ในวาระ 'เจ้ากรรม-นายเวร'


เพิ่มเพื่อน    

    "ตำรวจ" ดาวอะไร ผมไม่รู้?
    รู้แต่ว่า ช่วงนี้ "เฮี้ยน"
    "เฮี้ยน" นะครับ ไม่ใช่ "เพี้ยน"!
    เป็นเฮี้ยนลักษณะ "ขาลง" จนน่าเป็นห่วง
    ขนาดเมื่อวาน (๒๕ ก.พ.๖๑) พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรอง อ.ตร.ยังโดดห้างแถวๆ แจ้งวัฒนะ จากชั้น ๗ ลงมาตาย
    บอกได้คำเดียวว่า..........
    ช่วงนี้ เป็นช่วง "มฤตยู" เข้าสิง ฉะนั้น ไม่เพียงตำรวจ ทุกคน โดยเฉพาะ "คนในระบบ-ในเครื่องแบบ"
    ต้อง "ไม่ประมาท" เป็นสองเท่า!
    เพราะเป็นช่วงเวลา "ยมทูตใต้พิภพ" ออกส่องไฟคุ้ยหา และส่งให้เสาร์ตีราคา ชำระบิล
    คนสร้างกรรมดี ความดีจะผลิดอก-ออกผล    
    คนสร้างกรรมชั่ว ความชั่วจะผลิดอก-ออกผล
    ใครที่ชอบพูดประชด.........
    "ทำดีได้ดี มีที่ไหน ทำชั่ว ได้ดีมีถมไป"
    เข้าใจว่า น่าจะพบสัจธรรมกันบ้างแล้ว เริ่มแต่ปีก่อน
    ใน "นรกและสวรรค์".......... 
    ท่านคิดว่าเวลานี้ "คนประเภทไหน" ลงและขึ้นไปอยู่มากที่สุด ระหว่าง
    "พระ-ตำรวจ-ข้าราชการ-นักการเมือง-คนทำสื่อ-ชาวบ้าน"? ผมว่า "พระกับตำรวจ"
    กินกันยาก ต้องตัดสินกันด้วยภาพถ่าย
    รองลงมา ก็ "ข้าราชการและนักการเมือง" ตามด้วยสื่อ!
    ผมไปตามรอยบาทพระพุทธองค์ ณ สถานที่เรียก "สังเวชนียสถาน" ทั้ง ๔ แห่ง ที่อินเดีย ปลายปีที่แล้ว 
    เห็นแล้วเข้าใจเลย.........
    หลังพุทธกาลร่วมพันปี พระพุทธศาสนายังรุ่งเรืองในอินเดีย มีคนเข้ามาบวชมากมาย 
    สาเหตุหนึ่ง เพราะเห็นว่า พระในพระพุทธศาสนา คนศรัทธาเลื่อมใส จึงหากินง่าย ลาภสักการะเยอะ 
    ก็เข้ามาบวชกันมาก เพื่อหากิน!
    อีกพวก ไม่ได้บวช แต่ปลอมตัวเป็นพระแฝงเข้ามาเลย ด้วยเหตุ หวังหากินอย่างหนึ่ง
    อีกอย่างที่สำคัญ หวังบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา ด้วยการทำทุราจารต่างๆ จงใจสร้างภาพลักษณ์เลว เพื่อทำลาย
    และทาง "ตู่พระพุทธพจน์"
    บางคำ พระศาสดาเจ้าไม่ได้ตรัส ก็บอกว่าพระพุทธองค์ตรัสไว้
    บางคำพระพุทธองค์ตรัสสอนไว้ ก็ตู่เอาไปเป็นของตัวเอง!
