เมียนมาเตรียมเปิด 14 เกาะ แหล่งท่องเที่ยวใหม่ใกล้บ้านระดับพรีเมียม


เพิ่มเพื่อน    

(ดำน้ำดูปะการังใต้ทะเลเมียนมา)

    นับตั้งแต่เมียนมาเปิดประเทศก็เนื้อหอม ชวนให้นักท่องเที่ยวอยากรู้ อยากเห็น อยากไปสัมผัส เมืองที่ไม่เคยถูกเปิดเผยอย่าง เมืองสิเรียม รัฐชาน ที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม โบราณสถาน วัดหลายแห่ง ที่ยังคงความสมบูรณ์และได้รับการดูแลอย่างดีจากประชาชนที่มีความศรัทธาอย่างแรงกล้าในพุทธศาสนา แต่ในตอนนี้ที่คึกคักและกำลังได้รับความนิยมก็ต้องยกให้หมู่เกาะต่างๆ ทางตอนใต้ของเมียนมา อย่างเกาะสอง เกาะนาวโอพี เกาะหัวใจมรกต เป็นต้น ซึ่งได้ประเดิมเปิดเรียกนักท่องเที่ยวไปชมความงามของน้ำทะเลสีใส ธรรมชาติป่าที่อุดมสมบูรณ์ หาดทรายขาว ดำน้ำดูปะการังจนล้นหลาม แต่ยังมีอีกกว่านับร้อยเกาะในเมียนมาที่กำลังจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปเยือน

(แผนที่แสดง 14 หมู่เกาะ)

    เมื่อเร็วๆ นี้ KMA Group of Companies (KMA) บริษัทเอกชนของเมียนมา ได้รับสัมปทานเกาะประมาณ 100 เกาะในประเทศเมียนมาเพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เบื้องต้นมีแผนที่จะเปิด 14 เกาะทางตอนใต้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับพรีเมียม ขณะนี้กำลังเตรียมทั้งโรงแรม ร้านอาหาร กิจกรรมทางทะเล ตัวอย่างเกาะที่เปิด อาทิ เกาะค็อกเบิร์น เกาะแมคคลอยด์ และนักธุรกิจพม่าก็กำลังมองหาพันธมิตร หรืออีกนัยหนึ่ง เป็นการเชิญชวนนักลงทุนไทยให้มาร่วมลงทุน สอดคล้องกับนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซีของเรา
    และสปีด รีพับลิก (Speed Republic) ธุรกิจเสริมในเครือบริษัท วัชร มารีน จำกัด ที่ให้บริการจัดนำเที่ยว (Tour Operator) ครบวงจรทั้งทางน้ำและทางบก ทั้งในและต่างประเทศ ได้รับเลือกจาก Kento ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในเมียนมาในด้านการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบนเกาะให้หลากหลายมิติ มาเป็นผู้บริการด้าน Marine Operation ในประเทศเมียนมา ทั้งการฝึกอบรมพนักงาน การนำเที่ยวเชิงนิเวศบนเกาะส่วนตัวที่น้อยคนจะได้ไปถึง เพราะไม่ได้เปิดรับทัวร์ได้ง่ายๆ
    ล่าสุด KMA และ Kento ได้เดินทางมาเยือนวัชร มารีน เพื่อนำเสนอ 14 เกาะในเมียนมา และชมผลิตภัณฑ์และผลงานต่างๆ ของวัชร มารีน ที่วัชรคอมเพล็กซ์ พัทยา
    ธเนศ เสถียรพันธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท วัชร มารีน จำกัด เผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่รองรับการเติบโตของตลาดการท่องเที่ยวและการค้าภายใต้กติกาอาเซียน และขยายธุรกิจไปยังเมียนมา ซึ่งเป็นตลาดศักยภาพแห่งใหม่ เพราะมีความสมบูรณ์สวยงามของธรรมชาติในระดับต้นๆ ของอาเซียน โดยมีแพ็กเกจเส้นทางทัวร์หมู่เกาะเมียนมาในรูปแบบ One Day Trip อาทิ 1. Route Cock Burn Island 2. Route Lord Heaven 3. Route Cock Comb Island หรือเกาะหัวใจมรกต 4. Route Honeymoon Island

