แม้เป็นกระบอกเสียง เพื่อไทย เจ๊ต้อย-ลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยและกรรมการบริหารพรรค ออกตัวตั้งแต่เข้ารับหน้าที่ ขอเป็นโฆษกเชิงวิชาการ พูดจามีเหตุมีผล ไม่ใช้วาทกรรมรุนแรงประเภทเสียดสีกันไปมาในเรื่องการเมือง แม้ไม่ถูกใจ กองเชียร์ แฟนคลับพันธุ์แท้ ที่อยากให้ปะฉะดะ ชนแหลกไปเลย แต่หากเป็นเรื่องการเมืองเข้มข้น ชนิดประเภทลับฝีปากกัน เจ๊ต้อย บอกขอให้ โอปอ-อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด, เสี่ยยุ-จิรายุ ห่วงทรัพย์,  หมวดเจี๊ยบ-ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย รับหน้าที่ไป

                หลายคนอาจลืมไป โฆษกเพื่อไทย ในวันนี้ ในอดีตเคยเป็นผู้สื่อข่าวสายสังคมสตรีทีวีช่องหนึ่งมาก่อนเหมือนกัน เลยพอเข้าใจวัฒนธรรมการทำข่าว ก่อนจะผันตัวมาเป็นโฆษกรัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน ผันตัว มาร่วมงานพรรคไทยรักไทย จนได้เป็น ส.ส.พะเยา และยังได้เป็น รมช.แรงงาน ในสมัยรัฐบาลทักษิณ 1 อีกด้วย

                ด้วยบทบาทหน้าที่นี้เอง เลยได้ฟังเรื่องราวย้อนหลัง

                 "สมัยนั้นคนยังนิยมออกไปใช้แรงงานในต่างประเทศ แต่ก็หลายคนที่ไปแล้วเจอปัญหา ทั้งเรื่องค่าหัวคิว เรื่องครอบครัว ที่เขาบอกกันว่า ไปเสียนา มาเสียเมีย ก็เป็นเรื่องจริง แต่ที่น่าห่วงสุดคือเรื่องขบวนการเรียกรับหัวคิว ซึ่งยุคนั้นมีข้าราชการระดับสูงในกระทรวงเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

                ไอ้เราตอนนั้นก็เป็น ส.ส.บ้านนอก ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง คิดว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรีอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ สุดท้ายตัดสินใจเป็นไงเป็นกัน ขอชนกับข้าราชการในกระทรวง ขอช่วยพี่น้องแรงงานเสียหน่อย ตอนนั้นทำงานสนุก ได้รับความร่วมมือทั้งจากนักข่าว ข้าราชการน้ำดีในกระทรวง บริษัทบางแห่ง ส่งข้อมูลมาให้เยอะมาก จนในที่สุดมีการตั้งกรรมการสอบ ผลสรุปข้าราชการมีส่วนเกี่ยวข้องจริง นำมาสู่การลงโทษทางวินัยร้ายแรงข้าราชการระดับสูงหลายคน"

                เจ้าตัวฉายให้เห็นภาพเป็นฉากๆ เป็นขบวนการ ถึงความไม่ชอบมาพากลหลายอย่างในกระทรวงแรงงานเวลานั้น

                เพียงแต่ห้วงเวลานี้ อาจด้วยจังหวะ สถานการณ์เปลี่ยนไป จากยุคลุยแหลก เลยปรับโหมดมาให้กำลังใจ ให้คำแนะนำน้องๆ คนรุ่นใหม่ในเพื่อไทย ทำหน้าที่ไป ส่วนตัวเองขอเป็นพี่เลี้ยงไปพลางๆ รอถึงเวลาเหมาะๆ คงได้เห็น เจ๊ต้อย ออกโรงอีกหน   

 

 ม้าไม้