ตึงเครียดหนัก สหรัฐสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ทูตในอิรัก


เพิ่มเพื่อน    

สถานการณ์ไม่สู้ดี รัฐบาลสหรัฐสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ทูตที่ไม่มีกิจจำเป็นออกจากสถานทูตในกรุงแบกแดดและสถานกงสุลในเมืองอาบิลทางเหนือของอิรัก ขณะความตึงเครียดกับอิหร่านยังไม่น่าไว้วางใจ แม้ผู้นำอิหร่านและรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะย้ำสองฝ่ายไม่คิดทำสงครามกัน

ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ขณะเยือนเมืองโซชีของรัสเซีย เมื่อวันที่ 14 พฦษภาคม 2562 / AFP

    คำแนะนำของของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเมื่อวันพุธที่ 15 พฤษภาคม 2562 ประกาศออกมาทั้งที่มีความพยายามของทั้งสหรัฐและอิหร่านเพื่อผ่อนคลายความกลัวว่าความขัดแย้งจะบานปลายเป็นสงครามครั้งใหม่ เมื่อวันอังคารประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ปฏิเสธรายงานข่าวของนิวยอร์กไทมส์ ที่อ้างแหล่งข่าวว่าทำเนียบขาวเตรียมแผนการทางทหารเพื่อจัดการกับอิหร่านไว้แล้ว โดยทรัมป์บอกว่าเขาไม่มีแผนส่งทหาร 120,000 นายไปยังภูมิภาคนั้น แต่หากคิดจะส่งจริงจะใช้กำลังพลมากกว่านี้เยอะ

    ไม่กี่วันมานี้รัฐบาลสหรัฐเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่าน โดยกล่าวหาว่าอิหร่านกำลังวางแผนก่อเหตุโจมตีที่ไม่ระบุชัด สัปดาห์ที่แล้วกระทรวงกลาโหมส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบิน, กลุ่มมิสไซล์แพทริออต และเครื่องบินทิ้งระเบิดบี-52 มาวางกำลังในภูมิภาคอ่าว เพื่อป้องปรามแผนของ "กองทัพอิหร่านและกองกำลังตัวแทนของอิหร่าน" ที่จะโจมตีกำลังพลของสหรัฐ

    เมื่อวันอาทิตย์เกิดเหตุกลุ่มวินาศกรรมลึกลับโจมตีเรือสินค้า 4 ลำนอกชายฝั่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เรือ 2 ลำในนี้เป็นเรือบรรทุกน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย แต่รัฐบาลซาอุฯ และยูเออีซึ่งต่างเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐไม่ยอมเผยรายละเอียดสถานการณ์ที่แท้จริง ขณะที่อิหร่านยืนกรานว่าตนไม่เกี่ยวข้อง

    คำแนะนำของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐที่ประกาศปิดการดำเนินงานบางส่วนของสถานทูตสหรัฐในอิรัก กล่าวเตือนว่า "กลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มก่อความไม่สงบ" หลายกลุ่มที่เคลื่อนไหวในอิรัก  รวมถึงพวกกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยต่อต้านสหรัฐ ที่อาจคุกคามพลเมืองสหรัฐและบริษัทตะวันตกทั่วประเทศอิรัก

    คำประกาศอ้างถึงการวางระเบิดแสวงเครื่องโจมตีหลายพื้นที่ของอิรัก รวมถึงที่กรุงแบกแดด และว่าสหรัฐจะระงับการออกวีซ่าปรกติที่สถานทูตในกรุงแบกแดด และที่สถานกงสุลที่เมืองอาบิล เมืองเอกของเขตเคิร์ดทางเหนือของอิรัก

    ปีที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐก็เคยปิดสถานกงสุลในเมืองบัสเราะห์ทางภาคใต้ที่เกิดการชุมนุมประท้วง โดยอ้างภัยคุกคามจากการโจมตีโดยอ้อมของกองกำลังที่อิหร่านหนุนหลัง

    ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่านทวีคูณขึ้นนับแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ที่ทรัมป์นำสหรัฐถอนตัวจากความตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านลงนามไว้กับ 6 ชาติมหาอำนาจเมื่อปี 2558 แล้วรื้อฟื้นการคว่ำบาตรอิหร่านเพื่อบีบให้อิหร่านยอมจำกัดโครงการอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธอื่นๆ

    สัปดาห์ก่อน ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่ให้ความสำคัญอันดับแรกกับการลดอิทธิพลของอิหร่านในภูมิภาคนี้ ได้เดินทางเยือนกรุงแบกแดดโดยไม่ประกาศล่วงหน้า อ้างว่าเพื่อกระชับความร่วมมือกับอิรัก และเพราะกองทัพอิหร่านกำลังดำเนินกิจกรรมเพิ่มมากขึ้นในอิรัก

    ปอมเปโอเพิ่งไปพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียที่เมืองโซชิเมื่อวันอังคาร และได้ให้คำรับประกันต่อเจ้าหน้าที่ของรัสเซียว่า โดยพื้นฐานแล้วสหรัฐไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน

    ก่อนหน้านี้ อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ก็กล่าวต่อเจ้าหน้าที่อิหร่านเช่นกันว่า การคุมเชิงระหว่างอิหร่านกับสหรัฐในช่วงเวลานี้ไม่ใช่เรื่องของการทหาร เพราะจะไม่มีสงครามเกิดขึ้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"