สคบ.ซัดตร.รับส่วยยาลดอ้วน


เพิ่มเพื่อน    

    "สคบ." เต้น! โดนหารับส่วย 2 หมื่นบาท เอื้อโรงงานยาลดความอ้วนผิด กม. "เลขาฯ สคบ." ส่งจนท.ลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์สอบข้อเท็จจริง พบที่แท้เป็น "ตำรวจ ปคบ." เรียกรับเงิน "วิระชัย" มึนลูกน้องคือจอมไถตัวจริง ลั่นขอเวลาตรวจสอบก่อน เตรียมเรียกเจ้าของโรงงานมาสอบ 10 ก.ค.นี้ "ญาติ" เผา "สาวอ่างทอง" เหยื่อยาลดน้ำหนักแล้ว 
    ความคืบหน้ากรณีมีข่าวการแอบอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เรียกรับเงินเดือนละ 20,000 บาท เพื่อการประกอบธุรกิจขายยาลดความอ้วน ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบริษัท ดี.ดี.คอสเมด จำกัด โรงงานผลิตยาลดความอ้วน อาหารเสริม ยาไวอะกร้า พร้อมทั้งตรวจยึดของกลาง ทั้งยาลดความอ้วน อาหารเสริม วัตถุดิบที่ใช้ผลิตยา สารต้องห้ามและอุปกรณ์ในการผลิตยาลดความอ้วนจำนวนมาก เลขที่ 65 หมู่ที่ 7 ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ และควบคุมตัวนางวสภัสสร สุลำนาจ อายุ 52 ปี อดีตเภสัชกร ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทดังกล่าวนั้น
    เมื่อวันที่ 7 ก.ค. เฟซบุ๊ก "สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค" เผยแพร่เอกสารข่าว สคบ. เรื่อง ความคืบหน้าล่าสุด "รู้ตัวคนอ้าง สคบ.เรียกเงินฯแล้ว" 
    เนื้อหาระบุว่า จากกรณีข่าวแอบอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูง สคบ.เรียกรับเงินเดือนละ 20,000 บาท เพื่อการประกอบธุรกิจขายยาลดความอ้วน ที่ได้มีการนำเสนอไปเมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) นั้น วันนี้ (7 ก.ค.) มีรายงานความคืบหน้าแจ้งให้ทราบดังนี้
    "เจ้าหน้าที่ สคบ.ได้เดินทางไปยัง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อหาข้อเท็จจริงและร่วมสอบสวนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจากการตรวจสอบพยานหลักฐาน การสอบสวนผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องจากกรณีดังกล่าว ทราบว่าผู้ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง สคบ.นั้น ที่จริงแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ซึ่งมีที่ทำการอยู่ ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ชั้น 4 ซึ่งตรงกับที่ผู้ต้องหาให้การเมื่อถูกจับกุม “ขณะนี้ทราบชื่อและยศของนายตำรวจดังกล่าวแล้ว” หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะนำมารายงานให้ทราบในโอกาสต่อไป"
    นายปฐวี เยาวลักษณ์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า วันที่ 7 ก.ค. ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการ สคบ. ให้ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงในกรณีที่ผลิตและจำหน่ายยาลดความอ้วน ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่ามีการจ่ายผลประโยชน์ให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ สคบ.ที่ส่วนกลางเดือนละหมายหมื่นบาท โดยจากการสอบปากคำผู้ต้องหาในเรื่องดังกล่าว ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาลดความอ้วนดังกล่าวจริง
    "ส่วนกรณีการจ่ายผลประโยชน์ให้เจ้าหน้าที่ สคบ.นั้น จากการสอบพบว่าเป็นการเข้าใจผิด และตัวผู้ต้องหาเองก็ยันยืนว่าไม่ได้สั่งสารผลิตยา จำหน่ายยา และจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของ สคบ. แต่คาดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิดในการจำชื่อของหน่วยงาน ซึ่งมีชื่อย่อที่คล้ายๆ กัน เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องสืบสวนและขยายผลต่อไป" นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สคบ.กล่าว
ที่แท้ ตร.ปคบ.รับส่วย
    ด้านนางวสภัสสร สุลำนาจ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหา กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนจัดหาสารผลิตยา และให้ขายยาลดความอ้วนและอาหารเสริมให้ รวมถึงทางโรงงานได้จ่ายเงินให้เดือนละ 20,000 บาทนั้นเป็นเรื่องจริง แต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ ปคบ. ไม่ใช่ สคบ. ซึ่งอยู่ที่ชั้น 4 ตึกสำนักงาน สคบ. ตนสามารถชี้ตัวและจำหน้าได้อย่างแน่นอน
    ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.กิตติพงษ์ พันธ์ศรี ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.ณัฏฐ์ภาณพ วัชระเสวี ผกก.สภ.นามน พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน เข้าสอบปากคำนางวสภัสสรเพิ่มเติม พร้อมทั้งนำกำลังตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ตำรวจ สภ.นามน เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอต่างๆ กว่า 50 คน เข้าคัดแยกของกลางที่เจ้าหน้าที่ทำการยึดมาจากโรงงานและโกดังเก็บสินค้า
    เบื้องต้นจากการตรวจสอบมีทั้งผลิตภัณฑ์ยาลดความอ้วนและอาหารเสริมปลอมหลายยี่ห้อที่บรรจุกล่องพร้อมจำหน่าย วัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตยา นอกจากนี้ยังพบว่ามีสารต้องห้ามและควบคุมหลายชนิดที่เป็นของปลอม และคาดว่าจะมีการลักลอบนำเข้ามา โดยเฉพาะสารไซบูลทรามีน เฟนตามีน และลอร์คาเซริน ชนิดที่ออกฤทธิ์มีผลต่อระบบประสาท กระทบต่อร่างกาย ทำให้นอนไม่หลับ คลื่นไส้ ปวดหัว ความดันโลหิตสูง ประสาทหลอน ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ ส่งผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเบื้องต้นของกลางที่ยึดมาได้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
    พล.ต.ต.ทินณะรัตน์กล่าวว่า ได้ตั้งชุดเข้ามาคลี่คลายคดี โดยมี พ.ต.อ.ตรีวิทย์กำกับดูแลในเรื่องของพนักงานสอบสวน และมี พ.ต.อ.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ ดูแลในเรื่องการสืบสวนและขยายผล เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ในส่วนการขยายผลผู้ที่ร่วมขบวนการหรือมีการซัดทอดใครนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลและสอบปากคำเพิ่มเติม รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐาน ตามคำสั่งของ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ที่ให้ดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดรายละเอียดได้มาก เพราะจะเสียรูปคดี
    "หลังสอบปากคำผู้ต้องหาเสร็จ พนักงานสอบสวน สภ.นามน จ.กาฬสินธุ์ จะนำตัวส่งฝากขังที่ศาล จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้มีการแจ้งข้อกล่าวหารวม 7 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ผลิตยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต 5.ผลิตอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต 6.จำหน่ายอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต 7.ผลิตและมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต" ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์กล่าว
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิระชัยแถลงข่าวผลการทลายโรงงานผลิตยาลดความอ้วนและเครือข่ายผู้จำหน่ายยาลดความอ้วน หลังเกิดกรณี น.ส.มรกต เจริญกิจ อายุ 30 ปี ชาว อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เสียชีวิตหลังสั่งยาลดความอ้วนจากคลินิกออนไลน์ในเพจ "OBECARE" มารับประทาน 
    พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้มีการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่ากรณีนี้มีการทำเป็นขบวนการ ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบถ้วน ตั้งแต่ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายยาลดความอ้วน รวมจำนวน 7 คน ประกอบด้วย น.ส.อัญมณี หีบแก้ว ซึ่งเปิดบัญชีรับโอนเงิน มีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่า 34 ล้านบาทในรอบปี, นางต้อย เจ้าของโรงงานผลิตยาลดความอ้วน (บริษัท ดี.ดี.คอสเมด จำกัด), หมอเดียร์ เจ้าของคลินิก ซึ่งเป็นลูกสาวของโรงงานผลิตยาลดความอ้วน, ผู้ร่วมกิจการ 2 คนคือ น.ส.ปลา และนายต่อ หุ้นส่วน โอบีแคร์ รวมถึงผู้ส่งยาลดความอ้วนอีก 2 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านายจิรายุส พลศิริ เป็นคนไปส่งยาลดความอ้วนที่ไปรษณีย์เภตรา จ.ปทุมธานี ให้กับผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ น.ส.ปลา, นายต่อ และผู้ส่งยาจะได้รับค่าจ้างจากหมอเดียร์เดือนละ 300,000 บาท
'วิระชัย'มึนขอเวลาสอบ
    "โรงงานผลิตยาที่ จ.กาฬสินธุ์ พบเป็นโรงงานที่ผลิตยาลดความอ้วนผิดกฎหมายรายใหญ่ที่สุดของประเทศ นอกจากนี้ยังพบความเชื่อมโยงว่าเดิมทีเจ้าของโรงงานเป็นขบวนการที่เคยตั้งโรงงานผลิตยาลดความอ้วน "ลีน" ในเครือเมจิกสกินที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งถูกตำรวจบุกเข้าทลายโรงงาน จึงมาสร้างโรงงานใหม่ที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยในวันที่เข้าตรวจค้น พบลูกจ้างกำลังเผาทำลายยาไซบูทรามีนอยู่ 5 จุด โดยสูตรยาทุกตัวที่ผลิตจากโรงงานมีส่วนผสมของไซบูทรามีนทั้งสิ้น และจะใช้วิธีจ่ายยาเป็นชุด เพื่อกดอาการข้างเคียงของไซบูทรามีนจำนวน 7 ชนิด อาทิ ยานอนหลับ แก้อาการนอนไม่หลับ ยาระบาย เพื่อแก้อาการท้องผูก และยาแก้อาการใจสั่นให้รับประทานไปควบคู่กัน หากบริโภคเข้าไปปริมาณมาก อาจจะส่งผลให้ระบบไตและตับทำงานหนักและวายเฉียบพลันจนเสียชีวิตในที่สุด" พล.ต.อ.วิระชัยกล่าว
    ถามว่า เจ้าของโรงงานอ้างมีข้าราชการระดับสูงเข้ามาเกี่ยวข้องการเรียกรับผลประโยชน์ พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน จ.กาฬสินธุ์ ทำการสอบสวนแบบตรงไปตรงมา ไม่ต้องปกปิด ช่วยเหลือ หรือซ่อนเร้นผู้กระทำผิด 
    "ขอเรียนว่าที่มีข่าวว่าเป็น สคบ.นั้น เป็นข่าวมาจากไหนไม่ทราบ ผมยังไม่เคยให้สัมภาษณ์หรือให้ข่าวว่าผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นผู้ใหญ่ใน สคบ.หรือเป็นใคร แต่เมื่อสื่อมวลชนถามว่าหากมีข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร ก็บอกถ้ามีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ตรงไปตรงมา ไม่ว่าข้าราชการคนนั้นจะเป็นข้าราชการหน่วยใดหรือส่วนใดก็ตาม และถ้าข้าราชการคนนั้นเป็นตำรวจ ก็จะยิ่งดำเนินการได้อย่างเต็มที่" พล.ต.อ.วิระชัยกล่าว 
    ซักว่า ทาง สคบ.ระบุผู้ที่เรียกรับผลประโยชน์เป็นตำรวจ ปคบ. พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า ในส่วนนี้ยังไม่ได้มีการตรวจสอบ ขอเวลาให้ตนได้ดำเนินการตรวจสอบก่อน ซึ่งทางผู้ต้องหาที่กล่าวอ้างจะมาพบตนในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ในฐานะผู้เสียหายคดีถูกเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน โดยขอยืนยันหากพบข้าราชการเรียกรับสินบนจริง จะต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยและอาญาอย่างถึงที่สุด
    วันเดียวกัน ที่บริเวณเมรุ วัดแปดแก้ว ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เวลา 16.30 น. นายชูชีพ เปาอินทร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลห้วยคันแหลน เป็นประธานในงานพิธีเผาศพ น.ส.มรกต เจริญกิจ อายุ 30 ปี สาวอ่างทอง ที่เสียชีวิตจากการกินยาลดความอ้วน หลังคลอดลูกคนแรกได้ 6 เดือน สั่งซื้อยาลดความอ้วนจากสื่อออนไลน์เพื่อลดหุ่น กินยาชุดละ 6 วัน ชุดแรกได้ผลน้ำหนักลดทันตา สั่งซื้อชุดที่ 2 แต่กินได้ไม่กี่วันเริ่มมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด อาเจียน ถูกส่งโรงพยาบาลอ่างทองและเสียชีวิต
    นายวิสุทธิ์ ม่วงเจริญ อายุ 38 ปี สามี น.ส.มรกต กล่าวว่า อยากให้การเสียชีวิตของภรรยาตนเองเป็นคนสุดท้าย ที่หลงเป็นเหยื่อของยาลดความอ้วนที่สั่งซื้อทางออนไลน์ และบรรยายสรรพคุณและความเชื่อถือผ่านทางสังคมออนไลน์ จนหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้อย่างรวดเร็ว ขยายผลจับกุมกวาดล้างถอนรากถอนโคน
    "ครอบครัวของตัวเองเบื้องต้นยังไม่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลือ และหลังจากนี้ยังคงใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ต้องเลี้ยงลูกน้อยเพียงลำพัง อยากขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานในการดูแลเยียวยา" สามี น.ส.มรกตกล่าว 
    นายกิตติคุณ เจริญกิจ อายุ 60 ปี พ่อของ น.ส.มรกต ฝากเตือนประชาชนอย่างหลงเชื่อการซื้อยาลดความอ้วนผ่านสังคมออนไลน์ เพราะเราไม่ทราบเลยว่าเป็นเรื่องจริงหรือการหลอกลวง หากจำเป็นควรปรึกษาแพทย์จะปลอดภัยกว่า.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"