ก่อนหน้านี้ปล่อยให้ทนายความส่วนตัวออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนถึงปมปัญหาธุรกิจอาหารเสริมที่ทำร่วมกับ ต้นหอม-ศกุตลา เทียนไพโรจน์ และ มะตูม-เตชินทร์ พลอยเพชร โดยวันนี้ ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ ได้มีโอกาสออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง  โดยยืนยันว่าอยากให้เรื่องนี้จบแบบสันติวิธี ทุกฝ่ายไม่มีใครเสียเปรียบใคร

          “ในใจปูก็หวังว่าเราจะหาทางออกที่จบโดยสันติวิธีได้ ปูอยากให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ ในช่วงที่ไม่ได้อยู่เมืองไทย ก็ได้ไตร่ตรองแล้วก็พิจารณาหลายๆ อย่าง ก็รู้สึกว่าใจปูรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ก็คือต้องการให้ทุกฝ่ายจบอย่างแฟร์ แล้วก็สันติวิธี สำหรับปูไม่มีทัศนคติอื่น แล้วปูก็มีแต่ความหวังว่าเราจะสามารถหาทางออกที่แฟร์กับทุกฝ่ายได้ ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของทางกฎหมายแล้วกัน

          จะมีนัดขึ้นศาลวันไหน ปูยังไม่ทราบเลยค่ะ ถ้าเอาตามจริงปูปล่อยหน้าที่นี้ให้เป็นของทนาย การทำงานของเราจะได้ไม่แทรกแซงกัน ตั้งแต่ต้นเลยปูเป็นคนที่อยู่หน้ากล้อง ทนายปูเป็นคนที่ปกป้องปู ในทุกสัญญาที่ปูทำ ปูมีข้อจำกัดค่อนข้างชัดเจน เพราะว่าปูค่อนข้างซีเรียสในเรื่องคำพูดในสัญญา เพราะอันนี้คือสิ่งที่ปกป้องตัวตนของเรา แล้วก็ชี้แจงในการทำงานของเรา ในเคสนี้ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ปูก็จะให้หน้าที่ทนายเป็นคนจัดการ แล้วปูก็ทำหน้าที่ทำงานของปูต่อไป

 

 

            ที่ทนายบอกว่าเรื่องนี้มีผลกระทบต่องานของปู เขาพูดเพราะเป็นห่วง ปูมีเวลาเกือบสองอาทิตย์ ที่จะนั่งพิจารณาไตร่ตรอง แล้วก็ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เลยมองว่าผลกระทบต่องานตอนนี้ไม่มีนะคะ วันนี้ที่ชี้แจงกับพี่ๆ สื่อมวลชนแล้วก็แฟนๆ เพราะเชื่อว่าทุกคน รอคำพูดจากปู แต่วันนี้คำพูดของปูมีอย่างเดียว ถ้าจบด้วยสันติวิธีได้ ปูก็ขอความกรุณาอยากจบแบบนั้น

            ช่วงที่ผ่านมาเครียดไหม ก็ไม่นะคะ พอเป็นผู้ใหญ่เราต้องรู้ว่าอารมณ์ มันไม่ได้เป็นทางออกที่ดีที่สุด ปูเองก็เคยใช้อารมณ์ ไม่ใช่ไม่เคย ก็เลยมองว่าในเคสนี้ เราต้องมองที่กระทำก่อน แล้วมองด้วยเหตุผล แล้วก็มองด้วยหลักการ แล้วก็มองว่าเราอยู่จุดนี้ได้ยังไง แล้วข้างหน้าจะเดินไปได้ยังไง แล้วเราต้องมองด้วยว่าทางออกที่เราต้องการคืออะไร ทางออกของปูก็คืออยากให้ทุกฝ่ายจบโดยดี

          ปูไม่ได้ต้องการอะไรจากสิ่งนี้ แต่ปูเชื่อมั่นว่าที่เราถึงจุดนี้ มันมีตั้งแต่กติกาสัญญาเรื่องข้อตกลง มันมีรายละเอียดที่ปูไม่สามารถชี้แจงเพิ่มเติมได้ แต่ใจปูที่ไตร่ตรองและคิดว่าวันนี้จะต้องเกิดที่เราต้องเจอสื่อ แล้วขอให้วันที่เราเจอสื่อไม่พูดกระทบใครแต่อย่างใด แล้วก็พูดด้วยความเข้าใจจริงๆ มั่นใจในเอกสารที่ตัวเองมีไหม ก็มั่นใจค่ะ แต่อย่างที่บอกการที่พูดว่ามั่นใจมันจะกระทบไปฝั่งโน้น ก็เลยขออนุญาตสงวนสิทธิ์ไม่ใช้คำนั้น แต่สิ่งที่อยากจะย้ำแล้วก็ย้ำอีก คือ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทุกฝ่ายจบด้วยดี “

 

 

 

ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม @prayalundberg