สุริยะ 'อย่าบุญมีแต่กรรมบัง'


เพิ่มเพื่อน    

              "คลื่นสุริยะ".........

                มาก็มาแบบบ้าคลั่ง ซัดตูมๆ พังแหลกทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่ว่าพักเดียว

                ที่เจี๊ยว...ก็คืนสภาพจุ๋มจิ๋ม!

                ลิเก "คณะสามมิตร" ในตอนเก้าอี้พลังงานของข้า..ใครอย่าแตะ นำแสดงโดย "สุริยะ-สมศักดิ์-อนุชา"

                "จบแล้ว" ครับ!

                จบแบบไหนน่ะหรือ? ก็แบบนี้ไง.........

                “ทั้งหมด อยู่ที่การตัดสินใจของนายกฯ ที่อยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้านายกฯ ตัดสินใจอย่างไร เราเคารพ

                จะไม่ทบทวนท่าที จะไม่มีการออกมางอแง ทางกลุ่มสามมิตรเอง จะไม่ทำให้เกิดปัญหา จะเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก"

                "อุตตม" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั่งกลาง "สุริยะ-สมศักดิ์" ขนาบซ้ายขวา แถลงเป็นสัตย์เช้าวาน (๒ ก.ค.๖๒)

                และที่ผมยกมานั่น.........

                เป็น "วจนสุนทร" ของคุณสุริยะ โดยมีนักข่าวเป็นสิบ-เป็นร้อย เป็นพยาน

                แล้วหมายความว่าไง ที่ว่าจบนั่นน่ะ? ก็อาจสงสัยกัน

                ก็หมายความตามนั้น......

                "ทั้งหมดอยู่ที่นายกฯ ตัดสินใจ"!

                ตัดสินใจยังไง เป็นไปตามโผลมเพ-ลมพัดเดิม ที่ว่าคุณสนธิรัตน์เป็น รมว.พลังงาน คุณสุริยะเป็น รมว.อุตสาหกรรม

                หรือตามที่เปรี้ยงปร้างกันวานซืน

                สนธิรัตน์คืนตำแหน่งรัฐมนตรีพลังงาน แล้วสุริยะเสร็จสมอารมณ์หมายในเก้าอี้พลังงาน

                เช่นนั้น ทุกอย่างจึง...จบ!

                เอาเหอะ..จบได้จริงๆ มันก็ดี บอกตรงๆ เพราะสันดานการเมืองอย่างนี้แหละ ชาวบ้านเขาถึงได้เกลียด ขยะแขยงนักเลือกตั้ง

                ความจริง ในส่วนพลังประชารัฐ ใครอยู่ตำแหน่งไหน เอาที่ชัดๆ ยังไม่มีใครรู้ ที่พูดๆ กัน ล้วนทึกทัก "ตามอยาก" ตัวเองเป็นส่วนใหญ่

                ฉะนั้น สนธิรัตน์, สุริยะ, สมศักดิ์, อนุชา หรือใครๆ จะนั่ง-ไม่นั่งที่ไหน ขึ้นอยู่กับนายกฯ ประยุทธ์จะจัดสรร

                สนธิรัตน์พลังงาน หรือสุริยะพลังงาน ล้วนพูดกันเอง ทึกทักกันเอง

                จริงๆ แล้ว กระทั่งตัวนายกฯ เอง เท่าที่ดู ก็อยู่ระหว่าง "ชั่งน้ำหนัก"

                คุณสุริยะนั้น ฟังจากคนในวงการมาช้านาน ทั้งจากข้าราชการที่เคยทำงานใต้อำนาจรัฐมนตรีสุริยะตอนเป็นใหญ่

                 เนื้อแท้แล้ว คุณสุริยะเป็นคนมีกึ๋น-มีกัต ทำงานใช้ได้ นักเลง เปิดใจกว้างต่อข้อเสนอแนะ และเอาเพื่อน-เอาฝูง

                แต่ด้วยภาพ "นักการเมืองทักษิณ" มีการโกงบ้าน-กินเมือง เป็นตราประทับรับรองคุณภาพ

                ภาพโกงจึงเป็น "รอยสัก" สลักติดหน้าผากที่ยากลบ!

                การรับรู้ในสังคมสาธารณะต่อคุณสุริยะทุกวันนี้ คุณสุริยะได้ชื่อว่า

                เป็นนักการเมือง "ต้นทุนสังคม" ต่ำ

                ต่ำชนิด "ติดลบ" เอามากๆ ด้วย!

                เมื่อมีการตั้งพรรคพลังประชารัฐ ในความหมาย "พรรครัฐบาล" หนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ ในระบบรัฐสภา

                "สุริยะ-สมศักดิ์-สุชาติ" เป็นกลุ่มแรกๆ ในนาม "สามมิตร" เข้ามาเป็นเนื้อ-หนังให้แก่พรรคพลังประชารัฐ

                เป็น "สุริยะ-สมศักดิ์-สุชาติ" ในเส้นสายลายเพื่อนของ "รองนายกฯ สมคิด" ขุนพลเศรษฐกิจรัฐบาลคสช.

