ผลของมฤตยูจรในเมษกับผู้ที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎอย่างคุณอภิสิทธิ์


เพิ่มเพื่อน    

         ภาพลัคนาสถิตราศีกรกฎกับเรื่องราวต่างๆ ของชีวิต

มฤตยูจรเดินอยู่ในราศีเมษระหว่าง 6 มีนาคม 2559-8 กรกฎาคม 2565

                ขณะวิ่งหาข่าวเกือบทุกพรรคการเมือง-ทำเนียบรัฐบาล-รัฐสภา ตีคู่กับการเริ่มศึกษาโหราศาสตร์ด้วยตัวเองโดยใช้ดวงชะตาของทั้งน้องๆ นักข่าว-นักการเมืองหลายคนเป็นดวงครูนั้น คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนักการเมืองหนุ่มน้อยหน้าใสจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งในแหล่งข่าวที่เอื้อเฟื้อต่อการเรียนของผู้เขียนอย่างน่าประทับใจ

                ทั้งนี้ เพราะแม้ท่านเป็นนักเรียนนอก จบจากมหาวิทยาลัยระดับโลก จะเชื่อหรือไม่เชื่อด้านโหราศาสตร์ก็ไม่รู้ แต่ท่านไม่เคยมีอาการเหนียมอายที่จะคุยกับโหรสมัครเล่นที่เพิ่งเริ่มต้นเรียน หรือไม่แม้แต่จะแสดงอาการดูถูกดูหมิ่นวิชาโหราศาสตร์ที่หลายคนตราหน้าว่างมงาย

                ขณะนั้นด้วยความโดดเด่นทางการเมืองของท่านทำให้บรรดาโหรทั้งหลายมีทัศนะต่างๆ นานาเกี่ยวกับดวงชะตาคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ไม่ได้เกิดเมืองไทย รายละเอียดส่วนตัวคือ เวลาเกิดที่จะใช้วางลัคนาก็ไม่ชัดเจนว่าสถิตราศีใดแน่ จำได้ว่ามีโหรบางท่านเคยทำนายด้วยซ้ำว่า ชะตาเช่นนี้ ระดับวาสนาไม่มีโอกาสเป็นถึงนายกรัฐมนตรี

                จนเมื่อผู้เขียนขอรายละเอียดส่วนตัวของท่านที่เกิดประเทศอังกฤษ เมืองนิวคาสเซิล ท่านก็บอก พร้อมคิดทอนเป็นเวลาที่ประเทศไทยให้เรียบร้อย และเมื่อผูกดวงชะตาแล้วลัคนาสถิตราศีกรกฎ ผู้เขียนบอกกับท่านอย่างมั่นใจว่าได้เป็นถึงนายกรัฐมนตรีแน่นอนเพราะพื้นฐานชะตาเดิม พระอาทิตย์-ดาวตัวแทนยศศักดิ์ เป็นกาลกิณีวันเกิด แต่ได้มาตรฐานมหาจักรกุมลัคนา ตำราบอกขลังนักให้คุณเอกอุ ประกอบกับพระจันทร์ดาวประจำตัวได้ตำแหน่งอุจจ์-สูงส่งในภพลาภะขอบเขตของโชคลาภและความสำเร็จของชีวิต

                และจำได้ว่า บอกกับท่านว่าจะเป็นนายกฯ ตอนระยะอายุย่าง 44 ก่อนเต็ม 44 ปี อันเป็นระยะหนึ่งปีที่ดาวเดชเป็นศรีจร-ตำราบอกเป็นระยะของคนที่ หากมีเชื้อเจ้าจะได้สถาปนา หากเป็นคนธรรมดาจะได้เป็นพระยาพานทอง และในที่สุดก็เป็นไปตามนั้น

                แม้จะลองวิชาไป และยุติการหาข่าวแล้ว แต่ผู้เขียนยังจับตาดวงชะตานี้อย่างใกล้ชิด เพราะลีลาชีวิตน่าศึกษามาก จนมาสะดุ้งอีกครั้งเมื่อมฤตยูจร (0) ดวงเบ้อเร่อ ย้ายจากราศีมีนเข้ามาเดินในราศีเมษซึ่งเป็น ขอบเขตของการงาน ยศถาบรรดาศักดิ์  ตำแหน่งงานปกครองทั้งหลายของผู้ที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎทั้งหลาย (เมษ-ภพที่สิบ-กัมมะหมายถึงการงาน)

                ผู้เขียนจึงมั่นใจและส่งสัญญาณมาตลอดว่าระหว่างมีนาคม 2559-กรกฎาคม 2565 คุณอภิสิทธิ์ก็ เหมือนผู้ที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎ ทั้งหลายที่ หนีการเปลี่ยนแปลงใหญ่อันเหนือกว่าการปฏิรูป ถ้าจะให้ถูกโฉลกต้องปฏิวัติขึ้นไปในเรื่องตำแหน่ง หน้าที่การงานไม่พ้น จะทำงานหรือดำรงตำแหน่งเหมือนเดิมอีกไม่ได้แล้ว

                ทั้งนี้ เป็นเพราะมฤตยูนี้เป็นเจ้าของ ภัยอาเพศ บังคับถึงเหตุร้าย เหตุการณ์ไม่ทันนึกคิด การผลัดเปลี่ยนทันทีทันใดขนาดใหญ่แบบปฏิวัติ พลัดพราก เสียใจ การต้องเนรเทศ (ทั้งเนรเทศตนเองหรือถูกเนรเทศ) โชคไม่แน่นอน ฯลฯ โดยวิธีการรับมือคือ ถ้ามฤตยูจรเดินอยู่ในขอบเขตเรื่องอะไรในดวงชะตาก็ ต้องกล้าชิงเปลี่ยนแปลงหรือปฏิวัติในเรื่องนั้นๆ ก่อน หากไม่เปลี่ยนจะถูกเปลี่ยน หรือหากฝืนได้ก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด

                อันที่จริงผู้เขียนซึ่งไกลจากวงการนักข่าวแล้ว ก็จับทางอยู่ห่างๆ ได้ว่าคุณอภิสิทธิ์เองก็พยายามจะเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งตัวเอง ในพรรค แต่คงไม่เพียงพอทัดทาน เพราะพลังของการจะเปลี่ยนแปลงรุนแรงมาก ในลักษณะสุมพลังตามอาการของมฤตยูก่อนระเบิดใหญ่ เริ่มจากโพลหลายสำนักชี้ว่าคะแนนความนิยมในตัวคุณอภิสิทธิ์ไม่โดดเด่นพอจะนำพรรคชนะเลือกตั้ง

                และเค้าลางยังปรากฏคล้ายก่อนภูเขาไฟระเบิด-แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในชีวิต คือการท้าทายตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ของนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่แม้คุณอภิสิทธิ์จะชนะ แต่คะแนนของหมอวรงค์ก็สูงจนน่าแปลกใจ

                และแล้วเมื่อสะสมพลังของมฤตยูได้ที่ครั้นวันเลือกตั้งอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ต่อเป้าหมายได้ ส.ส.ต่ำกว่าร้อยคน-ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ ส.ส.เขตแม้แต่คนเดียว-ฐานที่มั่นภาคใต้ถูกเจาะ-ภาคเหนือได้ ส.ส.เขตคนเดียว

                วันนั้นคุณอภิสิทธิ์ก็แสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และมฤตยูยังอาเพศต่อ ทำให้คุณอภิสิทธิ์ลาออกจาก ส.ส. เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ลงมติด้วยเสียงข้างมากให้เข้าร่วมรัฐบาล

