รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ถ้าจะเปรียบ ก็เหมือน
    "ซีม่าโลชั่น"
    นักเลือกตั้ง "บางคน-บางพรรค" มีสภาพไม่ต่าง "สังคังสังคม"
    พอเจอซีม่า.....
    จะมีอาการ ชักดิ้น-ชักงอ ดิ้นพราดๆ บางราย ถึงขั้นต้องเอาพัดมา พัดๆๆๆ พิโอด-พิโอย ปวดแสบ-ปวดร้อน หนังล่อนเป็นแผ่นๆ
    เหมือนงูลอกคราบ!
    แต่ที่ไม่ใช่ "สังคังสังคม" จะไม่เกิดปฏิกิริยาด้านลบ-ด้านลอกอะไรนัก จะเย็นสบายซะด้วยซ้ำ
    ฉะนั้น ตอนนี้.......
    อารมณ์นักเลือกตั้ง จะแยกได้ ๒ ส่วน
    ส่วนหนึ่ง เมื่อเลือกตั้งแล้ว ผลออกมา ก็พาโล ด่ากราดไปทั่ว 
    รัฐธรรมนูญล็อกสเปกบ้าง 
    รัฐธรรมนูญสืบต่ออำนาจทหารบ้าง 
    รัฐธรรมนูญเฮงซวยบ้าง
    ที่เป็นอย่างนั้น ด้วยเหตุผลเดียว คือ.......
    เลือกตั้งแล้ว ด้วยรัฐธรรมนูญนั้น ทำให้ "สังคังสังคม" ไม่สามารถสืบต่ออำนาจระบอบทักษิณกินเมืองได้
    อีกส่วน เลือกตั้งแล้ว........
    ผลออกมาอย่างไร จะผิดหวัง-สมหวัง ถือว่า ประชาชนตัดสินแล้ว
    ใคร-พรรคไหน จะไปเป็นอะไร กฎ-กติกา ตามรัฐธรรมนูญบอกไว้อย่างไร 
    ถูกใจ-ไม่ถูกใจ ก็เดินไปตามนั้น ไม่บ่น ไม่ด่า ไม่โทษกติกาว่าเฮงซวย อย่างน้อย รัฐธรรมนูญนี้ก็ผ่านประชามติแล้ว
    ตรงข้ามกับอีกฝ่าย ที่สร้างมลภาวะการเมืองพิษให้สังคมเป็นรายวัน ด้วยเหตุเพียงว่า เมื่อกูไม่ได้ ก็ต้องตีรวน
    สรุปแล้ว..........
    รัฐธรรมนูญไม่ดี
    หรือ...
    คนไม่ดี?
    เลือกตั้งด้วยรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน ประชาชนหย่อนบัตรเลือกลงหีบใบเดียวกัน
    แต่ผลออกมา กลับมีบางพรรค-บางคน บอกว่า ตัวเองเป็นประชาธิปไตย มีผลงานเผาเมือง ควรได้เป็นรัฐบาล
    อีกฝ่ายเป็นเผด็จการทหาร ไม่ควรได้เป็นรัฐบาล เพราะจะเข้าไปสืบต่ออำนาจ สร้างสานบ้านเมือง?
    ตรรกะ "พวกสังคัง" นี่ ฟังยาก แต่เข้าใจง่าย!
    ผมจึงอยากบอกว่า ใจเย็นๆ ตามดูเขาไป แต่อย่าไปตกอยู่ในอารมณ์พวกเขา
    ยึดตามคำสอนพระพุทธเจ้าประเสริฐสุด 
    พระองค์ตรัสสอนว่า.......
    "จงหมุนไปตามโลก แต่อย่าเข้าไปติดอยู่ในโลก"
    ความหมายคือ การเป็นมนุษย์ร่วมสังคม "อย่าเป็นคนฝืนโลก-ขวางสังคม"
    เขาไปกันทางไหน ก็ไปกับเขา แต่อย่าไปแบบหลง แบบติดยึดด้วยคลั่งไคล้
    ต้องใช้สติตรองเรื่องนั้นๆ ด้วยเหตุ-ด้วยผลก่อน เรื่องใด เป็นเหตุ-เป็นผล ก็โอเคกับเขา 
    ถ้าไม่เป็นเหตุ-เป็นผล เป็นเพียงอารมณ์สังคัง ก็ปล่อยไปตามทางเขา เราเพียงตามดูห่างๆ
    เชื่อเถอะ........
