
ตำรวจจับทนายความดำเนินคดีเมาขับ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ หลังขับรถผ่านด่านจราจรกลางแล้วไม่ยอมเป่าวัดแอลกอฮอล์ เผยกำลังพิจารณาเพิ่มข้อหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ส่วนผู้ต้องหาก็แจ้งความกลับ กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำให้เสียทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ กรณีโลกออนไลน์เผยแพร่คลิป ชายปฏิเสธเป่าแอลกอฮอล์บริเวณด่านตรวจ พื้นที่ สน.ตลิ่งชัน พร้อมระบุตนเองเป็นทนายความ และไม่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ รวมถึงใช้ถ้อยคำหยาบคาย จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่าได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.น.7 แล้ว ทราบว่าชายผู้นี้ถูกดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับ วันนี้ได้มีการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีที่ปรากฏในคลิป ว่ามีการพูดจาลักษณะดูหมิ่นและขัดคำสั่งเจ้าพนักงานหรือไม่ อย่างไร เบื้องต้นมีการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง คือ เจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจในวันเกิดเหตุ จากรายงานทราบว่าชายในคลิปเป็นทนายความจริง หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนอาจจะเชิญทนายความคนดังกล่าวมาให้ปากคำเพิ่มเติม ส่วนกรณีที่มีการแจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ก็เป็นสิทธิตามกฎหมาย
ผบช.น.กล่าวว่า ขอฝากประชาชน ถ้าเจ้าหน้าที่ขอตรวจหรือให้เป่าแอลกอฮอล์ ช่วยปฏิบัติตามด้วย คงไม่มีการกลั่นแกล้งในสมัยนี้ ถ้าปริมาณแอลกอฮอล์เกิน เจ้าหน้าที่ก็แจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการที่ศาล ถ้าปริมาณไม่ถึงก็ไม่ดำเนินการอะไร ที่สำคัญสาเหตุที่ต้องตั้งด่านก็เพื่อความปลอดภัยของคนทั่วไป
ขณะที่ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่า เหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ที่ตั้งด่านเป็นตำรวจจราจรกลาง โดยตั้งด่านในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน ยืนยันว่าตำรวจจราจรพยายามปฏิบัติต่อชายดังกล่าวอย่างสุภาพที่สุดแล้ว สาธารณชนสามารถใช้ดุลพินิจจากการดูคลิปภาพดังกล่าวได้ ทั้งนี้ กำลังพิจารณาดำเนินคดีกับชายดังกล่าวในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ เพิ่มเติมจากข้อหาขับรถขณะมึนเมาสุรา และขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนกรณีชายดังกล่าวแจ้งความดำเนินคดีตำรวจจราจรก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจจราจรกลางตั้งด่านบริเวณปากซอยบรมราชชนนี 91 พบรถยนต์สีดำของชายคนดังกล่าว ขับเข้าจุดตรวจและผู้ขับท่าทางมีพิรุธ จึงขอตรวจสอบ พบว่ามีกลิ่นแอลกอฮอล์ จึงขอตรวจด้วยเครื่องตรวจวัดค่าแอลกอฮอล์ แต่ผู้ขับขี่ปฏิเสธ และมีปากเสียงต่อว่าเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่าตรวจวัด พร้อมอ้างตัวเป็นทนายความ และแสดงบัตรประจำตัวทนายความ นำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเชิญตัวไปที่ สน.ตลิ่งชัน แต่มีการขัดขืน เจ้าหน้าที่จึงจับใส่กุญแจมือ นำตัวส่ง สน.ตลิ่งชัน
ต่อมา ตำรวจนำตัวชายผู้นี้ส่งต่อศาล และได้ประกันตัว จากนั้น นายผู้นี้ได้แจ้งความดำเนินคดีตำรวจชุดจับกุมในข้อหา กักขังหน่วงเหนี่ยว, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |