ตามคาด'ช่อ'ขอโทษอ้างIO


เพิ่มเพื่อน    


     "ช่อ" ร้อนตัวแจง "ทำไมภาพนั้น ไม่ควรมีคำบรรยาย" พร้อมขอโทษประชาชน วอนอย่านำสถาบันฯ มาโจมตีทางการเมือง เพจดังขยี้แก้ตัวกลวงโบ๋ ฟังไม่ขึ้น โบ้ยปฏิบัติการไอโอ คสช. "ดี้" ของขึ้นฉะ "วันนั้นมึงอารมณ์อะไร"
     เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pannika Chor Wanich ในหัวข้อ ทำไมภาพนั้น “ไม่ควรมีคำบรรยาย?” โดยระบุว่า เมื่อวานมีเพจเฟซบุ๊กที่ทำงานปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารทางจิตวิทยา (หรือที่เรียกกันว่า เพจ IO) ให้แก่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง นำภาพที่ช่อถ่ายเล่นๆ กับเพื่อนในช่วงรับปริญญาที่จุฬาฯ เมื่อปี 2553 มาโจมตีช่ออย่างรุนแรงโดยพยายามเชื่อมโยงกับเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์
     ขออธิบายดังนี้ว่า ตอนนั้นเป็นยุคหลังรัฐประหาร 2549 และมีกระแสการกล่าวหาผู้คนว่าไม่จงรักภักดีเกิดขึ้นไปทั่วทั้งในโลกอินเทอร์เน็ต และในโลกแห่งความเป็นจริง ตัวเองกับเพื่อนๆ เติบโตมาในบรรยากาศความขัดแย้งทางการเมืองเช่นนี้ พวกเราในฐานะนักเรียนรัฐศาสตร์ ก็เฝ้าติดตามปรากฏการณ์เหล่านี้ด้วยความกังวลอย่างมาก บ่อยครั้งการนำเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้โจมตีทางการเมือง แบ่งฝักฝ่ายในหมู่ประชาชนให้เกลียดชังกัน หรือบานปลายไปถึงขั้นล่าแม่มดกัน กลายเป็นความขื่นขันตลกร้าย
     หลังรัฐประหาร 2549 เป็นเรื่องง่ายมากที่คนที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารจะถูกกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี และเป็นเรื่องง่ายมากที่จะจัดการใครให้ติดคุกเพียงมีคนชี้หน้าเขาว่าไม่จงรักภักดี การสร้างความเกลียดชังแบบนี้ก่อให้เกิดคำถามมากมายในหัวของคนหนุ่มสาวจำนวนมากที่เติบโตมาในยุคหลังรัฐประหาร กระทั่งบางครั้งกลายเป็นสิ่งที่เรานำมาคุยล้อกันเพื่อสะท้อนความขื่นขันในโศกนาฏกรรมทางการเมืองของไทย
     นี่คือ “ข้างหลังภาพ” ที่บอกว่า “ไม่ควรมีคำบรรยาย” เราจะบรรยายอย่างไรได้บ้างในยุคสมัยที่วันหนึ่งอาจมีคนมาชี้หน้ากล่าวหาว่าคุณมันไม่จงรักภักดี และดังนั้นคุณต้องติดคุกหรือออกจากประเทศนี้ไปยอมรับว่าภาพการประชดล้อเลียนกระแสความเกลียดชังจากการล่าแม่มดของนิสิตนักศึกษาจำนวนมาก รวมถึงภาพนี้ดูไม่เหมาะสม และต้องขออภัยอย่างสูงต่อประชาชนที่เห็นภาพนี้แล้วเกิดความไม่สบายใจ แต่สิ่งที่อยากให้ทุกท่านตระหนักเช่นกัน คือ สังคมการเมืองไทยกำลังทำให้คนหนุ่มสาวในรอบสิบกว่าปีมานี้ เติบโตมาพร้อมคำถามมากมายกับการใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือทางการเมืองทำลายล้างกัน
     ตนเองและเพื่อนๆ เชื่อในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข พวกเราอยากเห็นระบบรัฐสภาที่ยึดโยงกับเสียงของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย และมีสถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่กับระบอบประชาธิปไตยอย่างมั่นคง ไม่ใช่การเมืองที่แอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้รัฐประหารและทำลายล้างคู่แข่งทางการเมืองกันบ่อยครั้ง
     “วันนี้ช่อไม่ใช่นิสิตแล้ว แต่เป็นนักการเมือง เวลาผ่านไปเกือบทศวรรษ ทว่าสภาพการเมืองไทยก็แทบไม่เปลี่ยนไปเลย ขอร้องเถอะค่ะ ว่าอย่านำประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์มาโจมตีกันทางการเมืองอีกเลย รวมถึงขอร้องให้ผู้ที่ตามขุดคุ้ยเพื่อนของช่อทุกคนในรูป ยุติการกระทำดังกล่าว อย่าให้พวกเขาเดือดร้อนเพียงเพราะเป็นเพื่อนของนักการเมืองคนหนึ่ง คำขอร้องนี้ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่ออนาคตที่มั่นคงยั่งยืนของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งหลายคนมักนำสถานะของสถาบันฯ มารับใช้ตัวเอง เพียงเพื่อหวังทำลายล้างศัตรูทางการเมืองของตน โดยไม่คำนึงถึงต้นทุนทางการเมืองที่ต้องสูญเสียไป” น.ส.พรรณิการ์ระบุ
    นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกระบวนการพยายามดิสเครดิตพรรคอนาคตใหม่ว่า เราเข้าใจถึงกระแสการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม เพื่อทำให้เราอ่อนแอลง เขาพยายามไปขุดข้อมูลในอดีตที่นานมากๆ ของทั้งแกนนำพรรค และ ส.ส.ของเรา เพื่อนำมาโจมตี ซึ่งเรามองว่าไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เพราะเป็นจุดยืนของเราที่มีมาตลอด
    “เราเชื่อว่าการกระทำต่อจากนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าเราเป็นอย่างไร ทั้งในข้อบังคับ และได้รณรงค์หาเสียงว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขมาโดยตลอด อย่างไรก็ดี การตีความจากข้อมูลที่ปรากฏ สามารถตีความได้ทั้งหมด บางคนอาจตีความเลยเถิดไป ก็เหมือนคนขับแท็กซี่ที่โดนจับ หากเขาจะเอาผิด แค่แต่งตัวไม่เรียบร้อย ก็โดนจับปรับได้” รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าว
    วันเดียวกัน เพจ เสธPlay ซึ่งมีผู้ติดตามเกือบ 5 หมื่นคน ได้โพสต์เฟซบุ๊กกรณีที่ น.ส.พรรณิการ์ชี้แจงถึงภาพถ่ายที่ไม่เหมาะสมว่า เป็นโพสต์แก้ตัวที่เรียกได้ว่า กลวงโบ๋ ไม่ต้องไปโทษชาวบ้าน ถ่ายรูปเล่นกันเอง แล้วลงรูปเองด้วย จะมาโบ้ยเป็นเรื่องการ IO ไม่ได้ แล้วยังสัมผัสถึงความจริงใจในข้อเขียนไม่ได้เลย โดยเฉพาะเมื่อเอารูปที่เห็นมาเทียบ ว่าง่ายๆ ก็คือต้องรีบกัดฟันโหนเพื่อเอาตัวรอดแบบนั้นเอง
    "สุดท้าย การที่ช่อมาขอร้องว่าขอให้หยุดขุดคุ้ยเพื่อนๆ ในรูป อย่าให้เดือดร้อนเพียงเพราะเป็นเพื่อนของนักการเมืองคนหนึ่งนั่น คือ เสธ. จะบอกว่า เท่าที่เห็น ไม่มีใครเขาสนใจเพื่อนๆ คนอื่นในรูปกันนักหรอกครับ เขาสนใจนายแว่นที่ทำท่าล้อเลียนในหลวง ร.9 ต่างหาก ขอบคุณช่อนะครับ ที่ลงภาพพวกนี้มาให้พวกเราเห็น เพราะภาพพวกนี้มันยิ่งย้ำเตือนได้หนักแน่นขึ้น ว่าพรรคของคุณเป็นแหล่งรวมคนประเภทใด" เพจ เสธPlay ระบุ
    ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "หน้าที่ของคนไทยอย่างเรา คือให้ข้อมูลลูกหลานของเราด้วยความจริงเช่นนี้ ที่จริงฉันของขึ้นหนักมาก เมื่อได้เห็นภาพบางภาพที่กำลังว่อนอยู่ในโลกโซเชียลตอนนี้ ภาพในอดีตของเด็กสวมครุยรับปริญญาทำท่าลบหลู่ขำขันกับภาพบุคคลที่เป็นที่เคารพสูงสุดของคนในชาติ ชี้นิ้วไปยังป้ายที่มีพระนามของพระธิดาของพระองค์ท่านด้วยท่าทีที่ไม่สมควร ชี้ไปที่ป้ายพระนามผู้ที่ต้องมานั่งเป็นหลายชั่วโมงเพื่อจะหยิบปริญญาบัตรให้พวกเขา อารมณ์อะไร ใส่ครุยทำไม ไปรับปริญญาจากท่านทำไม ถ้ารู้สึกไม่ยอมรับ งงในงง สละสิทธิ์ได้นะ ไม่เข้าพิธีก็ได้ ไม่ผิดกฎหมายเลยสักข้อ วันนี้ เขาเป็น ส.ส.กันละ ก็ตอบคำถามของผู้คนไปละกันจ้ะ...ว่า “วันนั้น” มึงอารมณ์อะไร"
    นางสาวศุภมาส เสนะเวส แกนนำกลุ่ม “ขบวนผู้หญิงกับการปฏิรูปการเมือง” หรือ  WeMove โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้ "วันรับพระราชทานปริญญา แต่เอารูปพระราชามาล้อเล่น ส่อกำพืดส่อความเป็นกากเดน พวกเด็กเวรจัญไรจงกินกบาล แม้เป็นเลนเป็นตมคงบานได้ บัวสดใสงามหรูชมพูฉาน แต่ขอบอกไอ้-อีพวกหมู่มาร บัวไม่บานในนรก หมกไหม้เทอญ เจ้าประคุณเอ๋ย ขอให้ตกนรกทุกคนไอ้พวกเด็กเปรต".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"