
สิ้นหลวงปู่ปวง วัดศรีโคมคำ ละสังขารในวัย 102 ปี 82 พรรษา ถือเป็นปูชนียบุคคลสำคัญของเมืองพะเยา เป็นพระที่มีจริยวัตรงดงามเป็นที่นับถือเลื่อมใสของประชาชนทั่วภาคเหนือ เป็นปราชญ์ด้านประวัติศาสตร์ล้านนา ศิษยานุศิษย์หลั่งไหลร่วมกราบศพ
มีรายงานว่า เมื่อเวลา 20.11 น. วันเสาร์ที่ผ่านมา หลวงพ่อใหญ่ หรือพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปวง ธมฺปญโญ มหาเถร ป.ธ.5) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ได้ละสังขารลงแล้ว โดยทางจังหวัดและคณะสงฆ์ในพื้นที่จะร่วมกันจัดพิธีบำเพ็ญกุศลให้สมเกียรติ เนื่องจากหลวงพ่อใหญ่ถือเป็นปูชนียบุคคลที่สำคัญในการพัฒนาเมืองพะเยา ตลอดจนเป็นพระสงฆ์ที่มีอาวุโสสูงสุดของจังหวัด และมีจริยวัตรที่งดงาม เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนโดยทั่วไปทั่วภาคเหนือ
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนนี้ พระเทพญาณมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดพะเยา ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 พร้อมด้วยนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นางจีราพร ภัทรานุพาพร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพะเยา ร่วมกันออกแถลงการณ์ ระบุ หลวงพ่อใหญ่ หรือพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ อดีตเจ้าวาดวัดศรีโคมคำ ได้ละสังขารอย่างสงบที่โรงพยาบาลพะเยา หลังจากอาพาธหลายโรค และเข้ารักษาตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2562 ด้วยอาการปอดอักเสบ และพบมีภาวะความดันโลหิตต่ำ มีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ มีสภาวะการหายใจล้มเหลว รวมทั้งมีการติดเชื้อในกระแสเลือด รวมทั้งโรคชรา สิริอายุ 102 ปี 82 พรรษา ทั้งนี้ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์มีสมณศักดิ์ชั้นพระราชาคณะระดับรองสมเด็จ
จังหวัดแจ้งว่า พิธีบำเพ็ญกุศลศพ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ จะมีการเคลื่อนสรีระสังขารของหลวงปู่พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ จากโรงพยาบาลพะเยาในวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 เวลา 08.30 น. และในเวลา 09.00 น. คณะสงฆ์ สาธุชนศิษยานุศิษย์ จะถวายน้ำสรง และในเวลา 17.00 น. มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ เวลา 19.00 น. พระสงฆ์สวดพระพิธีธรรมเป็นเวลา 3 วัน จากนั้นจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมทุกคืน โดยจะแบ่งช่วงเวลาในการทำบุญครบ 7 วัน ทำบุญครบ 50 วัน และทำบุญครบ 100 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณวัดศรีโคมคำ ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ มีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาท่องเที่ยวบริเวณวัดอย่างต่อเนื่อง และบางส่วนทราบข่าวการมรณภาพของหลวงพ่อใหญ่ ก็รู้สึกโศกเศร้าเสียใจ ขณะที่ชาวบ้านและพระสงฆ์ในพื้นที่ได้ร่วมกันตกแต่งสถานที่ เพื่อรอรับสรีระสังขารของพระเดชพระคุณหลวงปู่อุบาลีคุณูปมาจารย์ โดยจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลบริเวณพระวิหารหลวงวัดศรีโคมคำ
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ นามเดิม ปวง วงศ์เรือง เกิดเมื่อวันพุธที่ 11 กรกฎาคม 2460 แรม 7 ค่ำ เดือน 8 (เดือน 10 เหนือ) ปีมะเส็ง ณ บ้านสางเหนือ ต.บ้านสาง อ.เมือง จ.พะเยา โยมบิดาชื่อ พ่อหนานปุ๊ด วงศ์เรือง โยมมารดาชื่อ แม่หลวง วงศ์เรือง บรรพชาวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ค.2475 ณ วัดสางเหนือ พระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการตื้อ ธมฺมวํโส วัดศรีบุญเรือง ต.บ้านสาง อุปสมบทวันศุกร์ที่ 10 มิ.ย.2481 ณ วัดสางเหนือ จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านสาง ต.บ้านสาง อ.เมือง จ.พะเยา สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค สำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กทม. ความรู้ความสามารถพิเศษ มีความชำนาญอ่านเขียนภาษาล้านนา การออกแบบแปลนพระอุโบสถ กุฏิ แบบล้านนา ประวัติศาสตร์และโบราณคดีล้านนา
พ.ศ.2484 เป็นเจ้าอาวาสวัดเมืองชุม ต่อมาเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองพะเยา กระทั่งปี 2497 เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีอุโมงค์คำ (วัดสูง) ถัดมาเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ ในปี 2512 ต่อมา พ.ศ.2521 เป็นเจ้าคณะจังหวัดพะเยา พ.ศ.2526 เป็นรองเจ้าคณะภาค 6 พ.ศ.2542 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6
งานด้านสังคม เป็นประธานกรรมการมูลนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธจังหวัดพะเยา กรรมการที่ปรึกษาราชประชานุเคราะห์ กรรมการปริวรรตหนังสือล้านนาไทยปัจจุบันตามโครงการของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรรมการที่ปรึกษาจัดทำพจนานุกรมล้านนาฉบับแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และกรรมการที่ปรึกษาศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดพะเยา นอกจากนี้ หลวงปู่ยังสงเคราะห์งานสาธารณประโยชน์มากมาย อาทิ สร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ก่อตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม จัดตั้งสำนักเรียนบาลี จัดตั้งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา วัดศรีโคมคำ
ด้วยหลวงปู่มีความสนใจเรื่องประวัติศาสตร์ โบราณคดี ได้ค้นคว้าและศึกษาด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดีของล้านนาและเมืองพะเยามาเป็นเวลามากกว่า 40 ปี และผลงานเขียนหนังสือด้านประวัติศาสตร์ของล้านนาและเมืองพะเยามากมาย จึงเป็นปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งเมืองพะเยา
จากผลงานทั้งหมดนี้จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดสถานศึกษาประวัติศาสตร์ โบราณคดี และที่รวบรวมจัดแสดงเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาชาวบ้านท้องถิ่น คือ 1.หอวัฒนธรรมนิทัศน์วัดศรีโคมคำ ซึ่งสร้างขึ้นในพื้นที่โฉนดของวัดศรีโคมคำ ด้านทิศใต้ติดกับชายกว๊าน โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทางวางศิลาฤกษ์และทรงเปิด
2.หอจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จังหวัดพะเยา ซึ่งจัดสร้างขึ้นในพื้นที่บริเวณดอยพระธาตุจอมทอง วัดศรีโคมคำ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2538
พ.ศ.2551 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ญาณวิสุทธิจริยาปริณายก ดิลกศีลาทิขันธสุนทร บวรธรรมภาณี สาธุการีธรรมากร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |