ฟันผู้มีอิทธิพล หน.วินยิงถล่ม


เพิ่มเพื่อน    


    ศาลอนุมัติหมายจับ 7 คนจากเหตุ 2 วินมอเตอร์ไซค์ยกพวกถล่มมีคนตาย-เจ็บ จับได้แล้ว 6 คน ขณะที่ขาใหญ่คุมวินติดต่อมอบตัว บช.น.สั่งตั้งชุดสืบสวนสอบสวนหาผู้ร่วมก่อเหตุ บิ๊กป้อมกำชับห้ามมีอีก เผยยอดวินทั่วกรุง 5.5 พันแห่ง สมาชิก 1 แสนคน 
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 17 มิถุนายนนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงความคืบหน้าคดีวินจักรยานยนต์ 2กลุ่มย่านบางนายกพวกทำร้ายกัน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ว่า ได้รับรายงานจาก สน.บางนาเพิ่มเติมว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.บางนาได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 7 คน โดยสามารถติดตามจับกุมได้ 3 คน ยังอยู่ระหว่างหลบหนีอีก 4 คน และจับกุมผู้ต้องหาที่มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก 1 คน ขณะเข้าทำการตรวจค้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนยังคงระดมกำลังกดดัน ตรวจค้น ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีไปอยู่ และหากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนการกระทำความผิดมีความเชื่อมโยงไปถึงผู้ใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
    พร้อมกันนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะมีคำสั่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ในการพิสูจน์ทราบผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความผิดฐานร่วมกันชุลมุนต่อสู้, ทะเลาะกันในที่สาธารณะฯ และทำให้เสียทรัพย์ เป็นต้น โดยดำเนินการสืบสวน สอบสวน ขยายผลจากภาพถ่ายกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานต่างๆ ตลอดจนนำไปสู่การออกหมายและติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะเร่งคลี่คลายคดีและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจให้กับพี่น้องประชาชน
    ที่ สน.บางนา มีรายงานว่า ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 7 คน ประกอบด้วย 1.นายรังสรรค์ ศรไชยากร 2.นายวันชัย มงคลเข็ม 3.นายปิยะ พวงเกษร 4.นายประมุข วิเชียรดิลกกุล 5.นายพันธ์ศักดิ์ พละทรัพย์ 6.นายมานพ มิ่งมงคล 7.นายจีระพงษ์ วิบูลย์รัชกิจ ทั้งหมดถูกแจ้ง 4 ข้อหา รวมทั้งร่วมกันฆ่าผู้อื่น
    พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง รอง ผบก.น.5 เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้ว 5 จาก 7 ราย ได้แก่ นายปิยะ พวงเกษร และนายรังสรรค์ ศรไชยากร ที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้ ขณะที่นายจีระพงษ์ วิบูลย์รัชกิจ หรือเบส ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เมื่อคืนที่ผ่านมา และวันนี้สามารถติดตามจับกุมนายมานพ มิ่งมงคล และนายพันธ์ศักดิ์ พละทรัพย์ ได้ ส่วนนายเจริญ เจริญผล ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมหลังพบอาวุธปืนก่อนหน้านี้ พบว่าอยู่ในเหตุการณ์ชุลมุนด้วยเช่นกัน
    สำหรับนายประมุข วิเชียรดิลกกุล และนายวันชัย มงคลเข็ม ยังอยู่ระหว่างหลบหนี คาดว่ายังคงอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ติดตามกดดันให้เข้ามอบตัว ซึ่งคลิปที่ปรากฏชี้ชัดว่านายวันชัยเป็นผู้ยิงปืนในวันเกิดเหตุ นอกจากนี้จะพิจารณาออกหมายจับผู้ต้องหารายอื่นที่พยานหลักฐานสาวไปถึง
    ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า ทนายความของนายประมุข หัวหน้าวินรถจักรยานยนต์ซอยอุดมสุข 1 ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งนัดหมายวัน-เวลาเข้ามอบตัว โดยเปิดเผยว่า ขณะนี้นายประมุขอยู่ระหว่างการพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บที่ถูกกลุ่มคู่กรณีทำร้ายร่างกาย 
    ที่ศาลจังหวัดพระโขนง พนักงานสอบสวน สน.บางนาคุมตัวนายรังสรรค์ หรือเอ็กซ์ ศรไชยากร อายุ 29 ปี มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 มิ.ย.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 6 ปาก รอผลตรวจของกลางและผลการตรวจสอบพิมพ์มือผู้ต้องหา
    คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2562 มีกลุ่มผู้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง 2 กลุ่ม คือปากซอยสุขุมวิท 101/5 กับซอยอุดมสุข 2 ยกพวกทำร้ายร่างกายกัน กลุ่มวินซอยอุดมสุขวิ่งหลบหนีเข้าไปในชุมชนรุ่งเรือง กลุ่มวินปากซอยสุขุมวิทได้ติดตามไป ซึ่งมีนายปิยะ หรือหมู พวงเกษร, นายรังสรรค์ (ผู้ต้องหา) และนายวันชัย หรืออั้ม มงคลเข็ม มีอาวุธปืนทั้งสามคนพร้อมกับพวกอีกจำนวนหนึ่ง ได้ยิงปืนเข้าไปในชุมชนรุ่งเรือง เป็นเหตุให้นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ ถูกกระสุนถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันมีนายวัชรินทร์ งาเฉลา ซึ่งอยู่กลุ่มวินปากซอยสุขุมวิท ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บ ส่วนกลุ่มก่อเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนีไป ต่อมาสอบสวนพยานบุคคลและสืบสวนภาพกล้องวงจรปิด ยืนยันว่ากลุ่มวินปากซอยสุขุมวิทมีนายรังสรรค์ ผู้ต้องหาถืออาวุธปืนแนบข้างนายปิยะ ที่ใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในชุมชนแล้วถูกผู้ตาย
    พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ โดยมิได้รับอนุญาตฯ, ร่วมกันพกพาอาวุธเข้าไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุสมควร และร่วมกันยิงปืนฯ, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายฯ ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี
    วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน สน.บางนาได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกนายเจริญ เจริญผล ผู้ต้องหาในคดีนี้อีกราย โดยแจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เนื่องจากมีพฤติการณ์ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่คู่กรณีไม่ให้เข้ามาในซอย 
    ศาลพิจารณาและสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองแล้ว อนุญาตให้ฝากขัง
    พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติม คาดว่ามีผู้อยู่ในเหตุการณ์เกือบ 100 คน ส่วนนายประมุข วิเชียรดิลกกุล หัวหน้าวินรถจักรยานยนต์รับจ้างอุดมสุขซอย 1 ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว หลังศาลออกหมายจับในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น และข้อหาอื่นรวม 4 ข้อหา ขณะเดียวกัน ตำรวจยังพบหลักฐานว่านายประมุขมีการเรียกเก็บค่าหัวคิวจากสมาชิก อาจเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล และยังพบว่าเหตุการณ์วันที่ 15 มิ.ย. กลุ่มของนายประมุขมีการจัดเตรียมอาวุธใส่รถยนต์มาที่จุดเกิดเหตุ ตำรวจจะสอบสวนว่านายประมุขเกี่ยวข้องกับการจัดหาอาวุธหรือไม่ หลังจากนี้อาจมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมในอีกหลายข้อหา
    ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้เพียงสั้นๆ ว่า "ผมได้สั่งการไปแล้ว"
    ทั้งนี้ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกระทรวงกลาโหม​ ชี้แจงในเวลาต่อมาว่า พล.อ.ประวิตร​ได้สั่งการให้ตำรวจเร่งรัดติดตามความคืบหน้าเหตุทะเลาะวิวาทของวินจักรยานยนต์พื้นที่บางนา โดยให้ติดตามการบังคับใช้กฎหมายตามข้อเท็จจริงกับผู้กระทำผิดทั้งหมดโดยเร็ว พร้อมย้ำขอให้ตำรวจทุกพื้นที่ให้ความสำคัญกับการกวาดล้างอาวุธเถื่อนและอาวุธสงคราม กำหนดมาตรการเข้ม ไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีกเด็ดขาด
    พล.ท.คงชีพกล่าวว่า​ พล.อ.ประวิตรได้กำชับให้ทหารสนับสนุนการทำงานร่วมกับตำรวจและกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามกำกับความต่อเนื่องของการจัดระเบียบวินจักรยานยนต์ รวมทั้งรถตู้สาธารณะในทุกพื้นที่ ไม่ให้เกิดปัญหาวินเถื่อน การวิ่งทับเส้นทาง หรือมีอิทธิพลเข้ามาแทรกแซงการทำมาหากินอันสุจริตของผู้ประกอบการเดิม โดยขอให้มุ่งเน้นความสะดวกและปลอดภัยของประชาชน และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคมเป็นหลัก พร้อมขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันเป็นหูเป็นตา แจ้งเตือนการกระทำที่อาจเกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยต่อสังคมให้เจ้าหน้าที่รัฐทราบทันที
    นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงขอบเขตความรับผิดชอบของ กทม. ในการจัดการวินจักรยานยนต์รับจ้างที่เกิดปัญหาในพื้นที่เขตบางนา ว่า อำนาจหน้าที่หลักในการเพิกถอนใบอนุญาต หรือยกเลิกวินจักรยานยนต์เป็นของกรมการขนส่งทางบก กทม.ไม่สามารถทำตามกระแสเรียกร้องจากสังคมให้ยกเลิกวินดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม จะได้เรียกเจ้าหน้าที่เทศกิจจากทั้ง 50 เขตมาหารือ ว่าสามารถทำอะไรได้บ้างภายใต้ข้อกฎหมายที่ กทม.ใช้อยู่ คือ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด ที่ผ่านมา กทม.มีอำนาจหน้าที่ดูว่าวินตั้งอยู่ในจุดที่เหมาะสม สะอาด ไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายแก่ประชาชนคนใช้ทางเท้าหรือไม่เท่านั้น
    มีรายงานว่า จากการตรวจสอบของเขตบางนา ทั้ง 2 วินที่ก่อเหตุวิวาทได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แต่ผู้ขับขี่ได้รับอนุญาตหรือไม่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อเกิดเรื่อง คณะอนุกรรมการ 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ตำรวจ ทหาร กทม. และกรมการขนส่งทางบก จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมร่วมพิจารณาว่าเป็นบุคคลอันตรายหรือไม่ ควรให้ประกอบอาชีพต่อหรือไม่ ก่อนจะสรุปส่งเรื่องให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการ
    สำหรับข้อมูลล่าสุด มีวินจักรยานยนต์ในกรุงเทพฯ รวมประมาณ 5,500 วิน และมีผู้มาขออนุญาตขึ้นทะเบียนขี่จักรยานยนต์รับจ้างประมาณ 1 แสนคน. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"