    ไม่ว่าที่ไหน คนชั่วน่ะ ครองเมือง-ครองอำนาจไม่ได้หรอก     
    ถึงได้ สุดท้ายแล้ว แม้ไม่มีใครทำลาย
    สิ่งที่คนชั่วทำนั่นแหละ จะเหมือนไฟที่เผาไหม้ตัวเอง!
    โดยเฉพาะกับแผ่นดิน "ประเทศไทย"........
    เห็นกันมากี่ยุค-กี่สมัยแล้วล่ะ พวกบ่อนทำลาย พวกทุจริตคิดไม่ซื่อ พวกคิดร้าย-ขายชาติ
    บอกมาซักรายซิ..........
    ว่ามีหน้าไหนไปรอด?
    เห็นมีถึงไม่ตาย ก็มีอันเป็นไป ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ต้องซุกๆ ซ่อนๆ เซซัง เหมือนขี้เกลื้อน-ขี้กลาก-สังคัง อยู่ที่ไหนมีแต่สังคมรังเกียจ!
    ด้วยสัจธรรมนี้ จึงอยากให้ยึดเป็นหลักในการเสพข่าวสารบ้านเมืองในยุคไอที
    ดูได้-ฟังได้ แต่อย่าเชื่อปุบปับ ทึกทักเป็นเรื่องจริงทันที-ทันใด
    ยุคนี้ เป็นยุค "ข่าวสาร ๒ ทาง"
    ยุคก่อน เรารับข่าวสารจากสื่อวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ฝ่ายเดียว 
    แต่ยุคนี้ แค่มีมือถือ ทุกคนสามารถสร้างข่าวสารให้คนอื่นๆ ทั้งโลกรู้ได้ด้วย
    ก็อย่างที่โพสต์-แชร์ โซเชียลมีเดีย กันนั่นแหละ จึงเกิดอาชีพรับจ้าง "ปั่นข่าว-สร้างกระแส" ทุกวันนี้ไง
    พวกพรรคการเมืองและนักเลือกตั้ง "ยุคใหม่" นี่แหละ นายจ้างตัวสำคัญ 
    ยุคก่อน นักเลือกตั้ง จ้างแท็กซี่ปล่อยข่าว
    ยุคนี้ จ้างสังคมเครือข่าย "ปั่นข่าว-ปั่นกระแส" สร้างเรตติ้งให้ตัวเอง 
    ไม่ต้องให้บอกกระมัง ว่าพรรคไหน-พวกไหน นิยมสร้างข่าว ทั้งจริง-ทั้งลวง แพร่ตามโซเชียลมีเดียประจำ?
    เพราะอย่างนี้ ถึงได้บอก.......
    ไม่ต้องไปว้าวุ่น ไปตกอยู่ในกระแสสังคังปั่นข่าวเรื่องตั้งรัฐบาลตอนนี้ จะท้องผูกเปล่าๆ
    ฝ่ายไหนตั้งรัฐบาล ใครเป็นนายกฯ กฎ-กติกา มีอยู่แล้ว ดูตามเทอมเวลาแล้วกัน อย่าไปต้องอยากรู้ล่วงหน้าจนกินไม่ได้-นอนไม่หลับ
    สัปดาห์นี้แหละ จาก ๒๒-๓๑ พฤษภา
    ได้คำตอบ-รู้ตัวหมด ใครเป็นประธานรัฐสภา ใครเป็นนายกฯ และฝ่ายไหนเป็นรัฐบาล?
    รวมทั้ง "นายธนาธร" ที่ไม่ต่าง ไก่ซีพี ๑๔ วัน...เชือด!
    ไม่ต้องรอถึงเรื่องให้พรรคยืมเงินนั่นหรอก.........
    แค่เรื่องขาดคุณสมบัติ กรณีถือหุ้นสื่อ เข้าลักษณะต้องห้ามสมัคร ส.ส.ที่ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย 
    พรุ่งนี้-ปะรืนนี้ ก็รู้แล้ว!
