บชภ.9ฟัน4ตำรวจ อุ้มส.ต.ท.รีดค่าไถ่


เพิ่มเพื่อน    


    บช.ภ.9 แถลงความคืบหน้าคดีตำรวจอุ้มตำรวจ เผยดำเนินคดีอาญาตำรวจ 3 นายกับพลเรือน 1 คน ส่วนทางวินัย อยู่ระหว่างสอบสวนในฐานความผิดประพฤติชั่วร้ายแรง เผยเจ้าทุกข์มีหลักฐานสำคัญคือข้อความที่แก๊งอุ้มแช้ตถึง จะคืนเงินและรถเพื่อจบคดี
    เมื่อวันอังคาร มีรายงานว่า ทีมโฆษกกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้ออกแถลงชี้แจงคดีตำรวจอุ้มตำรวจไปเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 5 แสนบาท ซึ่งผู้เสียหายคือ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป) สภ.กระพ้อ จ.ปัตตานี เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระบุว่าถูกตำรวจสังกัด บช.ภ.9 ร่วมกันอุ้มไปขังไว้ในเซฟเฮาส์แห่งหนึ่งในซอย 18 ถนนรัตนอุทิศ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 62 
    คำแถลงระบุว่า การดำเนินการคดีนี้แยกเป็น 2 ประเด็น คือการดำเนินการคดีอาญา กับการดำเนินการทางวินัย โดยในส่วนของคดีอาญาได้ดำเนินคดีข้าราชการตำรวจจำนวน 3 นาย พลเรือน 1 คน ในความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 และร่วมกันเรียกค่าไถ่ ตาม ป.อาญา มาตรา 313 
    ส่วนการดำเนินการทางวินัย ได้ดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงกับข้าราชการตำรวจจำนวน 4 นาย เป็นข้าราชการตำรวจ กองบังคับการสืบสวนภาค 9 จำนวน 3 นาย เป็นข้าราชการตำรวจ สภ.คอหงส์ จำนวน 1 นาย ในความผิดฐาน กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 79 (5) โทษคือไล่ออก
    คดีนี้มีตำรวจที่เกี่ยวข้องขณะนี้จำนวน 4 นาย ที่โดนทั้งคดีอาญาและทางวินัย 3 นายคือ ดาบตำรวจธีรยุทธ สุวรรณรัตน์, ดาบตำรวจสิรภพ หมื่นหนู และดาบตำรวจพิรชัช หวั้นเส้ง เนื่องจากผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว ส่วนอีก 1 นายที่เป็นตำรวจ สภ.คอหงส์ ยังถูกดำเนินการทางวินัย ซึ่งหากผู้เสียหายแจ้งความก็จะถูกดำเนินคดีอาญาด้วยเช่นเดียวกัน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ทางพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ได้เรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพิ่มเติมอีก 2 คน คือนายรุ่งเกียร์ติ หนูพันธ์ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย 6 คนที่ถูกตำรวจอุ้มไปที่เซฟเฮาส์และถูกซ้อมได้รับบาดเจ็บ และนางอุบล จันทร์ดำ อายุ 48 ปี แม่ของ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ เป็นผู้ประสานงานเรื่องเงินค่าไถ่กับตำรวจ โดยผู้เป็นแม่ได้นำหลักฐานที่เป็นการแช้ตไลน์มามอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม รวมทั้งชี้ตัวยืนยันตำรวจ 3 นาย และหญิงสาวอีก 1 คนที่เกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินค่าไถ่ตัว ซึ่งชี้ตัวได้อย่างถูกต้อง ในขณะที่นายรุ่งรัตน์ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้แจ้งความเพิ่มเติมในข้อหาทำร้ายร่างกายด้วย   
    นางอุบลกล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางหญิงสาวที่เป็นผู้ประสานงานและอ้างว่าเป็นเมียตำรวจได้ติดต่อมาเพื่อที่จะขอคืนเงินและคืนรถเก๋งที่ยึดไป แต่หลังจากเรื่องนี้กลายเป็นข่าวและมีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีก็เงียบหายไปทั้งหมด ซึ่งคดีนี้ขอให้ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมาย
    ขณะที่นายรุ่งรัตน์เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ ถูกอุ้มไปที่เซฟเฮาส์จำนวน 6 คน รวมทั้ง ส.ต.ท.สัญลักษณ์ และถูกทำร้ายร่างกาย 5 คน มีเพียงคนเดียวที่ไม่โดนคือ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ ที่เป็นตำรวจ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"