หนาวกันเป็นแถบ!'อิศรา'เปิดคำพิพากษาศาลฎีกาคดี ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาชาติ จ.อ่างทอง ถือหุ้นสื่อ


เพิ่มเพื่อน    

31 พ.ค.62 - สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า การเพิกถอนชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ในการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 เนื่องจากผู้สมัครขาดคุณสมบัติหลายร้อยคดี มิใช่เฉพาะกรณีการถือครองหุ้นสื่อมวลชนคดีนายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร , ผลจากกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ เป็นผลให้ผู้สมัครนับร้อยคนมิได้เป็นสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเดียวเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน ,กรณีนายโอวภัทร คลังเพ็ชร์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต เขตเลือกตั้งที่ 4 จ.พิษณุโลก พรรคภราดรภาพ ถูกให้พ้นจากราชการเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานไปแล้ว 

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรานำคดีผู้สมัคร ส.ส.ถือหุ้นสื่ออีกคดีหนึ่งจากจำนวนรวมประมาณ 9 คดี (เท่าที่ตรวจพบ) มารายงาน

คดีนี้เป็นคดีนายคมสัน ศรีวนิชย์ ผู้สมัคร ส.ส.อ่างทอง เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคประชาชาติ ถูก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ประกาศรายชื่อเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากนายคมสันเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบการกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่ายและออกหนังสือพิมพ์ ต่อมานายคมสันยื่นคำร้องคัดค้านคำวินิจฉัยต่อศาลฎีกา กระทั่ง 8 มี.ค.2562 ศาลฎีกามีคำพิพากษาที่ 1356/2562 ยกคำร้อง

สรุปคำพิพากษาดังนี้

ผู้ร้อง (นายคมสัน ศรีวนิชย์) ยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตของพรรคประชาชาติ ผู้คัดค้าน (ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตการเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดอ่างทอง) ไม่ประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้รับสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยอ้างว่า ผู้ร้องขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอณาจักรไทย และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจําหน่ายและออกหนังสือพิมพ์ ผู้ร้องมิได้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ขอให้มีคําสั่งให้ ผู้คัดค้านเพิ่มชื่อผู้ร้องในรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตของพรรค

ผู้คัดค้านยื่นคําคัดค้านว่า ก่อนประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขต ผู้คัดค้านได้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตแล้ว ปรากฏว่าผู้ร้องขาดคุณสมบัติเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ขอให้ยกคําร้อง

ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตรวจสํานวนประชุมปรึกษาพิจารณาแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้ร้องมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ เห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 48 บัญญัติว่า “บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ... (3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ...” และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 บัญญัติเช่นเดียวกันว่า “บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัคร รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร…(3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือ สื่อมวลชนใดๆ...” ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการ หนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ มิได้ ข้อเท็จจริงตามคําร้อง คําคัดค้าน เอกสารพยานหลักฐานแห่งคดี และตามที่ปรากฏในทางการไต่สวนปรากฏว่า ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ที.เอ็ม.อินเตอร์เนชั่นแนล อิมพอร์ท เอ็กซ์พอร์ท จํากัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือจําหน่าย และออกหนังสือพิมพ์ด้วย ดังนี้ ผู้ร้องจึงเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) ที่ผู้ร้องอ้างข้อเท็จจริงว่าแม้มีวัตถุประสงค์ดังกล่าวแต่บริษัทไม่ได้ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์เลย ฟังไม่ขึ้น ดังนั้นที่ผู้คัดค้านไม่ประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตของพรรคประชาชาติชอบแล้ว 

จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง 

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า คดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นก่อน คดีนายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร พรรคอนาคตใหม่ ถือหุ้นสื่อ ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2562 ข้อเท็จจริงทั้งสองคดีคล้ายกัน อ่านต้นฉบับ

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"