สทนช.เร่งเคลียร์สิ่งกีดขวางทางน้ำ หวังช่วยระบายน้ำช่วงฤดูฝนเร็วขึ้น


เพิ่มเพื่อน    

 

9 มิ.ย. 2562 นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยถึงความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายให้ สทนช.พิจารณาประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และปรับปรุงข้อมูลแผน ผลการดำเนินงาน พร้อมทั้งรายละเอียดแผนการดำเนินงานในแต่ละปี เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการปรับปรุงอาคาร หรือสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่เดิม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การระบายน้ำในช่วงฤดูฝนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งผลการดำเนินงานล่าสุด พบว่า การจัดการสิ่งกีดขวางทางน้ำทั่วประเทศ เช่น โครงสร้างสิ่งก่อสร้าง ถนน สะพาน ที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการทั้งสิ้น 11 หน่วยงาน อาทิ กรมทางหลวง การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมทางหลวงชนบท กรมชลประทาน เป็นต้น รวมทั้งสิ้น 562 แห่ง แบ่งเป็น ภาคเหนือ 161 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 60 แห่ง ภาคกลาง 115 แห่ง ภาคตะวันออก 115 แห่ง ซึ่งปัจจุบันทั้ง 451 แห่ง ยังไม่มีการดำเนินการปรับปรุง เนื่องจากมีหลายหน่วยงานยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบพิกัดจุดที่ตั้ง และข้อมูลบัญชีรายการของอาคาร จึงเห็นควรพิจารณาตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูล เพื่อให้ถูกต้อง สมบูรณ์ และจัดทำแผนปฏิบัติการในแต่ละปีต่อไป ขณะที่การปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำในเขตภาคใต้ จำนวน 111 แห่ง ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ 74 แห่ง และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 26 แห่ง โดยใช้งบประมาณเหลือจ่ายปี 2561 ที่เหลือจำนวน 11 รายการ อยู่ในแผนการดำเนินงานปี 2562 และ 2563 ของหน่วยงาน

“เนื่องจากมีหลายหน่วยงานที่ยังจัดส่งข้อมูลไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ รวมทั้งมีการขอปรับแก้ข้อมูลการตรวจสอบสิ่งกีดขวางทางน้ำเพิ่มเติมในช่วงที่ผ่านมา สทนช.จึงได้ประสานขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยงข้องเร่งสำรวจ ตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูล พร้อมทั้งรายละเอียดแผนการดำเนินงานในแต่ละปี และรายงานมายัง สทนช.ภายใน 15 มิ.ย. 62  เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการลุ่มน้ำ มีส่วนร่วมในการพิจารณาตรวจสอบความจำเป็นและเหมาะสม ก่อนรายงานเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า นอกจากสิ่งกีดขวางทางน้ำที่เป็นอาคารสิ่งก่อสร้างแล้ว สทนช.ยังได้ติดตามความก้าวหน้าการจัดการแก้ไขปัญหาผักตบชวา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ส่งผลทำให้ประสิทธิภาพการไหลของน้ำลดลง        โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักได้ดำเนินการสำรวจปริมาณผักตบชวาในแหล่งน้ำทั่วประเทศที่ต้องดำเนินการจัดเก็บและดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำจัดผักตบชวามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงฤดูฝนนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองบูรณาการร่วมกับ 3 หน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง และกำหนดพื้นที่ความรับผิดชอบในแม่น้ำสายหลักอย่างชัดเจน ได้แก่ กรมโยธาธิการและผังเมือง รับผิดชอบแม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีนตั้งแต่ประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา ลงมาถึงอ่าวไทย  กรมเจ้าท่า แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี กรมชลประทาน แม่น้ำบางประกง แม่น้ำน้อย แม่น้ำท่าจีนตั้งเหนือประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา และพื้นที่คลองชลประทาน กรุงเทพมหานคร แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านพื้นที่กรุงเทพมหานคร  ขณะที่แหล่งน้ำปิดทั่วประเทศกรมการปกครองจะเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่โดยเน้นมาตรการเสริมสร้าง และเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาผักตบชวาอย่างยั่งยืน  ซึ่งผลการดำเนินงานล่าสุดพบว่า ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาผักตบชวาแล้วทั้งสิ้น 2,834,642 ตัน แบ่งเป็น การดำเนินการโดยจังหวัด ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กรมการปกครอง และทหารในพื้นที่ 296,631 ตัน กรมโยธาธิการฯ 663,598 ตัน กรมชลประทาน 1,647,191 ตัน กรมเจาทา 227,222 ตัน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"