รวบทันควันไอ้หื่น พ้นคุกข่มขืนแหม่ม


เพิ่มเพื่อน    


    ตามจับทันควันไอ้หื่นทำร้าย-ข่มขืนสาวนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์บนเกาะพะงัน พบประวัติต้องคดียาวเหยียด 8 คดี ทั้งพยายามฆ่า วิ่งราว ครอบครองปืนและยาเสพติด ล่าสุดเพิ่งออกจากคุกไปทำงานเป็นช่างประจำอู่รถ นำจักรยานยนต์ของตำรวจไปดื่มเบียร์แล้วก่อเหตุ ชาวบ้านมุงดูทำแผน ด่าขรมทำภาพลักษณ์เสียหาย
    เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุข่มขืนหญิงนักท่องเที่ยวต่างชาติ สัญชาตินอร์เวย์ อายุ 26 ปี เมื่อกลางดึกวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริเวณถนนลูกรัง ซอยตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เกาะพะงัน หมู่ 1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ภายหลังรับแจ้งเหตุพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ตามกฎหมายรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สอบปากคำพยาน ตรวจสถานที่เกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาเบาะแส ข้อมูลของคนร้าย และตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด จนกระทั่งสามารถพิสูจน์ทราบถึงตัวผู้ก่อเหตุ
    ต่อมาวันที่ 13 พฤษภาคม พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอหมายจับนายเรวัต หาญสุวรรณ อายุ 33 ปี ต่อศาลจังหวัดเกาะสมุย ซึ่งศาลได้อนุมติหมายจับดังกล่าวในความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” มีอายุความ 20 ปี 
    กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมนายเรวัตได้ เบื้องต้นยอมรับว่าได้ก่อเหตุข่มขืนผู้เสียหายจริง พร้อมให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปตามถนนถึงบริเวณที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหายกำลังเดินอยู่ จากนั้นได้อาสาพาผู้เสียหายหากระเป๋าเงินที่ตกหล่น และได้พาผู้เสียหายไปยังสถานที่เกิดเหตุ ก่อนจะทำการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป  
    นายเรวัตเปิดเผยด้วยว่า เพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดออกจากเรือนจำเกาะสมุย และมาสมัครเป็นช่างซ่อมรถที่อู่แห่งหนึ่ง โดยรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาฝากซ่อมไว้ที่ร้าน
    พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ท่านกล่าวชื่นชมพนักงานสอบสวน ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดทุกส่วนที่ช่วยกันเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว 
    เวลา 10.20 น. วันเดียวกัน ที่ห้องประชุม สภ.เกาะพะงัน พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี แถลงความคืบหน้าคดีนักท่องเที่ยวสาวชาวนอร์เวย์ ถูกชายขี่รถจักรยานยนต์ทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศเมื่อกลางดึกวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว คือ นายเรวัต หรือมอส หาญสุวรรณ อายุ 33 ปี ทำงานร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ 
    พล.ต.ท.พงษ์วุฒิกล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นทำให้เสื่อมเสียและเสียหายต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ โดยผู้ต้องหารับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน และข้อเท็จจริง พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นผู้เสียหายอาจดื่มมากจากการไปเที่ยวและอยู่ในสภาพไม่สามารถขัดขืนต่อสู้ได้ จึงล่อลวงไปทำร้ายร่างกายบังคับใช้กำลังขืนใจผู้เสียหาย 
    จากการตรวจสอบประวัตินายเรวัต พบว่าเคยกระทำผิดมาจำนวน 8 คดี ประกอบด้วย ปี 2549 สภ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น, ปี 2551 สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ข้อหา วิ่งราวทรัพย์, ปี 2554 สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง, ปี 2555 สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ข้อหา ลักทรัพย์, ปี 2558 สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ข้อหา เสพขับ, ปี 2559 สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ข้อหา เสพยาเสพติด และปี 2559 สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ข้อหา ครอบครองยาเสพติด เพิ่งพ้นโทษเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2562 โดยจะให้พนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน รวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุดและทำคดีอย่างรัดกุมส่งฟ้องต่อไป
    หลังการแถลงข่าว พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ นายวิชวุทย์ และ พล.ต.ต.อภิชาติได้ไปดูการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ ท่ามกลางประชาชนรอดูอย่างหนาตา บางคนแสดงความไม่พอใจผู้ต้องหาเป็นอย่างมาก
    ขณะที่นายเรวัตให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถออกจากที่พักร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ไปนั่งดื่มเบียร์ จากนั้นขี่รถออกมาพบผู้เสียหายยืนอยู่ริมถนนกับเพื่อนชาย จึงจอดรถสอบถาม ทราบว่ากำลังตามหากระเป๋าเงินที่หายไป และได้อาสาพาไปโดยให้นั่งซ้อยท้ายรถ ส่วนเพื่อนชายขอแยกตัวกลับ ต่อมาได้พาผู้เสียหายมายังริมชายหาดและได้ต่อยท้องก่อนล่วงละเมิดทางเพศ จากนั้นก็ขับรถกลับที่พักและปล่อยทิ้งผู้เสียหายไว้
    พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า นายเรวัตเคยต้องโทษจำคุกคดียาเสพติดที่เรือนจำอำเภอเกาะสมุย และย้ายไปควบคุมตัวต่อที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษสงขลา เนื่องจากเป็นคดียาเสพติด ต่อมานายเรวัตยังมีคดี พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษและ พ.ร.บ.จราจรทางบก จึงถูกย้ายไปควบคุมตัวต่อที่เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี โทษจำคุก 5 เดือน 10 วัน และได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 18 เม.ย.62 โดยครบกำหนดพ้นโทษตามวันดังกล่าว ไม่ใช่การปล่อยตัวพระราชทานอภัยโทษแต่อย่างใด ซึ่งระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ได้ดำเนินการตามกระบวนการพัฒนาพฤตินิสัย และเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยอบรมพัฒนาจิตใจและร่างกาย ตลอดจนการฝึกวิชาชีพเป็นระยะเวลา 1 เดือน เพื่อให้พร้อมที่จะกลับสู่สังคม รวมถึงได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอกช่วยเหลือให้นายเรวัตได้มีงานทำ เป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ภายหลังพ้นโทษอีกด้วย
    "กรมราชทัณฑ์ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ต้องขังอีกมากที่รับโทษภายในเรือนจำและพยายามพัฒนาตัวเองพร้อมกลับใจ เพื่อให้สังคมยอมรับ" พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"