                สังคมชาวบ้าน-ชาวเมือง เรียกกันว่า แก๊ง ๔ ส.!

                เป็น ๔ ส.ที่เคยกอดคอกันอยู่ใน ครม.ทักษิณมาก่อน

                เอาล่ะ เมื่อ "สุริยะ-สมศักดิ์-สุชาติ" มาเกิดใหม่ อยู่ในเงา "พลเอกประยุทธ์"

                ด้วยความที่พลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ ซื่อสัตย์-ซื่อตรงต่อประเทศชาติ-สถาบัน เป็นนายกฯ มา ๔-๕ ปี ด่ากันป่นปี้ในทุกเรื่อง

                ยกเว้นเรื่องเดียวที่ไม่มีใครด่าและด่าไม่ได้ คือเรื่องทุจริตโกง-กิน

                นายกฯ ประยุทธ์ใส-สะอาด ไม่มีให้ด่างพร้อยในเรื่องนี้

                เมื่อ ๓ ส.ที่ลายพร้อยทั้งตัวเข้ามาในเงาประยุทธ์ คือในพรรคพลังประชารัฐ

                "ก็น่าแปลก"..........

                เงาประยุทธ์ ช่วยลบ "ภาพลาย" ในร่าง "สุริยะ-สมศักดิ์-สุชาติ" ให้จางคลาย จนแทบมองไม่เห็น

                เสียงยี้ เสียงตำหนิด้วยรังเกียจ เบาบางลงไปมาก ยิ่งคุณสุริยะ แสดงบทเทพ

                ให้สัมภาษณ์ไม่ขอรับตำแหน่งใด ขอทำงานรับใช้บ้านเมืองด้วยแล้ว

                สังคมส่วนใหญ่ ต่างเปิดใจ "ให้อภัย" เพื่อการตั้งต้นเป็น "นักการเมืองที่ดี" ของคุณสุริยะแทบทั้งนั้น

                มาดีแตกเหมือนฤๅษีเคร่งศีลเจอสีกาแก้ผ้ายั่ว ตอนมีเก้าอี้รัฐมนตรีพลังงานมายั่วสุริยะนี่แหละ!

                คุณสุริยะนั้น "เงินพร้อม-ความสามารถพร้อม"

                แต่กับการเมือง "ยุคประยุทธ์"

                เป็นยุคต้องการคน "ต้นทุนสังคม" พร้อม มากกว่าเงินพร้อม ละโมบพร้อม

                ฉะนั้น อดออมใจ "ไถ่บาป" ก่อนเถอะคุณสุริยะ เหมือน "พระองคุลิมาล"...........

                สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ชาวบ้านยังติดภาพโจรร้ายแต่หนหลัง ไปทางไหน จึงยังต้องถูกขว้างปาไประยะหนึ่ง

                การเมืองไม่ได้เล่นกันวันนี้วันเดียว......

                ฉะนั้น คุณสุริยะ น้อมธรรมที่เป็นโลกบาล คือ "หิริ ความละอายแก่ใจ, โอตตัปปะ ความเกรงกลัวต่อความชั่ว" มาใช้กำกับสติ ลบภาพแต่หนหลัง ซักพรรษาหนึ่ง

                เมื่อความจริงใจ ในความเป็น "สุริยะคนใหม่" ประจักษ์ต่อสังคม

                ครม.ซึ่งไม่รู้จะต้องปรับกันอีกกี่ครั้ง-กี่หน.....

                มีหรือที่นายกฯ จะไม่ส่งเทียบเชิญคุณสุริยะนั่งกระทรวงใด-กระทรวงหนึ่ง

                ในความหมาย "กระทรวงไหนก็ได้" ถ้าประสงค์ทำเพื่อบ้าน-เพื่อเมือง แม้กระทั่งกระทรวงพลังงาน  หรือกระทรวงไหน ที่ใหญ่กว่านั้น!

                การเมือง "โจรกลับครองเมือง" ไม่มีแล้ว ข้าราชการ-พ่อค้า-นักการเมือง ที่ชะเง้อรอ "อำนาจเก่ากลับคืน"

                ก็ชะเง้อไปเถอะ.........

                ชะเง้อจนคอหักทิ่มตูดตัวเองตาย อำนาจเก่า "อำนาจระบอบทักษิณกินเมือง" ก็ไม่มีวันได้หวนกลับ!

                นี่ไม่ใช่หมอดู ผมนี่แหละดู เห็นรัฐบาลตู่ถูลู่-ถูกังอย่างนี้ก็เถอะ ที่นึกว่าจะล้มคว่ำคะมำตาย ก็นึกกันได้

                แต่เอาเข้าจริง จะไปยาว ชนิดแปลกประหลาด!