    หนักๆ เข้า "วัด-พระ" ในอินเดีย ก็เสื่อม 
    เสื่อมเพราะ ไม่เอาธรรม เอาแต่ทุศีล เอาแต่ลาภสักการะอย่างเช่น ที่วัดหรือมหาวิทยาลัย "นาลันทา"
    ไม่รู้คนจากลัทธิ-นิกายไหน-ต่อไหน ปลอมปน เป็น "พระเทียม" ระคนเข้ากับ "พระแท้" 
    ในที่สุด...........
    กองทัพมุสลิมเติร์ก จากอัฟกานิสถาน บุกเข้ามาฆ่าและเผา "นาลันทา" วอดวาย 
    เหลือแต่ซาก และขุดที่เหลือ ให้เราไปปลงสังเวชกันทุกวันนี้
    นับจากนั้น พุทธศาสนา ก็สูญสิ้นไปจากอินเดีย
    "สูญพระ-สูญวัด"........
    แต่คำสอนพระพุทธองค์ "ไม่สูญ" ต่อให้แสนกัป-ล้านกัลป์ ก็ไม่มีทางสูญ 
    อย่าว่าแต่ในอินเดียเลย "ในโลก-ในจักรวาล" ไหนๆ 
    ธรรมพระพุทธองค์ ก็ไม่สูญ
    มีแต่ "มนุษย์" เท่านั้น จะ "สูญไป" จากธรรม!
    นั่นอดีตกาล.........
    แต่ปัจจุบัน ผมเพิ่งบุญถึง จึงได้ไปกราบรอยเท้าพระพุทธองค์ ณ สังเวชนียสถาน
    เมื่อไปถึงแต่ละแห่ง โอ้โฮ.........
    พระสงฆ์สาวก มาแต่ไหน..แต่ไหน นั่งสวดมนต์บ้าง ภาวนาบ้าง เยอะแยะ!
    แต่พอไปหลายๆ แห่ง ชักผิดสังเกต ก็เลยนั่งดูพฤติกรรมพวกคลุมเหลืองทั้งหน้าตาแขก-ไม่แขกแต่แปลกหน้าพุทธทั้งหลาย
    ๒ พันกว่าปีแล้วก็ตาม พุทธศาสนาก็ยังเป็นแหล่งหากินของคนกลุ่มหนึ่ง-พวกหนึ่งเหมือนเดิม
    พวกแขก-ไม่แขก คลุมเหลืองให้ดูเป็นพระ ล่อหลอกให้คนที่ไปสังเวชนียสถานทำบุญ
    พูดชัดๆ ใช้คราบพระ "หลอกเอาเงิน" นั่นเอง!
    ยิ่งกับคนไทยด้วยแล้ว แก๊งคลุมเหลืองรู้นิยมว่าชอบใช้เงินซื้อบุญ บางแห่ง ทั้งคลุมเหลือง ไม่คลุม รวมถึงพวกชาวบ้าน 
    ขอกันดื้อๆ บ้าง เข้ามากระซิบข้างหู แต่งนิทานหลอกเอาเงินบ้าง เจอกะตัวเองเลยที่พุทธคยา
    ส่วนมาก นั่งทำเป็นสวดมนต์ภาวนา ข้างหน้ามีภาชนะวางให้คนใส่เงิน เรียงกันเป็นตับ
    คนเดินมาที ทำเป็นสาธยายมนต์ที ไม่มีคนก็หยุด
    บางสถานที่ ผู้แสวงบุญ ปิดทองบ้าง เอาเงินโรยไว้เป็นพุทธบูชาบ้าง ยังไม่ทันคล้อยหลัง พวกเหลืองปลอม ตามเก็บเรียบ
    นึกอีกทีก็ปลื้ม.........
    ศาสนาบรรดามีในโลก ไม่มีศาสนาไหน "ใจกว้าง" เท่าศาสนาพุทธ 
    เห็นคลิปวันก่อนใน fb ไม่ทราบใครโพสต์ เหตุเกิดประเทศไหนเขาไม่ได้บอก
    พระสงฆ์โดยสารรถไฟ..........
