ร้านอาหารปลูกเป็นศาลาริมแม่น้ำแม่กลองอยู่ๆ พังถล่ม ลูกค้ากว่า 20 คนถูกเศษไม้เศษปูนร่วงทับตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด พบผู้บาดเจ็บ 23 คน ผู้สูญหายอีก 3 เจอศพแล้ว 1 ราย อีก 2 ยังไม่รู้ชะตากรรม
    เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ ศูนย์นเรนทร สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) รายงานเหตุการณ์ร้านค้าหลายร้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลองช่วงท่าเรือข้ามฟากแสงวนิช อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม มีผู้ได้รับบาดเจ็บและสูญหายจำนวนหนึ่ง ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินระดับต้น​ มูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม และชุดปฏิบัติการฉุกเฉินระดับสูง รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ได้ออกปฏิบัติการงมค้นหาผู้สูญหายภายในแม่น้ำแม่กลอง โดยเบื้องต้นตัวเลขผู้บาดเจ็บและสูญหายยังไม่ชัดเจน กระทั่งเวลาต่อมาจึงมีการยืนยันว่าผู้บาดเจ็บจำนวน 23 คน ถูกนำส่ง รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ส่วนผู้สูญหายมีจำนวน 3 คน
    ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะเกิดเหตุมีคนขึ้นไปรับประทานอาหารบนศาลาดังกล่าว ซึ่งเปิดเป็นร้านอาหาร ประมาณ 10-20 คน จู่ๆ ก็มีเสียงดังแกร๊ก แต่คิดว่าเป็นเสียงท่อนไม้ หรือมีอะไรมาชน กระทั่งศาลาพังถล่มลงมา ทำให้คนที่อยู่บนศาลาตกลงไปในน้ำทั้งหมด
    ด้านตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม และตำรวจท่องเที่ยว ได้เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกและปิดกั้นการจราจร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวก สำหรับจุดเกิดเหตุ เรียกว่าตลาดร่มหุบ อยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง เป็นอาคารอเนกประสงค์เปิดโล่ง ริมถนนเพชรสมุทร 1 ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เปิดเป็นร้านอาหาร ร้านน้ำ และที่พักคอยรอเรือข้ามฟาก ประมาณ 3 ร้าน ลักษณะจะปลูกเป็นซุ้มๆ ทรุดตัวลงไปในแม่น้ำแม่กลองทั้งหมด
    พ.ต.อ.จุมพล สิกเสน ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม กล่าวว่า พบผู้สูญหายแล้ว 1 คน เสียชีวิต ศพอยู่ใต้ซากหลังคาของศาลาที่อยู่ในน้ำ เจ้าหน้าที่กำลังหาผู้สูญหายอีก 2 คน ขณะนี้รถเครนกำลังจะยกศาลาขึ้นมา จากการตรวจสอบช่วงเกิดเหตุมีคนอยู่ในศาลาประมาณ 20 คน ซึ่งศาลาหลังนี้รับคนได้ประมาณ 50-100 คน ก่อนเกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงดังก่อนทรุดพัง กำลังตรวจสอบว่าศาลาหลังนี้ใครรับผิดชอบระหว่างวัดกับเทศบาล ส่วนศาลาอีกหลังที่อยู่ติดกัน เจ้าหน้าที่จะปิดไว้ก่อน และมีการตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือในจุดเกิดเหตุด้วย
    รายชื่อผู้สูญหาย 3 คน ประกอบด้วย 1.นางสุรีพร อุราชื่น อายุ 37 ปี 2.นางสาวพรพิไล เสือเล็ก อายุ 24 ปี และ 3.น้องข้าวตู นักเรียนโรงเรียนวัดป้อมแก้ว
    มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถเครน 1 ตัว ยกตัวศาลาที่จมอยู่ใต้แม่น้ำแม่กลอง แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากตัวศาลาที่ถล่มเป็นปูน จึงต้องเพิ่มเครนอีก 1 ตัว เพื่อเข้ากู้ศาลาดังกล่าว ขณะเดียวกันได้ส่งนักประดาน้ำค้นหาผู้สูญหาย แต่เนื่องจากแม่น้ำลึก 8 เมตร กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและอยู่ในช่วงน้ำขึ้น จึงทำให้เป็นอุปสรรคต่อการค้นหา.