'บิ๊กตู่'ลั่นไม่ติดโซเชียลเมินคอมเม้นท์ด่าบอก'ไร้สาระ'


เพิ่มเพื่อน    

24 มิ.ย.62-ที่ห้องรอยัลมณียา บอลรูม ชั้น M โรงแรมเรเนซองส์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานกล่าวเปิดงาน CLMVT Forum 2019:CLMVT as the New Value Chain Hub of Asia 
    
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตลอดเวลาที่ทำงานมา 5 ปี พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร และทำตัวอย่างไร แม้หลายคนจะบอกว่านายกฯเป็นคนตลกก็ตาม แต่ที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างเต็มที่ การทำงานทุกอย่างต้องคำนึงถึงกฎหมายและกติการะเบียบที่กำหนดไว้ด้วย อย่าคิดแต่เพียงว่าเราคิดและพูดได้ทั้งหมด เพราะกลายเป็นการพูดที่ไร้ความรับผิดชอบ กฎหมายทุกฉบับไม่ใช่จะออกมาง่ายๆ จะต้องผ่านการกลั่นกรอง มีคณะกรรมาธิการก่อนเข้าสู่การพิจารณา ตนอยู่มา 5 ปี รู้ดี การเรียกร้องอะไรเพียงอย่างเดียวนั้นไม่มีทางสำเร็จ จะต้องหาเวทีร่วมกัน วันนี้มีการพัฒนาการเรียนการสอนนอกจากวิชาการแล้ว จะต้องสอนให้เยาวชนเรียนรู้ถึงการใช้ชีวิต และการประกอบอาชีพ เคารพในระเบียบและกติกา รู้จักการแบ่งหน้าที่ ก็จะไม่เกิดการทะเลาะกัน เพราะทุกคนจะรู้จักหน้าที่ของแต่ละคน

"เรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือ ต้องดูว่าใช้ได้อย่างคุ้มค่าหรือไม่ ใช้ในทางที่หาความรู้ให้กับตัวเองหรือเปล่า มีคน 2-3 คน บอกว่าผมติดโซเชียล ยืนยันผมไม่ได้ติดโซเชียล ผมเปิดโทรศัพท์ดูอะไรที่ผมไม่ฉลาด อะไรที่โง่ๆ เพื่อให้รู้ ผมก็เปิดมาดู นั่นแหละคือโซเชียลของผม ไม่ใช่ไปด่าให้มันเสียอารมณ์ ใครว่าผม ใครด่า ผมจะไปอ่านทำไม มันไร้สาระ ผมพูดแบบนี้เดี๋ยวสื่อก็พาดหัวข่าวกันอีก" 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เวทีผู้นำอาเซียนพูดมา 3 วัน เหนื่อยก็เหนื่อย งานเยอะ ทุกคนเหนื่อยแสนเข็ญ ก็จ้องแต่จะจับผิด นี่แหละโลกของโซเชียล แต่อะไรที่มันทำลายประเทศ ถ้ามันเกิดขึ้น ก็ต้องรับไปด้วยกันทุกคน เพราะไม่ได้ทำอะไรให้มันดีขึ้น คนทำดีเขาก็ไม่อยากทำ ทำแทบตาย ซึ่งมันไม่ได้ง่ายนัก ถ้าเราไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งทางกฏหมาย หรือกับเจ้าหน้าที่ ทุกคนปฏิบัติตามกฏหมายก็จบ แต่ถ้าออกมาต่อต้านกันทุกเรื่องมันไปไม่ได้ ถือเป็นอันตรายของประเทศเราจะมาให้ร้ายกันไม่ได้ เพื่อนก็คือเพื่อน หลายประเทศตามประวัติศาสตร์อยู่กับเรามา 200 - 400 ปี แล้ววันนี้จะทะเลาะกันไปได้อย่างไร เราต้องมีนโยบายที่สมดุล รัฐบาลก็ต้องมีนโยบายทางการเมือง ที่ต้องดูแลทั้งในและต่างประเทศ ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร แต่ทั้งหมดคือห่วงโซ่เดียวกัน พูดหรือทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ถ้าอยากได้ความขัดแย้งก็พูดไป เดี๋ยวก็ขัดแย้งกันเอง เพราะคนเราพร้อมถูกชักจูงอยู่แล้ว ซึ่งเรียกว่าอารมณ์ 

"วันนี้ผมจึงอยากให้ทุกคนใช้คำว่าขันติ โสรัจจะ ซึ่งคำว่าขันติคือความอดทน อดกลั้น เวลาพูดหรือฟังใครพูด ตนเองก็พยายามทำอยู่ ส่วนโสรัจจะคือ ถ้าเรามีขันติก็จะเกิดความสงบเสงี่ยม เจียมตัว จะรู้ตัวเองว่าต้องทำตัวอย่างไร ซึ่งผมเป็นคนแบบนี้ เป็นคนน่ารักจะตาย"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"