บินไทยแจงกำไรไตรมาสแรกอยู่ที่ 456 ล้านบาท ลดลง 83% จากบาทแข็งและสงครามการค้า ลุยเดินหน้าแผนฟื้นฟูแบบเร่งด่วน เล็งเปิดตัวธุรกิจขายสินค้าออนไลน์เว็บไซต์บินไทย ตั้งเป้าปีแรกกำไร 500 ล้านบาท 

26 พ.ค.62-นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงธุรกิจการบินไตรมาสแรกของการบินไทยมีรายได้รวม 49,791 ล้านบาท กำไรสุทธิ 456 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อนถึง83.3%ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยนบาทแข็งค่าต้องแบกรับความเสี่ยงไม่สามารถขึ้นค่าตั๋วกับผู้โดยสารได้ และแม้ว่าบาทแข็งจะมีข้อดีในส่วนของรายจ่าย ทั้งการชำระเงินกู้ ค่าเช่าเครื่องบิน เครื่องยนต์ ก็ตามแต่ก็ยังน้อยเมื่อเทียบกับรายรับ  

ทั้งนี้ประกอบกับธุรกิจคาร์โก้ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ทำให้รายได้ลด 12.9 %และยังมีการปิดน่านฟ้าของปากีสถาน ทำให้ต้องบินอ้อมอัตราการใช้น้ำมันสูงและยังมีการปิดสถานีอิสลามาบัส ทำให้รายได้หายไปอีกด้วย 

อย่างไรก็ตามส่วนไตรมาสนี้มีค่าใช้จ่ายรวม 50,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 989 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.0% โดยมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจากการเปลี่ยนประมาณการมูลค่าคงเหลือของเครื่องบินและเครื่องยนต์ ค่าเช่าเครื่องบินและอะไหล่เพิ่มจากการรับมอบเครื่องบินเช่าดำเนินงานในระหว่างปี 2561 จำนวน 3 ลำ และการเช่าเครื่องยนต์อะไหล่เพิ่มขึ้น เป็นต้น 

นายสุเมธ กล่าวว่าขณะนี้เตรียมออกธุรกิจใหม่ขายสินค้าอี-คอมเมิร์ซบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของการบินไทยเดือนกันยายนนี้  เพื่อให้ทันกับเทศกาลการซื้อของขวัญปลายปี เป้าขายลูกค้าต่างประเทศที่เป็นของลูกค้าการบินไทย ตั้งเป้ากำไรปีแรก 500 ล้านบาท เพราะปัจจุบันธุรกิจการบินมีการแข่งขันสูงต้องมุ่งธุรกิจอื่นเข้ามาเสริม ซึ่งที่ผ่านมามีการปรับแผนครัวการบินด้วยการจ้างผลิต OEM ทำให้ไตรมาสแรกมีกำไรเพิ่ม 15 %หรือประมาณ 70 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนของเครื่องบินของการบินไทยใช้งานได้จริงเพียง 90 ลำ จากปีก่อน 94 ลำ เนื่องจากได้รับผลกระทบเครื่องยนต์โรลส์รอยซ์ จึงต้องเช่าเครื่องบินมาให้บริการอย่างน้อย 2-3 ลำ ส่วนการจัดหาเครื่องบิน 38 ลำ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม ส่วนโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน หรือ MRO การบินไทยได้พูดคุยกับแอร์บัสครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะทำข้อตกลงเสนอให้คณะกรรมการคัดเลือกภายในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ และข้อตกลงทั้งหมดจะเสร็จสิ้นในสิ้นปี 2562

อย่างไรก็ตามในปี 62 บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการสร้างรายได้เสริมภายใต้โครงการ “มนตรา” ซึ่งเป็นโครงการฟื้นฟูการบินไทยแบบเร่งด่วน ตลอดจนกลยุทธ์การดำเนินงานอื่นๆ ซึ่งส่วนหนึ่งได้เริ่มดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ต้นปี โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือทำให้การบินไทยหลุดพ้นจากวงจรของกับดักปัญหา และสามารถมีผลประกอบการที่มั่นคงต่อไปในอนาคต โดยมีการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ บูรณาการด้านบริหารจัดการการบินไทยและไทยสมายล์ การบริหารจัดการด้านการขายและการตลาด หารายได้เสริม และเพิ่มรายได้ในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับการบิน เป็นต้น 

นายสุเมธ กล่าวถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่บอกว่านำภาษีของประชาชนมาอุดหนุนการบินไทย ว่า การบินไทยไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐแต่อย่างใด หรือแม้แต่รัฐมาค้ำประกันเงินกู้ เพราะเป็นรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ การบอกว่าการบินไทยขาดทุน เปลืองงบ เปลืองภาษีไม่ถูกต้อง ยิ่งการจัดซื้อเครื่องบินก็เป็นงบของการบินไทยเอง