    ขณะนั่งในโบกี มีชายในศาสนาหนึ่ง ปราดเข้ามาตบศีรษะ ไล่ตี ฉุดกระชากลากลงจากรถไฟ
    ลงแล้วก็ยังตามลงมาตะโกนด่า ตบศีรษะ ไล่ตี ไล่กระทืบ เขาบอกว่า รถไฟนั้นศาสดาเขาสร้างให้พวกเขา
    ไม่ให้คน "ต่างศาสนา" ใช้!?
    ย้อนมาดูที่สังเวชนียสถานพระพุทธองค์ ทั้งปลอมเป็นพระ-ไม่ปลอม เข้ามาหากินจากศรัทธาคนในพระพุทธศาสนา 
    เกลื่อนไปทุกแห่ง............
    ก็ไม่มีใครห้าม-ไม่มีใครว่า มีแต่ให้!
    จะพูดไปแล้ว ด้วยบารมีแห่งสังเวชนียสถานโดยแท้ ทำให้คนอินเดียตามสถานที่ "สังเวชนียสถาน" 
    มีอาชีพ-มีรายได้ โดยเฉพาะจากผู้แสวงบุญคนไทยปีนึงๆ ไม่รู้เท่าไหร่!
    แล้วย้อนมาดูบ้านเราปัจจุบัน แทบไม่ต่างกันเลย 
    เพราะคนไทย "ชอบทำบุญ" นั่นแหละ
    มนุษย์บาปพวกหนึ่ง จึงใช้ช่องนั้น "ปลอมเป็นพระ" ทั้งคนไทย-คนเขมร เข้ามาหากิน ถูกจับเป็นข่าวประจำ
    หนักหนากว่านั้น ที่ไม่ปลอม หากแต่ "เป็นพระ" บวชถูกต้อง ทั้งใหญ่-ทั้งเล็ก 
    บวชกาย แต่วัตรปฏิบัติ ต่ำตม
    เมื่อถึงวาระ มฤตยูออกขุดคุ้ยพวกหากินประเภท "บังเงาบุญ" พบตรงไหน ก็ส่งให้ "เสาร์ตรวจชำระ"
    ดังนั้น ตอนนี้ "อลัชชี" พึงระวัง!
    ส่วนตำรวจที่ว่าสูสีกับพระ ก็ต้องระวังเช่นกัน 
    คนไหนรู้ตัวว่า ตัวเองเป็นประเภทไซด์ไลน์ เหมือนกับพระที่รู้ตัวว่า ประพฤติเป็น "อลัชชี"
    ไปนั่งหันหน้าเข้าข้างฝา บริกรรมภาวนา จนจิตรวม สำนึกในบาป ด้วยเห็น "บาป-บุญ-คุณ-โทษ" คนละ ๗ วัน ๗ คืน 
    แล้วสมาทานใจ........
    ต่อจากนี้ไป จะละชั่ว สร้างกรรมดี ปฏิบัติหน้าที่ซื่อตรงต่อชาติ-พระศาสนา-พระมหากษัตริย์ และพี่น้องประชาชน!
    หนักจะเป็นเบา........
    ที่เบา จะจางคลาย!
    ข่าว ๓ ข่าว "คับบ้าน-คับเมือง" วันนี้ มีข่าวไหน ที่ "ตำรวจไม่เกี่ยว" บ้าง?
    ข่าว "คดีล่าเสือดำ" ทุ่งใหญ่นเรศวร
    ข่าว "ลอตเตอรี่ ๓๐ ล้าน" กาญจนบุรี 
    ข่าวคุณป้า "ขวานสะท้านสำนึก" ที่ประเวศ
    ตำรวจเป็น "ยาดำ" แทรกทั้งสิ้น
    พูดกันตรงๆ ไม่มีเรื่องไหน "บัดสี-บัดซบ" ประจานระบบตำรวจเท่าเรื่องลอตเตอรี่ ๓๐ ล้าน
    "จบ-ไม่จบ" ไม่เกี่ยว...........
