พท.ล้างไพ่ตั้งกก.บห.ชุดใหม่12ก.ค.


เพิ่มเพื่อน    


    เพื่อไทยล้างไพ่ใหม่หลังแกนนำพรรคสอบตกเรียบ "สมพงษ์-อนุดิษฐ์" เต็งหามนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรคคนใหม่ "ภูมิธรรม" ลั่นไม่ไปไหนอยู่ช่วยพรรคยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตยต่อไป ด้าน "สมพงษ์" ยันเป็นตัวจริง ไม่ใช่สตันท์แมน  
    พรรคเพื่อไทยมีการประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค หลัง พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค ส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดเดิมทั้ง 14 คนพ้นสภาพตามไปด้วย โดยการประชุมครั้งนี้เป็นการหารือเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่จะมีการเลือกในวันที่ 12 ก.ค.
    นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากนี้คณะกรรมการบริหารพรรคจะมีการพูดคุยถึงบุคคลที่เสนอชื่อและมีความเหมาะสมเข้ามาชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และจะต้องรับฟังตำแหน่งของ ส.ส.และตัวแทนแต่ละจังหวัด เพื่อให้สมาชิกพรรคทุกคนมีส่วนร่วม ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมืองอย่างเคร่งครัด ในส่วนกระแสข่าวที่มีการเสนอชื่อน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ อาจทำให้เกิดความไม่พอใจของ ส.ส.อีสานนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการเสนอชื่อใครออกมาเลย ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน ที่ผ่านมามีแต่เพียงข่าวลือ
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงว่า การประชุมในวันที่ 12 ก.ค. องค์ประชุมประกอบด้วย รักษาการกรรมการบริหารพรรค ผู้แทนภาค ผู้แทนสาขา ตัวแทนประจำจังหวัด ส.ส. อดีตรัฐมนตรี โดยข้อบังคับกำหนดผู้ร่วมประชุมไม่ต่ำกว่า 250 คน การประชุมมีวาระการประชุมวาระเดียวคือเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ จากนั้นหัวหน้าพรรคจะเลือกรองหัวหน้า เลขาธิการพรรค นายทะเบียนพรรค โฆษกพรรค กรรมการบริหารพรรค ไม่เกิน 29 คน กระบวนการจะแล้วเสร็จกลางเดือน ก.ค. มีผู้นำฝ่ายค้านไปทำหน้าที่ในวันที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
    นายภูมิธรรมกล่าวว่า ในส่วนของกระแสข่าวนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น นายสมพงษ์เป็นคนหนึ่งที่มีสมาชิกเสนอ ในวันที่ 12 ก.ค.จะรู้ว่าใครเป็นหัวหน้าพรรค ตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่ต้องผ่านกระบวนการให้บุคลากรในพรรคเลือก ตนเป็นเลขาธิการพรรคตั้งแต่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำหน้าที่ต่อเนื่อง ผ่านช่วงวิกฤติการเมืองตั้งแต่ช่วงชัตดาวน์ประเทศ ประคับประคองพรรคผ่านพ้นมาถึงช่วงรัฐประหาร ดูแลพรรคมาถึงการเลือกตั้ง 24 มี.ค. แม้จะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ก็ได้ร่วมมือทำงานกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด นำพาพรรคในช่วงมีวิกฤตการณ์ อยู่ในตำแหน่งมายาวนานพสมควร ก็ได้เวลาที่พรรคควรหาคนมาทำหน้าที่ 
