ปูดทำเนียบขาวเตรียมแผนทางทหารสยบอิหร่าน


เพิ่มเพื่อน    

นิวยอร์กไทมส์ระบุ กระทรวงกลาโหมสหรัฐจัดเตรียมแผนทางทหารฉบับปรับปรุงล่าสุดเสนอต่อรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อตอบโต้อิหร่านหากกำลังพลสหรัฐในภูมิภาคนั้นโดนโจมตี หรืออิหร่านเร่งเครื่องผลิตอาวุธนิวเคลียร์ โดยยุทธวิธีนี้รวมถึงส่งทหาร 120,000 นายไปตะวันออกกลาง ด้านผู้นำอิหร่านยืนยันไม่พรั่นคำขู่ของทรัมป์

ภาพจากกองทัพเรือสหรัฐเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 กลุ่มเรือโจมตีของเรือบรรทุกเครื่องบินอับราฮัมลินคอล์นเคลื่อนผ่านคลองสุเอซ / Navy Office of Information / AFP

    หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อ้างแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสหรัฐหลายรายซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ บอกว่า แพทริก ชานาแฮน รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ได้นำเสนอแผนนี้ต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของรัฐบาลทรัมป์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม

    ข่าวรอยเตอร์สอบถามความเห็นของทำเนียบขาวและเพนตากอน แต่ไม่ได้รับคำตอบเกี่ยวกับรายงานข่าวของไทมส์

    นับแต่ปีที่แล้ว ที่ทรัมป์นำสหรัฐถอนตัวจากความตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านทำไว้กับ 6 ชาติมหาอำนาจเมื่อปี 2558 เพื่อยับยั้งกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านแลกกับการผ่อนปรนคว่ำบาตร ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านก็ทวีคูณขึ้น ทรัมป์รื้อฟื้นการคว่ำบาตรอย่างเข้มงวด เพื่อบีบให้อิหร่านยินยอมตกลงควบคุมอาวุธในบริบทที่กว้างขึ้น

    เดือนเมษายนที่ผ่านมา สหรัฐยังขึ้นบัญชีกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านเป็น "องค์กรก่อการร้ายต่างชาติ" ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สถาบันของรัฐบาลต่างชาติโดนสหรัฐจับขึ้นบัญชีก่อการร้าย
 
    ล่าสุด ทรัมป์ส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น พร้อมด้วยเรือโจมตีแบบสะเทินน้ำสะเทินบก, กลุ่มอาวุธมิสไซล์แพทริออต และเครื่องบินทิ้งระเบิดบี-52 มาวางกำลังในภูมิภาคอ่าว เพื่อแสดงแสนยานุภาพป้องปรามไม่ให้อิหร่านคุกคามกำลังพลสหรัฐในภูมิภาคนี้ ก่อความวิตกถึงความเป็นไปได้ที่สองฝ่ายอาจปะทะกันทางทหาร

    อิหร่านกล่าวตอบโต้สหรัฐว่ากำลัง "ทำสงครามจิตวิทยา" และกล่าวถึงการแสดงตนทางทหารของสหรัฐว่าเป็น "เป้าหมาย" หาใช่ภัยคุกคามของอิหร่าน และอิหร่านจะไม่ยอมให้มีการขัดขวางการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน

    รายงานของไทมส์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เข้าร่วมการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีนั้นรวมถึง จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์, จีนา แฮสเปล ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (ซีไอเอ), แดน โคตส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และโจเซฟ ดันฟอร์ต ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม

    ไทมส์เผยว่า ที่ประชุมได้รับฟังรายละเอียดแผนการหลายแผนด้วยกัน และทางเลือกในระดับสูงสุดคือแผนการวางกำลังทหาร 120,000 นาย ซึ่งจะต้องใช้เวลาแรมสัปดาห์หรือแรมเดือนจึงจะแล้วเสร็จ

    วันเดียวกับที่มีรายงานของไทมส์นั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวเตือนอิหร่านว่าจะเจอผลลัพธ์ร้ายแรงหากคิดโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐในภูมิภาคนั้น "เดี๋ยวเราจะได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับอิหร่าน หากพวกเขาทำอะไรลงไป ก็จะเป็นความผิดพลาดที่แย่มากๆ" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว "หากพวกเขาทำอะไรก็ตาม พวกเขาจะต้องทุกข์ทรมานแสนสาหัส"

    คำกล่าวข่มขู่ของทรัมป์มีออกมาหลังจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เปิดเผยว่า เมื่อวันอาทิตย์มีเรือสินค้า 4 ลำโดนก่อวินาศกรรมใกล้กับรัฐฟูไจราห์ที่อยู่ด้านนอกของช่องแคบฮอร์มุซ เรือ 2 ลำในนี้เป็นเรือบรรทุกน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย แต่อิหร่านปฏิเสธความเกี่ยวข้องและเรียกร้องให้ทำการสอบสวนเหตุการณ์ที่น่าตกใจนี้

    คืนวันจันทร์ ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่าน กล่าวต่อที่ประชุมครูสอนศาสนา ยืนยันว่าอิหร่านยิ่งใหญ่เกินกว่าจะครั่นคร้ามต่อคำขู่ของชาติใด อิหร่านจะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างมีเกียรติและพิชิตศัตรูลงได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"