    หากแต่เรื่องนี้ "ต้องไม่เกิด" ตั้งแต่วันแรกแล้ว!
    รายละเอียด "ยิบ" ไม่อยากสน แค่ได้ยินข่าวจากทีวีแต่ละวันก็อ้วกด้วยสุดเอียน
    ลอตเตอรี่นั้น ออกเลขอะไร........
    ใครถือสลากเลขนั้น ก็เอาไปขึ้นเงิน กองสลากตรวจความถูกต้องแล้ว จ่ายเงินให้ใครแล้ว
    มันก็จบ!
    เว้นแต่ก่อนหวยออก มีใครไปแจ้งความบันทึกเป็นหลักฐานไว้ก่อนแล้วว่า สลากของเขา เลขนี้..นี้..นี้ หายไป
    นั่นแหละ ค่อยรับเป็นคดีความ!
    แต่กรณีนี้ หวยออกแล้ว มาทึกทักทีหลังและตำรวจตั้งคดีเป็นมหากาพย์ข้ามปีอย่างที่เป็นขณะนี้
    ทุเรศระบบตำรวจที่สุด
    พูดกันชัดๆ "ถ้าตำรวจไม่ร่วม" จะเป็นเรื่องประจานตัวเองขึ้นมาได้มั้ย?
    มันน่าอนาถ เรื่องไม่เป็นเรื่องแค่นี้ แต่ "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" ต้องนำคดีอัปรีย์สีกบาลนี้มาทำประหนึ่ง "วาระแห่งชาติ"
    ตั้งแต่ ผบ.ตร.ไล่ลงมาถึงกองบัญชาการภาค กองปราบปราม ร้อยเวร
    วุ่นวายกันไปหมด ด้วยเหตุ คนไม่มีสลาก
    "นึกเอา" ว่า ของกู!
    สูญเปล่างบประมาณ สูญเปล่ากำลังคน และ "ว่างเปล่า" ในคำว่าตำรวจเสียจริงๆ
    เรื่อง "ล่าเสือดำ" นั่นเหมือนกัน
    ขึ้นต้น ตำรวจไล่ "ถลกหนัง" คนล่าเสือดำ
    ยังไม่ทันไร ตอนนี้ คล้ายเสือดำถอดกระเจี๊ยวลงหม้อเอง!
    ตรวจสอบไม่ได้ใครยิง และปืนกระบอกไหน-ของใครก็ไม่รู้ ที่ยิง
    ทำไป-ทำมา เจ้าหน้าที่ทุ่งใหญ่นั่นแหละผิดเรื่องสินบน เรื่องละเลย
    ..........กูว่าแล้ว!
    แต่ไม่ต้องตกอก-ตกใจกันไปหรอก "ใครทำกรรมอย่างใดไว้ ย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ไม่ว่าดีหรือชั่ว"
    เหมือนคนเป็นโรคหนองใน ซ่อนอาการไม่ให้คนภายนอกรู้เห็นได้พักเดียว
    เดี๋ยวมันก็ "ออกดอก" ลายพร้อยทั้งตัว!
    ทั้ง ๓ คดี ที่มีตำรวจร่วมเป็นเจ้าภาพนี้ ใครจะทำอะไร จะบิด-จะเบี้ยว-จะตรง-จะคด อย่างไร
    รอบนี้ "เจ้ากรรม-นายเวร" จ้องเขม็ง ไม่ปล่อยอยู่แล้ว
    ใครคือ "เจ้ากรรม-นายเวร" จะบอกให้ก็ได้
    "สังคมชมรมโซเชียล" ที่เขาเลี่ยนตำรวจเต็มที่แล้วนี่ไง ๓ เรื่องนี้ คดีออกมาพลิกเมื่อไหร่
    ได้เห็นแน่!


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"