    แค่ศาลมีมติรับคำร้อง กกต.ไว้พิจารณาวินิจฉัย ธนาธรก็ต้องถูกแขวนไปจนกว่าศาลฯ จะมีคำวินิจฉัยอย่างหนึ่ง-อย่างใดออกมาแล้วนั่นแหละ
    ธนาธรนี่ ระบบทักษิณสร้างขึ้นมาเป็นตัวประกอบฉากชั่วครั้ง-ชั่วคราวเท่านั้น ไม่มีความสำคัญที่ต้องสนใจให้เกินราคา
    "มาเร็ว-เคลมเร็ว" เผอิญพรรคไทยรักษาชาติคว่ำ 
    แดงระบอบทักษิณ จึง "ถ่ายคะแนน" ไปให้ 
    ทำให้หลงเพ้อเจ้อกันยกใหญ่ ว่าเป็นคะแนนคนรุ่นใหม่ ๕ ล้าน ๖ ล้านคะแนน
    ถ้าเป็นลาภ เรียกว่า "ทุกขลาภ"
    เพราะจาก ๖ ล้านคะแนน แทนที่จะทำให้ "ธนาธร" ถึงสภา หรือถึงฝันของคางคก ในเรื่อง "เก้าอี้นายกฯ"
    กลับจะ "ถึงคุก" ซะก่อนอยู่รอมร่อ!?
    พรรคที่ผมเห็นใจตอนนี้ คือพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย
    ดูเหมือน "เจ้าข้าว-เจ้าของ" ภายนอกพรรค เยอะจริงๆ!
    ไม่ว่าคนในพรรคพูดอะไร แสดงความเห็นอะไร ถ้ากระเดียดไปทางซีกจะร่วมรัฐบาลเพื่อไทย
    คนนอกพรรค ฝ่ายหนุนพลังประชารัฐ จะด่าเช็ด!
    ขณะเดียวกัน ถ้าคนประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย แสดงท่าทีกระเดียดไปร่วมตั้งรัฐบาลกับพลังประชารัฐ
    คนนอกพรรค ฝ่ายหนุนเพื่อไทย ก็จะด่าเช็ด!
    สรุปแล้ว โดนทั้งขึ้น-ทั้งล่อง ยิ่งยักท่า-ยักกระสายเป็นพ่อเนื้อหอม จะโดนพ่อยก-แม่ยก จากทั้งสองฝ่าย รุมจิก
    แสดงว่า การเมืองช็อตนี้ อาถรรพณ์ "พ่อยก-แม่ยก" แรงเป็นพิเศษ
    แต่ไม่ว่าฝ่ายไหนได้ตั้งรัฐบาล บอกได้เลย "สัจจะ-จริงใจ" ในทิศทางใหม่ต่อบ้านเมือง 
    ที่มองว่าอยู่ยาก จะอยู่ได้ยาว
    แต่ถ้าฝ่ายไหนเข้ามาแล้ว "อสัตย์" ซ่อนเจตนาเชือดเนื้อ-เถือหนังประเทศ ต่อให้มี ๕๐๐ เสียงในสภา
    ก็ไปไม่รอด........
    เผลอๆ จอดก่อนแจวด้วยซ้ำ!
    ๕-๑๐ ปีข้างหน้า เส้นทาง "อนาคตประเทศ" ขอบอกว่า ใครก็อย่าคาดเดา
    เพราะประเทศในอีก ๑๐ ปี จะเหนือ "จินตนาการถึง"!
    ผมอยู่ไม่ถึงหรอก........ 
    ท่านที่อยู่ถึง วันนั้นเป็นอย่างไร จุดธูปบอกบ้างละกัน
    แต่บอกภาพกว้างๆ ของประเทศได้ว่า เป็นด้านดี คนรุ่นใหม่ ที่นำพาประเทศไปสู่วันนั้น เป็นลูกหลานด้วยเลือดไทยดี 
    ประเภท "อัปรีย์-จัญไร" ชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน ในกระบาลไม่สำนึกคุณแผ่นดิน
    ถึงไม่สิ้นพันธุ์ แต่จะสิ้นสภาพ!
    รัฐธรรมนูญ ไม่ได้มี ไม่ได้เขียน เพื่อตอบสนองคำว่าประชาธิปไตยหรือเผด็จการ
    แต่มีและเขียนเพื่อ........
    ตอบสนองความ "มั่นคง-ยั่งยืน-อยู่สุข" ของคนไทยและคนในชาติเป็นสำคัญ
    ฉะนั้น รัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือฉบับไหนๆ จะเป็นอย่างไร ไม่ได้อยู่ที่ตัวรัฐธรรมนูญ
    หากแต่อยู่ที่คนใช้ ว่าใช้ด้วยทัศนคติใด เพื่อตอบสนองสิ่งใด?    
    ถ้าเพื่อ "มั่นคง-ยั่งยืน-อยู่สุข" ของประเทศ จะไม่มีปัญหากับรัฐธรรมนูญฉบับนี้
    หรือ "เพื่อไทย, อนาคตใหม่" มีปัญหา?