'ธนาธร'เครียดแน่!กกต.เร่งไต่สวนปมรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติแต่สมัครส.ส. กางมาตรา151โทษคุก1-10ปีตัดสิทธิ์20ปี


เพิ่มเพื่อน    

24 พ.ค.62 -  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีที่ปรากฎเป็นข่าวว่า กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคและส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มีการเร่งรัดหรือมีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองหรือไม่ โดยขอชี้แจงว่าการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของส.ส. เป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 โดยกรณีของนายธนาธร เมื่อมีเหตุอันควรสงสัย หรือความปรากฏว่าสมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายธนาธร มีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) กกต.จึงได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งเป็นการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของกกต.ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

ส่วนกรณีที่มีการไต่สวนนายธนาธร ว่าเป็นบุคคลผู้ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. นั้น เป็นการดำเนินการตามที่มีผู้ร้องคัดค้านเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.ของนายธนาธร ซึ่งเป็นการไต่สวนว่า มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 151  หรือไม่ (ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ได้สมัครรับเลือกตั้ง หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่กกต.ได้แต่งตั้งขึ้นอย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าการดำเนินการทั้ง 2 กรณี เป็นการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของกกต.และเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ไม่ได้มีการเร่งรัดหรือมีมูลจูงใจทางการเมืองแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. ๒๕๖๑ ใน มาตรา ๑๕๑ ระบุว่า "ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทําหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดยี่สิบปี

ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ศาลมีคําสั่งให้ผู้นั้นคืนเงินประจําตําแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดํารงตําแหน่งดังกล่าวให้แก่สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"