เข้าถึงอย่างย่อมเยาว์


เพิ่มเพื่อน    

 

                อุตสาหกรรมไทยที่ปัจจุบันต้องปรับตัวกันยกใหญ่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีระดับโลก ที่มีความกังวลว่าหากไม่ทำคงตกเทรนด์และอ่อนแรงในการแข่งขันเป็นอย่างแน่ แต่อีกมุมหนึ่งก็เป็นผลดีให้กับคนในประเทศที่จะมีคุณภาพชีวิตดีเพิ่มขึ้น และได้รับประสบการณ์ที่ก้าวไปเทียบเท่าระดับสากลได้ จึงมีหลายเรื่องที่ภาคอุตสาหกรรมและรัฐบาลจะต้องเริ่มทำอย่างจริงจัง ซึ่งหวังให้เกิดผลโดยเร็วที่สุด

                ล่าสุด สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้เกิดไอเดียที่จะผลักดันผู้ประกอบการสิ่งทอไทยในการยกระดับธุรกิจสู่การผลิต สิ่งทอเทคนิคการแพทย์ (Meditech) เพื่อช่วยสร้างโอกาสในการขยายตลาดใหม่ โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยสู่ผลิตภัณฑ์สิ่งทอเทคนิคการแพทย์แบบครบวงจร ในลักษณะสิ่งทอสมัยใหม่ที่มีความหลากหลาย แตกต่างจากคู่แข่งและผลิตโดยคนไทย (เมด อิน ไทยแลนด์)  เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมประยุกต์ที่คนไทยมีความถนัดอยู่พอสมควร

                โดยร่วมมือกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอในการเชื่อมโยงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ผลิต ผู้พัฒนาเทคโนโลยี ผู้จัดจำหน่าย และผู้ใช้สิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการตลาด เพิ่มมูลค่าให้สิ่งทอด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ

                ซึ่งจากการศึกษาวิเคราะห์พบว่า สิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพการตลาดสูงและสามารถทำกำไรได้มากเมื่อเทียบกับสิ่งทอเทคนิคประเภทอื่น โดยทิศทางการขยายตัวของสิ่งทอการแพทย์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทใช้แล้วทิ้งมีสูงมาก เช่น ชุดเสื้อกาวน์ผ่าตัดปลอดเชื้อประเภทใช้แล้วทิ้ง ถุงมือ หมวกคลุมศีรษะ ที่คลุมรองเท้า หน้ากากอนามัย และถุงบรรจุวัสดุใช้แล้วทิ้ง รวมถึงผลิตภัณฑ์ ต่างๆ สำหรับผู้สูงอายุ

                ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทยคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ เพื่อยกระดับสิ่งทอสู่สิ่งทอเทคนิคการแพทย์ เช่น บริษัท เพอร์ม่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่พัฒนานวัตกรรมเส้นใยที่ยับยั้งแบคทีเรียได้อย่างถาวรด้วยการผสานเทคโนโลยีนาโนซิงค์ และต่อยอดผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดสิ่งทอการแพทย์ เช่น ชุดผู้ป่วยและผ้าปูที่นอนขจัดเชื้อแบคทีเรีย หรือ หจก.กิมง่วนจั่น ที่พัฒนาสิ่งทอให้มีคุณสมบัติป้องกันฝุ่นและป้องกันน้ำซึมผ่าน

                ที่ต่อยอดไปสู่การผลิตชุดพยาบาลในห้องผ่าตัด นอกจากนี้ การพัฒนาด้านการออกแบบก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการยกระดับสินค้าเข้าสู่ตลาดดังกล่าว เช่น การออกแบบเสื้อผู้ป่วยที่มีความสะดวกต่อการสวมใส่และขยับตัวของผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้ใส่เฝือกแขน เสื้อผ้าที่ออกแบบให้เหมาะสมกับรูปร่างผู้สูงอายุ

                ทั้งนี้ สศอ.มีแนวทางจัดทำกลไกการพัฒนาแพลตฟอร์มอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยจะนำร่องด้วยสิ่งทอเทคนิคการแพทย์เพื่อเป็นหนึ่งฟันเฟืองที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) อุตสาหกรรมเป้าหมาย ภายใต้โรดแมปไทยแลนด์ 4.0 นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพการให้บริการคุณภาพสูงและยกระดับการผลิตวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์สมัยใหม่ในท้ายที่สุด

                โดยในอนาคตการลงทุนในอุตสาหกรรมสิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์ของไทยจะสามารถขยายสู่ตลาดส่งออกในหลายประเทศ ตามความต้องการจากผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ซึ่งดูได้จากการส่งออกสิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์ของไทยในปี 2561 มีมูลค่ารวม 59.86 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มร้อยละ 7.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

                ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกอันดับต้นๆ คือ ผ้าพันแผลผ้ากอซ ของใช้เพื่อการอนามัยที่ทำด้วยแผ่นเยื่อของเส้นใยเซลลูโลสและเอ็นเย็บแผล ตามลำดับ นอกจากนี้ตลาดในประเทศยังมีการเติบโตที่ดีมาก ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในการยกระดับสู่อุตสาหกรรมอนาคตต่อไป 

                ถือว่าการส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาสิ่งทอเทคนิคการแพทย์อย่างจริงจัง นอกจากจะช่วยลดการนำเข้าจากต่างประเทศแล้ว ยังเพิ่มทางเลือกให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่จะมีชุดเครื่องแบบและชุดใส่ปฏิบัติงานที่มีการใช้งานที่หลากหลายด้วย และยังเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ป่วยจะสามารถเข้าถึงวัสดุอุปกรณ์ฟื้นฟูร่างกายที่ผลิตภายในประเทศในราคาย่อมเยาว์กว่าอุปกรณ์นำเข้า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศทั้งด้านอุตสาหกรรม สาธารณสุข และสังคมผู้สูงวัย.

 

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"