                สังคมโลกวันนี้ มันพ้นสภาพ "เปลือกประชาธิปไตย" หุ้มแล้ว ไม่ต้องดูอะไรมาก สหรัฐฯ-ยุโรป วางกฎ ประเทศไหนไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่คบ

                ก็เรื่องของเอ็ง.......

                เอ็งไม่คบข้า ก็มีอีกเป็นสิบ-เป็นร้อยที่คบ ที่ค้าขายกัน พวกเอ็งตะหากที่โด่เด่เป็นประชาธิปตาย

                ทั้งอดอยาก ทั้งหนี้สินล้นประเทศ ทั้งโจรผู้ร้าย ทั้งประชาชนปล้นเมือง ทั้งไม่มีใครค้าขายด้วย

                ๒-๓ วันก่อน "เจ้าพ่อประชาธิปไตย" ประธานาธิบดีทรัมป์แห่งสหรัฐฯ

                ทั้งที่ "เกาหลีเหนือ" ไม่ได้เชิญ ย่ำจ๋องๆ ไปหา "คิม จองอึน" ถึงในบ้าน-ในเมืองเขา

                "เกาหลีเหนือ" เป็นประเทศ "เผด็จการเบ็ดเสร็จ" สหรัฐฯ มีกฎหมายห้ามคบค้า แล้วใครล่ะ ไม่ใช่สหรัฐฯ เองหรือ ไปขอคบเขาถึงบ้าน

                ปีหน้า ประชุม G 20 ที่ซาอุดีอาระเบีย ถามว่าซาอุฯ เป็นประเทศประชาธิปไตยหรือ?

                ไม่ใช่...

                ซาอุฯ ปกครองโดยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อิสลาม

                แล้วสหรัฐฯ และฝรั่งเศส เยอรมนี แคนาดา อังกฤษ อิตาลี ในความเป็นสหภาพยุโรป

                ทำไมจึงซ้องเสพเสวนาคบค้าและค้าขายกับประเทศที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยอย่างซาอุฯ ถึงขั้นนับเนื่องเข้าสกุล G 20 ด้วยล่ะ?

                ไม่คบค้าเฉยๆ สยบยอมถึงขั้น ปีหน้าไปประชุมกันที่ซาอุฯ ด้วยซ้ำ

                "จีน-รัสเซีย" ปกครองด้วยประชาธิปไตยที่ไหน แต่ทั้งสหรัฐฯ-ยุโรป เคยยกกฎ-กติกาที่ว่า "ไม่ประชาธิปไตยไม่คบ" ขึ้นมาปฏิเสธในการคบเขามั้ย?

                เห็นมีแต่ตาม "ดมก้น" เขายิกๆ!

                ฉะนั้น ไอ้กฎ "ไม่ประชาธิปไตยไม่คบ" นั้น มันจะใช้กับประเทศที่ด้อย ที่บ่มิไก๊ ประเทศที่เป็นลูกไล่ ไม่มีอะไรนอกจากแบมือขอ

                กับประเทศที่แข็งแกร่ง มีต้นทุนทางศักยภาพสูง มีเครดิตเป็นที่ยอมรับในประชาสังคมโลก มีพัฒนาการทางสร้างชาติ

                อย่างไทยเราตอนนี้ เห็นมั้ย...มีใครล่ะ รังเกียจที่จะคบหา "สหรัฐฯ-ยุโรป" ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่า ไทยอยู่ในระบบอะไร

                มีแต่นับญาติว่า ประยุทธ์บริหารไทยเจ๋ง...

                เศรษฐกิจ-สังคม แกร่งสุดในภูมิภาค เป็นทางอนาคตที่สดใส

                จะมีก็แต่พวกเอ็นจีโอ พวกฝรั่งและองค์กรรับจ้างเขียนข่าว กระพือบิดตามโซเชียล

                อย่างกรณีจ่านิว ก็ใช้ภาษาฝรั่งสร้างความเชื่อ ปั้นข่าวป้ายโทษ ทำนอง เห็นมั้ย..เผด็จการทหาร ประมาณนั้น

                นี่...ยกให้เห็นว่า ถ้าเราทำสังคมประเทศให้เข้มแข็ง ไม่เร่ขาย-เร่ขอ ให้เขาดูแคลน อย่างที่บางรัฐบาลทำ

                จะ "ประชาธิปไตย-เผด็จการ" ไม่มีใครเขาสนหรอก

                ฉะนั้น "รัฐบาลพลังประชารัฐ" โดยนายกฯ ประยุทธ์ ที่เห็นทะร่อ-ทะแร่

                จะ "ไปยาว".........

                ด้วยประชาธิปไตย "ลูกครึ่ง" ชนิดที่นึกกันไม่ถึงและไม่เคยเห็นมาก่อน.         


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"