จับนักธุรกิจลาวบังคับให้ติดต่อญาติส่งกัญชาแห้งครึ่งตันมาแลกชีวิต หลังลวงมาคุยร่วมลงทุนทำธุรกิจที่ภาคใต้แล้วกักขัง ตำรวจจู่โจมช่วยไว้ได้ พร้อมรวบ 3 คนร้าย
    มีรายงานว่า เมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พล.ต.ต.โชติ ชัยชมพู รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ธรัฐชา ถมปัทม์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง, พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง หน.ชุด ชปส.ภ.จว.พัทลุง, ตำรวจชุด กก.3 บก.ปส.4, ทหาร กอ.รมน.ภาค 4, ทหารชุด ชป.รส.จ.พัทลุง, สำนักงานปราบปรามยาเสพติด และตำรวจชุด กก.สส.ชป.1 บุกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 293 หมู่ที่ 3 ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง จับกุมตัวผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลาง มีนายณรงค์เดช ด้วงรัตน์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 3 ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง, นายกรชวัล นะคงคา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ที่ 7 ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง และนายศราวุธ เตยแก้ว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่ที่ 5 ต.แประ อ.ท่าแพ จ.สตูล
    ส่วนของกลางที่จับกุมได้ มีอาวุธปืนยาวไรเฟิล ขนาด .22 แม็กนั่ม พร้อมเครื่องช่วยเล็ง และกระสุนปืน .22 จำนวน 8 นัด อาวุธปืนยาวขนาด .22 พร้อมเครื่องช่วยเล็ง จำนวน 2 กระบอก และกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 15 นัด อาวุธปืนพกสั้นออโตเมติกกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ซองบรรจุกระสุน 2 ซอง พร้อมกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 51 นัด รถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กง 1777 พัทลุง และโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง
    โดยชุดจับกุมได้นำ 3 ผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งให้ พ.ต.ท.นพรัตน์ แก้วใจ สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.พัทลุง เพื่อดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง เพื่อให้เสื่อมเสียสิทธิ เสรีภาพโดยมีและใช้อาวุธปืน และหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เหยื่อคือท้าวไมน้อย ชาวลาว แต่ทั้ง 3 คนให้การตลอดข้อกล่าวหา เพียงยอมรับว่าท้าวไมน้อยพักอยู่ในบ้านของนายณรงค์เดชจริง
    การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดจับกุมได้รับการประสานจากสถานทูตลาวประจำประเทศไทย ว่ามีคนลาว ชื่อ ท้าวไมน้อย ออวันไซ อายุ 31 ปี ถูกคนไทยล่อลวงมาหน่วงเหนี่ยว กังขังเพื่อเรียกค่าไถ่ เป็นกัญชา 500 กิโลกรัม ต่อมาในเย็นวันที่ 19 พ.ค. ชุดจับกุมจึงได้สนธิกำลังไปตรวจค้นที่บ้านพักหลังดังกล่าว พบท้าวไมน้อยวิ่งออกจากบ้านมาหาชุดจับกุม 
    ด้านท้าวไมน้อยเปิดผยว่า รู้จักกับนายกรชวัลทางเฟซบุ๊กมา 5-6 เดือนแล้ว และได้พูดคุยการร่วมลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจค้าข้าวและธุรกิจอาหารทะเล โดยตนได้เดินทางเข้ามาในระเทศไทยที่ จ.บึงกาฬ จากนั้นเดินทางโดยรถทัวร์มายังสถานีขนส่ง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันที่ 1 พ.ค.62 ต่อมาในคืนเดียวกัน กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมารับตนไปดูธุรกิจสถานบันเทิงในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งนายกรชวัลอ้างว่าเป็นเจ้าของ จากนั้นได้นำเข้ามาพักในบ้าน 
    ต่อมา นายณรงค์เดชได้เรียกท้าวไมน้อยมาพุดคุย บอกว่าธุรกิจของตนในประเทศมาเลเซียประสบปัญหา ขอให้ท้าวไมน้อยช่วยหากัญชาอัดแท่งให้ 500 กิโลกรัม โดยให้โทร.หาญาติในลาวให้ส่งกัญชามาให้ ไม่เช่นนั้นจะไม่ยอมปล่อยตัว และจะทำร้าย เมื่อญาติท้าวไมน้อยทราบเรื่องจึงประสานขอความช่วยเหลือจากสถานทูตลาวประจำประเทศไทย จนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมคนร้ายได้.