
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธคันธารราษฎร์ ทรงอธิษฐานขอความสมบูรณ์แห่งพืชผลราชอาณาจักร ประทับพระราชอาสน์ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ อ่านประกาศพระราชพิธีพืชมงคล  จบ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
    พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบ ทรงหลั่งน้ำสังข์ทรงเจิม นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทำหน้าที่พระยาแรกนา และพระราชทานพระธำมรงค์กับพระแสงปฏัก นายอนันต์รับพระราชทานแล้วออกไปนั่งที่เดิม ขณะพระราชทานน้ำสังข์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา 
    ทรงหลั่งน้ำสังข์ ทรงเจิมผู้เป็นเทพีในการแรกนาขวัญ น.ส.กันยารัตน์ นาคกูล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, น.ส.ดวงพร งามประดิษฐ์ นักทรัพยากรบุคคลปฏิบัติการ กรมวิชาการเกษตร, น.ส.ณัฐชยา ศรีสุขสวัสดิ์ นักวิชาการปฏิรูปที่ดินชำนาญการ กรมวิชาการเกษตร และ น.ส.อาทิตยา ทองแกมแก้ว นักวิชาการเกษตรชำนาญการ กรมส่งเสริมการเกษตร 
    เมื่อทรงเจิมเทพีเสร็จแล้ว เสด็จฯ ไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์ ประทับพระราชอาสน์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระอุโบสถ เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ เสด็จออกจากพระอุโบสถไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จพระราชดำเนินกลับ   
          โดยในวันที่ 9 พ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯ ทรงเป็นประธานงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ทั้งนี้ พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพิธีการซึ่งกระทำขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคล และส่งเสริมบำรุงขวัญเกษตรกร เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการเพาะปลูก ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในเดือนหกของทุกปี อันถือเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มต้นฤดูกาลแห่งการทำนา 
          ในวันประกอบพระราชพิธี จะได้มีการพยากรณ์ถึงความสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหารของประเทศ พระยาแรกนาได้ตั้งสัตยาธิษฐานเสี่ยงทายหยิบผ้านุ่งแต่งกาย ซึ่งแต่ละผืนมีความหมายแตกต่างกันออกไป ในการนี้ พระโคกินเลี้ยงพราหมณ์จะเสี่ยงทายของกิน 7 สิ่งที่ตั้งเลี้ยงพระโค
        ทั้งนี้ บริเวณถนนหน้าพระลานและรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ได้มีพสกนิกรสวมเสื้อเหลืองเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแย้มพระสรวลทักทายพสกนิกรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างเนืองแน่น ต่างปลาบปลื้มปีติได้ชื่นชมพระบารมี
    วันเดียวกัน ที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และรองนายกฯ ได้นำแจกันดอกไม้ไปถวายพระพรหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ และถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมราชินี รวมทั้งมอบผู้แทนถวายแจกันดอกไม้เพื่อถวายพระพรพระบรมวงศ์ ในโอกาสมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย สถาปนาและเฉลิมพระนามพระบรมวงศ์
       ขณะเดียวกัน ที่ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงวัฒนธรรม ครั้งที่ 5/62 ว่าที่ประชุมได้รับรายงานความคืบหน้าการเตรียมการจัดงานมหรสพสมโภชเนื่องในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ 22-28 พ.ค. รวมเวลา 7 วัน ณ ท้องสนามหลวง และ ณ สถานที่จัดงานส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด โดยมีพิธีเปิดวันที่ 22 พ.ค. เวลา 18.30 น. พร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีการแสดงชุดต่างๆ เช่น รำถวายพระพรอาศิรวาททวยราษฎร์น้อมจอมราชัน การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุดพระบารมีมิ่งฟ้ารามาวตาร จำนวน 3 ตอน ได้แก่ ตอนสถลมาศเฉลิมราชจักรี โดยมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง ตอนปราบกลอสุรีลงกา โดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และตอนบรมราชาภิเษกพระราม โดยสำนักการสังคีตกรมศิลปากร และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ซึ่งถ่ายทอดสดพิธีเปิดงานทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9, ช่อง 11, ช่อง 5 TGN ซึ่งออกอากาศ 170 ประเทศทั่วโลก