                ต่อไปนี้คือการเริ่มหน้าใหม่ของชีวิตการงาน-ตำแหน่งของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และอย่าลืมว่ามฤตยูนั้น ครูโหรแฉล้ม เลี่ยมเพ็ชรรัตน์ ผู้ล่วงลับบอกว่าเป็นเรื่องของอาการ ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตั้งแต่กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไปมฤตยูจรจะเดินเข้าไปอยู่ในดินแดนของโชคลาภและความสำเร็จของชีวิตผู้ที่ราศีกรกฎ (ภพที่สิบเอ็ด-ลาภะ) ยาวนานเจ็ดปี

                สำหรับผู้ที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎทั้งหลาย-หลายคนฉุนผู้เขียนว่าบอกแต่ให้เปลี่ยนแปลง-ปฏิวัติงานแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจะทำอย่างไร-ไปทางไหน-ทำไม่บอกมาให้หมด?

                คำตอบคือ งานเป็นเรื่องสำคัญชีวิต ที่ แต่ละคนต้องเลือกทางเอา แต่ขอให้สังเกตคือ เมื่อทำๆอะไรแบบเดิมๆ ไปแล้วรู้สึกอึดอัด ไม่มีความสุขเหมือนมีพลังไร้สภาพกดดัน ขอให้กล้าชิงเปลี่ยนแปลง ลองหาทางใหม่ที่ไม่เคยทำหรือทัน-ล้ำสมัยกว่าเดิม

                ขอยกตัวอย่างที่หนึ่ง ที่เกิดกับผู้เขียนเอง ที่ แม้ลัคนาไม่ได้สถิตราศีกรกฎ แต่ดาวตัวแทนการงานเจออิทธิพลของของมฤตยูอย่างจัง ผลคือ เมื่อปลายปี 2560 สถานการณ์พลิกผันทำให้มารับทำนายทายทักดวงชะตาแบบไม่คาดคิด ไม่เคยฝันและไม่เคยอยู่ในหัวคิด โดยเหตุเริ่มต้นเกิดจากคุณแม่ท่านหนึ่งที่ลูกเจอคดีติดคุกได้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้เขียนจากไหนก็ไม่รู้ โทร.มาขอดูดวงชะตาชนิดยอมจ่ายไม่อั้นเป็นที่น่าเห็นใจมาก หลังจากนั้นเป็นต้นมา สถานการณ์ก็ยืดเยื้อยาวนานถึงวันนี้

                เหตุการณ์ที่สอง คือผู้เขียนตัดสินใจคืนรายการวิทยุรายการสุดท้ายที่จัดยาวนานมา 15 ปีไปเมื่อสิ้น ปี 2561 เพราะจัดไปก็อึดอัด รู้สึกว่าไม่ใช่ แล้วหันมาจัดเรื่องโหรในยูทูบแทน แม้รายการวิทยุนั้นจะได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าเดิม 

                ขนาดเป็นโหรเองผู้เขียนยังนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าครั้นกรกฎาคม 2565 เมื่อมฤตยูจรจากราศีเมษไปแล้วอาชีพการงานของตนเองจะเป็นอย่างไร ทำได้เพียงเปลี่ยนแปลง

                แม้อนาคตด้านการงานเราไม่รู้ แต่ไม่รู้ก็ต้องเดินไป จึงขอให้กำลังใจผู้ที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎกล้าเปลี่ยนแปลงใหญ่เรื่องงาน ตำแหน่งหน้าที่ ไปทำอะไรใหม่ๆ อย่างน้อยหากต้องทำงานเดิมๆ อยู่ก็อาจปฏิวัติวิธีการ-เนื้องาน

                หรือหากเริ่มอาชีพที่สอง-สามได้จะถูกโฉลกมากเพื่อรองรับเมื่อมฤตยูเข้าไปเดินอยู่ในภพลาภะหลังกรกฎาคม 2565 ไปแล้ว คือมีรายได้พิเศษนั่นเอง. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"