(เล่น wave runner สุดตื่นเต้น)

    "เราจะเน้นสร้างความแตกต่างด้วยบริการระดับพรีเมียมและครบวงจร ด้วยเรือขนาดใหญ่ อุปกรณ์ดำน้ำแบบ full face พร้อมอาหารบุฟเฟต์รสชาติอร่อยหลากเมนูบนเกาะส่วนตัว มีทีมงานบริการดูแลความปลอดภัยทั้งบนเรือและบนเกาะ อย่างใน Route Honeymoon Island นับว่าเป็นเกาะส่วนตัวสุด unseen ที่สวยบริสุทธิ์ ด้วยหาดทรายเนียนละเอียดและน้ำทะเลสีเทอร์คอยซ์ ใส สะอาด พร้อมหมู่สัตว์น้ำและปะการังที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งยังมีน้อยคนที่สามารถเข้าไปสัมผัสได้ อีกทั้งยังจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวด้วย โดย Speed Republic นับเป็น Tour operator เพียงรายเดียวที่ได้รับความไว้วางใจให้สามารถนำนักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสความสวยงามบนหมู่เกาะแห่งนี้ได้ด้วยความเป็นมืออาชีพ การจัดทัวร์และการจัดการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมบนเกาะ ทั้งยังมีทริปต่างๆ ให้เลือกหลากหลาย อาทิ Yamaha Wave Runner Trip ทริปดำน้ำ Diving & Snorkeling Trip ทริปตกปลา ทริปมอเตอร์ไซค์ (ทั้ง big bike และ scooter) และเร็วๆ นี้จะมีการเปิดคอร์สเรียนรู้การขับเครื่องบินเล็กขั้นพื้นฐานสำหรับผู้สนใจด้วย” ธเนศกล่าว

(ขี่สกีท้าคลื่นทะเล)

    กรรมการผู้จัดการฯ แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า ในอนาคตพันธมิตรในเมียนมาอย่าง Kento ก็จะทำการสำรวจขยายเส้นทางทัวร์หมู่เกาะเมียนมา อย่างที่ได้เปิดบ้านตอนรับ KAM เจ้าของหมู่เกาะในเมียนมาที่มีศักยภาพ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก เพราะยังขาดโครงสร้างพื้นฐานอยู่ ทั้งในเรื่องของโรงแรมและบริการอื่นๆ จึงต้องใช้เวลา ในการทำให้สมบูรณ์ เพราะการไปเที่ยวเกาะต่างๆ ของเมียนมา ความง่ายอยู่ตรงที่แค่ทำหนังสือผ่านทาง ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต ซึ่งจะไปแบบวันเดย์ทริปหรือค้างคืนก็ได้ แต่คุณภาพโรงแรมหรือจำนวนห้องอาจจะยังไม่เพียงพอ ซึ่งหลายเกาะก็กำลังจะสร้างที่พัก ระยะทางแต่ละเกาะที่เป็นจุดท่องเที่ยวไกลพอสมควร ประมาณ 100 กิโลเมตร ส่วนภาพในอนาคตระยะยาวการท่องเที่ยวจะดีทั้งอาเซียนถ้าร่วมมือกันพัฒนา

(สเตลหล่า จ่อ วิน)