        นายวีระกล่าวต่อว่า เป็นที่น่ายินดี ขณะนี้มีประเทศต่างๆ 10 ประเทศตอบรับเข้าร่วมมหกรรมการแสดงนานาชาติเฉลิมพระเกียรติในวันที่ 27 พ.ค. ณ เวทีกลางสนามหลวง ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย จัดการแสดงระบำหน้ากาก, ระบำศิวนาฏราช และระบำเอกภาพบนความหลากหลาย, ประเทศเมียนมา จัดแสดงระบำในราชสำนัก, ประเทศเวียดนาม จัดแสดงประกอบการขับร้องเพลงสวัสดีเวียดนาม และระบำพื้นบ้านเวียดนาม, ประเทศสิงคโปร์ การแสดงชุดระบำอวยพรจากรวมชาติพันธุ์สิงคโปร์, ประเทศเกาหลีใต้ การแสดงระบำพัดพูเชชุม และยังมีการแสดงจากประเทศอินเดีย, ประเทศกัมพูชา, ประเทศมาเลเซีย, ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศจีน
        นายวีระกล่าวอีกว่า เวทีการแสดงในมหรสพสมโภชแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เวทีกลาง ณ สนามหลวงแสดงตั้งแต่เวลา 18.30-21.30 น. ตลอด 7 วัน มีการแสดงที่น่าสนใจ อาทิ โขนชุดพระบารมีมิ่งฟ้ารามาวตาร, การละเล่นของหลวง, มหาดุริยางค์สากลรวมใจภักดิ์ดนตรีสากล, มหาดุริยางค์ไทยแห่งรัตนโกสินทร์ดนตรีไทย, มหกรรมลูกทุ่งไทยเทิดไท้องค์ราชามหาวชิราลงกรณ, การแสดงละครในสวนฝันผสานใจภักดิ์ถวายองค์ราชัน รับบทโดยสินจัย เปล่งพานิช, โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรณธนะภูติ และเบลล่า-ราณี แคมเปน รวมถึงเบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ร่วมแสดงและขับร้องเพลง กำกับการแสดงโดยสุประวัติ ปัทมสูต ศิลปินแห่งชาติ
นอกจากนี้ ตลอด 7 วัน ช่วงเวลา 21.30-23.00 น. มีการแสดงไฟประดับประกอบแสงสีเสียงชุดแสงแห่งพระมหากรุณาธิคุณ รวมทั้งมีกิจกรรมตลาดวัฒนธรรม สาธิตการทำอาหารและขนมไทย ส่วนเวทีย่อยมี 2 เวที ได้แก่ เวทีฝั่งศาลฎีกา และฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงเวลา 17.30-18.30 น. เช่น หุ่นละครเล็กโจหลุยส์, โขนสด, กระตั้วแทงเสือ, มหกรรมเพลงพื้นบ้านประกอบด้วย ลำตัด, เพลงฉ่อย, อีแซว, เพลงทรงเครื่อง, ละครชาตรี, โขนโรงเรียนสาธิต มศว, โขนมูลนิธิคึกฤทธิ์, โขนโรงเรียนอำนวยวิทย์, หนังใหญ่วัดขนอน, หนังตะลุง (ภาคใต้), หุ่นสายเสมา ขณะที่ในส่วนภูมิภาค กระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย จัดมหรสพสมโภชพร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 22 พ.ค. เวลา18.30 น. เป็นต้นไป ณ พื้นที่จัดงานทุกจังหวัด
     ด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่พระราชทานเงินแก่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 631 ล้านบาท ให้กับ 11 รพ.ในสังกัดกระทรวงและกรมการแพทย์ โดยจะนำเงินพระราชทานที่ได้รับนี้ไปจัดซื้อคุรุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยจะมีคณะกรรมการจัดซื้อ และถวายรายงานและความคืบหน้าเป็นระยะ คาดว่าจะมีการจัดซื้อแล้วเสร็จภายใน 90 วัน โดยครุภัณฑ์ที่จัดซื้อมีตั้งแต่เครื่องตรวจมะเร็งเต้านม และเครื่องช่วยหายใจ เป็นต้น 
    นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ โดยสถาบันได้รับเงินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 83.4 ล้านบาท ซึ่งมีพระบรมราโชบายให้นำเงินจำนวนนี้ไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อประโยชน์ของประชาชน โดยอุปกรณ์การแพทย์ต้องมีความทันสมัย โดยสถาบันจะจัดซื้ออุปกรณ์ทั้งสิ้น 27 รายการ ซึ่งเป็นสิ่งที่สถาบันขาดแคลน โดยคาดว่าจะเร่งให้มีการจัดซื้อแล้วเสร็จภายใน 90 วัน 
    นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลาง กล่าวว่า รพ.กลางได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเงิน 35 ล้านบาท โดยจะนำมาจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยและจำเป็นในโรงพยาบาลเพื่อประโยชน์ของประชาชนที่มารับบริการ 
    นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ในส่วนของศิริราชพยาบาล ได้รับพระราชทานเงินเพื่อจัดซื้อคุรุภัณฑ์ สำหรับอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษาหลายร้อยล้านบาทจนครบ ซึ่งเป็นอาคารที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 พระราชทานนามไว้ โดยคุรุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จะจัดซื้อนี้จะมีความทันสมัย เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาสของโรงพยาบาลศิริราช และเชื่อว่าเงินพระราชทานที่ให้กับ รพ.ทั้ง 27 แห่งนี้ จะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"