    "เป็นเรื่องของคนรุ่นหลังแบกรับภารกิจต่อไป ไม่ได้ไปไหน ยังสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตย จะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆในกรรมการบริหารพรรค ไม่คิดจะย้ายพรรค ยังเชื่อมั่นในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยดำรงอยู่ ถือว่าเราผ่านอะไรมามาก ตอนนี้ถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน อาจไปช่วยผู้นำฝ่ายค้านในสภา เป็นฝ่ายสนับสนุนให้ผู้นำฝ่ายค้านของพรรค"
    เขาบอกว่าเพื่อไทยอยู่ในสถานการณ์พิเศษ ต้องระมัดระวังทางการเมืองอย่างสูง ถูกยุบมา 2-3 ครั้งแล้ว ที่เราจะทำคือทำอย่างไรที่รักษากฎกติกาทางการเมืองและอยู่ด้วยความปลอดภัยด้วย ข้อบังคับพรรคที่สามารถมีกรรมการบริหารพรรคได้ถึง 29 คน ถือว่าไม่มากไม่น้อย ส่วนตัวอยากให้กรรมการบริหารเป็นส่วนผสมกันระหว่าง ส.ส. นักการเมืองที่มีประสบการณ์ นักการเมืองคนรุ่นใหม่ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรคชุดใหม่จะปรับเปลี่ยนอย่างไร
    “ความเป็นนักการเมืองที่ยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตย อยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ ไม่เกี่ยวกับตำแหน่ง ไม่อยากเห็นการแย่งชิงอำนาจ การเมืองสมัยใหม่ควรใช้ตำแหน่งหน้าที่ที่เป็นอยู่ สร้างประโยชน์ มนุษย์เราอาจมีกิเลส อาจจะอยากต้องการตำแหน่ง ผมไม่ต้องมีตำแหน่งก็ทำงานได้ ถ้ายังมีเรี่ยวแรงก็ยังทำงานต่อไป ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งอะไร ไม่ว่าเขาจะอยากใช้เราหรือไม่ใช้เราก็ตาม แต่ผมคิดว่ายังสามารถทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยได้”นายภูมิธรรมกล่าว
    ด้านนายสมพงษ์กล่าวว่า ตำแหน่งเลขาธิการพรรคคนใหม่ ขณะนี้ชื่อผู้ที่มีความโดดเด่นมากที่สุด คือ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. ทั้งนี้ ถ้า น.อ.อนุดิษฐ์ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ เชื่อว่า จะไม่มีปัญหาภายในพรรค เพราะระบบการทำงานภายในพรรคนั้นถือว่าดี และเชื่อว่าจะทำให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้
    เมื่อถามว่า คุณสมบัติของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ ควรจะเป็นอย่างไร นายสมพงษ์ กล่าวว่า เราอยากให้ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวต้องเป็นตัวจริง ไม่ใช่สตันท์แมน เพราะในระบบการเมืองนั้น ไม่ควรให้ใครมาเป็นนอมินี หรือทำหน้าที่แทน ดังนั้น เราจึงจะกำหนดให้กรรมการบริหารพรรคทั้ง 29 คนเป็นตัวจริง โดยพรรคเพื่อไทยมีคนรุ่นใหม่มากพอสมควร จึงเห็นควรที่จะเอาคนเหล่านี้มาทำหน้าที่เดินหน้าพรรค พร้อมเรียนรู้งานกับผู้ใหญ่ของพรรคไปด้วย ทั้งนี้ หากรวมตั้งแต่การก่อตั้งพรรคไทยรักไทย จนมาถึงปัจจุบันนี้ ถือว่าพรรคเพื่อไทยมีอายุหลายปีแล้ว เราจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการปฏิบัติงานทางการเมือง ขณะที่คนรุ่นใหม่ก็มีความฉลาดและมีความตั้งใจดีที่จะทำงานทางการเมือง
    “ผมเชื่อว่าถ้า น.อ.อนุดิษฐ์มาเป็นเลขาธิการพรรค จะไม่ก่อให้เกิดปัญหากับ ส.ส.ภาคอีสานที่สนับสนุนคนอื่น แม้จะมีข่าวในทำนองนี้เช่นกัน แต่จะไม่มีแรงกระเพื่อม และทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้ ซึ่งเมื่อทุกคนได้เข้ามาทำงาน ก็ต้องทำให้เห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยและราบรื่น ส่วนผลงานจะออกมาดีหรือไม่นั้น ค่อยมาพิจารณากันอีกครั้ง” นายสมพงษ์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"