ที่บ.ทีโอที เวลา 10.45 น. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าถึงกรณีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐจะส่งเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล ว่า ไม่เป็นความจริง และถึงจะมีการเทียบเชิญก็ยังไม่มีข้อสรุป เพราะเลขาธิการพรรคจะต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมร่วมระกว่างกรรมการบริหารพรรคและส.ส.เพื่อพิจารณาต่อไป ว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยพรรคยึดหลักประชาธิปไตยและประโยชน์ประชาชน ประเทศชาติเป็นหลัก อย่างไรก็ตามการพูดคุยกันก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีการประสานพูดคุยกันอยู่แล้ว โดยพรรคมอบหมายให้เลขาธิการพรรค พูดคุยกับพรรคการเมืองต่างๆ 

ส่วนกรณีที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุถึงผลคะแนนเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า อาจวิเคราะห์ได้ถึงผลการจัดตั้งรัฐบาล นั้นนายราเมศกล่าวว่าเป็นเรื่องที่สังคมคิดได้ แต่ไม่ใช่คำตอบหรือข้อสรุปทั้งหมดและที่ผ่านมาพรรคก็บอกแล้วว่าการเลือกประธานสภากับการจัดตั้งรัฐบาลคนละเรื่องกัน 

นายราเมศยังกล่าวถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรรเพื่อไทย ออกมาโพสต์กล่าวหาว่าพรรคเก่าแก่ไปผสมรวมกับเผด็จการ ว่าหากหมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ นั่นถือว่าบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะการเลือกประธานสภาฯเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับทุกประการ ไม่ว่าเสียงที่ได้มาจากหลายฝ่ายหรือได้จากงูเห่า การกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ตระบัตสัตย์ และผสมพันธ์กับเผด็จการถือเป็นการดูถูกเสียงส.ส. เพราะเชื่อว่าทุกเสียงที่เลือกนายชวนเพราะมีความศรัทธาและหวังให้เป็นหลักให้ฝ่ายนิติบัญญัติ 

นายราเมศยังตอบโต้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ที่กล่าวหาว่ามีการเลือกประธานสภาฯมีการต่อรองตำแหน่งและพรรคประชาธิปัตย์รอบหน้าจะสูญพันธุ์ ว่า พรรคทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน ด้วยการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติเป็นจุดเริ่มต้นและพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนและศักดิ์ศรี ดังนั้นในอนาคตไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็ทำประโยชน์ได้ การออกมาพูดเช่นนี้ถือว่าดูถูกนักการเมือง