    ด้านนางสเตลหล่า จ่อ วิน ผู้อำนวยการ KMA Group of Companies เผยว่า การท่องเที่ยวของเมียนมามีข้อดีเพราะว่ามีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ยังไม่ถูกทำลาย โดยเฉพาะหมู่เกาะต่างๆ ซึ่งกลุ่มบริษัทของตนจะพัฒนาและเปิดหมู่เกาะทั้งหมด 14 เกาะ 2 หาดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งภาคใต้ของประเทศเมียนมามีหมู่เกาะที่ได้รับการอนุมัติโดยสำนักงานคณะกรรมการการลงทุนพม่า (MIC) ทั้งหมด 3 เกาะที่จะพัฒนาเป็นโรงแรมและรีสอร์ตระดับ 5 ดาว ได้แก่ เกาะ Bo Wei I เกาะ Macleod เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงของประเทศ ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติ เหมาะกับการดำน้ำดูปะการัง และเกาะ Dunkin มีพื้นที่ประมาณ 550 เอเคอร์ โดยพื้นที่ 15.8 เอเคอร์จะได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมและรีสอร์ต จุดเด่นของเกาะแห่งนี้อยู่ที่พื้นทะเลทรายที่มีความนุ่มเหมือนผิวของอะโวคาโด และยังเหมาะกับการเล่นกีฬาทางน้ำด้วย
    กลุ่มหมู่เกาะที่มีปะการังที่สวยงามอย่างเกาะ Bo Wei II ที่เหมาะกับการพายเรือคายัค เกาะ Quoin ที่นักดำน้ำนิยมมา เพราะถือว่าใครก็ตามที่ได้มาดำน้ำที่นี่จะเหมือนกับการพัฒนาตัวเอง เกาะ Loard Lough Borough สภาพแวดล้อมบนเกาะมีป่าที่หนาทึบ มีนกอาศัยอยู่มาก และยังเป็นที่อยู่ของชาวมอแกน จึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าลงทุน เกาะ High ที่สามารถเดินทางจากเกาะสองโดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง เหมาะกับการเดินป่าเพราะมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และเหมาะสำหรับการเล่นกีฬาทางน้ำ เกาะ Cash เป็นอีกเกาะหนึ่งที่มีศักยภาพในเรื่องของกีฬาทางน้ำ เกาะ Graham เดินทางจากเกาะสองประมาณ 1-2 ชั่วโมง เป็นเกาะที่มีความสำคัญ เพราะเป็นจุดแบ่งชายแดนระหว่างไทย-เมียนมา และเกาะ Cock Burn นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำ ในส่วนของเกาะที่เป็นจุดสีแดงคือหมู่เกาะที่ได้รับการอนุมัติให้มีการพัฒนาในอนาคต อาทิ เกาะ Taung Taw Win Kyunn, เกาะ Ma Kyone Galet, เกาะ Wah Taung Nge, เกาะ Pu Lon Tone Lone Kyun เป็นต้น 

(เรือที่ให้บริการในทริป)

    “ปัจจุบันทุกเกาะสามารถไปเที่ยวได้ ยกเว้นเกาะ LAMPI ที่อาจจะต้องมีการขออนุญาตก่อน ซึ่งหมู่เกาะ 14 เกาะนั้น วันนี้ยังไม่มีที่พักรองรับได้เพียงพอ การเดินทางส่วนใหญ่เป็นทางเรืออย่างเดียว ซึ่งเกาะทั้งหมดจะพัฒนาให้ดีและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเรียนรู้การบริหารและหานักลงทุน และจะสร้างการรับรู้ให้กับทั่วโลกว่ายังมีพื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวจะเน้นไปที่คนไทย”

(บะหง่า ได มอน (ซ้าย)-ธเนศ เสถียรพันธ์ (ขวา))

    นายบะหง่า ได มอน ประธานบริษัท Kento ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศเมียนมา กล่าวว่า ได้ทำงานร่วมกับวัชร มารีน มากว่า 5 ปี บนเกาะฮันนีมูนซึ่งเป็นเกาะส่วนตัว สำหรับโปรเจ็กต์นี้เกิดขึ้นเพื่อจะพัฒนาหมู่เกาะในบริเวณเกาะสองให้มากกว่านี้ เพราะประเทศตนยังขาดศักยภาพในการบริหารจัดการ อย่างกีฬาทางทะเลต่างๆ และตนเห็นว่าวัชร มารีน และประเทศไทยมีศักยภาพดีพอที่จะเป็นพี่เลี้ยงในเรื่องของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การขนส่ง การฝึกเยาวชนเมียนมาในด้านการบริการกีฬาทางน้ำ และอื่นๆ ให้ดีขึ้น
    สำหรับใครที่สนใจเส้นทางท่องเที่ยวของวัชร มารีน สามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง https://www.watcharamarine.co.th/, โทร. +66 38 418500 หรือแฟนเพจวัชร มารีน “Watchara Marine & Motor Sport Solution Center” และแฟนเพจ Speed Republic.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"